Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ > จดหมายเปิดผนึกถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

จดหมายเปิดผนึกถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

พิมพ์ PDF
จดหมายเปิดผนึกถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และประชาชนคนไทยทุกท่าน
อยากให้ คสช ทั้งคณะ และประชาชนคนไทยทุกคนได้อ่านข้อความของ ดร.ป.เพชรอริยะ อย่างลึกซึ้ง ค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจ หากยังไม่เข้าใจ ติดต่อ ดร.ป.เพชรอริยะ หรือที่ผมก็ได้ ยินดีที่จะเปิดเวทีสัมมนาทำความเข้าใจ โดยขอให้จัดเป็นกลุ่ม ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เรายินดีไปตอบคำถามและอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจ หรือท่านจะมาพบเราก็ได้ นี่เป็นทางออกและแสงสว่างของคนไทยและของประเทศไทย อย่าพลาดโอกาสนี้ครับ เพราะถ้าพลาดรถไฟขบวนนี้ คนไทยและประเทศไทยก็จะตกอยู่ในวังวนเดิมๆ อีกไม่นานก็จะต้องเกิดวิกฤตขึ้นอีก และจะร้ายแรงกว่าเดิม ทั้งความมั่นคงในชีวิต ทรัพย์สิน ของตัวเองและของประเทศชาติ เศรษฐกิจประเทศจะตกต่ำจนโง่หัวไม่ขึ้น  และอาจเลวร้านจนถึงขั้นการล่มสลายของประเทศชาติ


โปรดพิจารณาอ่านข้อมูลเบื้องล่างอย่างมีสมาธิค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทยและอนาคตของประเทศไทย

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

2 มิถุนายน 2557
ด่วนที่สุด แนะนำ คสช. ด้วยเมตตาและปัญญาอันยิ่งใหญ่
ด้วยกองทัพแห่งชาติได้ใช้องค์คว ามรู้ที่ถูกต้องยิ่งใหญ่แก้ไขสถ านการณ์ความขัดแย้งของชาติในวัน ที่ ๒๐ และ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ในสถานภาพ ๒ ลักษณะ คือ 
๑. กองทัพในฐานะเป็นองค์ประกอบแห่ง รัฐ (ทุกประเทศ) ประเทศไทยเป็นประเทศราชอาณาจักร โดยมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ และทรงเป็นจอมทัพไทย 
นี่คือความถูกต้องยิ่งใหญ่ของนายทหารทุกคน ทุกประเทศ โดยผู้นำเหล่าทัพไทย ได้ใส่ใจในฐานะกองทัพเป็นองค์ประกอบแห่งรัฐ และกองทัพได้ทำหน้าที่ในฐานะองค์ประกอบแห่งรัฐ
กองทัพแห่งชาติ กองทัพที่ตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา แต่มีความเข้าใจกันโดยทั้วไปตามกระแสสังคมว่า เป็นระบอบประชาธิปไตย 
หาก “กองทัพแห่งชาติ ตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการฯ “รบที่ไหน แพ้ที่นั่น” ด้วยเหตุผล ดังนี้ ๑) แพ้ทางการเมือง ๒) ตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง ๓) ฝ่ายตรงข้ามรุกทางการเมืองอย่างเป็นไปเอง
ในความเป็นจริงกองทัพตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญฯ แต่เข้าใจผิดว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย นี่คืออันตรายที่สุดของกองทัพในฐานะองค์ประกอบแห่งรัฐ กลายเป็นว่ากองทัพไทยเป็นกองทัพที่อ่อนแออย่างไม่น่าเป็นไปได้ 
คสช. น่าจะได้ล่วงรู้แล้วว่า หากกองทัพตกอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการนั่นคือ ความหายนะของประชาชนและประเทศชาติและเป็นความหายนะของกองทัพในท้ายที่สุด
๒) กองทัพในฐานะกลไกรัฐ (State Machine) คือเป็นหน่วยงานราชการ อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีในยามปกติ ประเด็นนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ในยามวิกฤต กองทัพจะต้องทำการวิเคราะห์ วิจัย ปรึกษานักปราชญ์ ราชบัณฑิต ผู้รู้ทั้งหลาย เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่า ระบอบคืออะไร ระบอบในปัจจุบันมันเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา มันเป็นอย่าไร มันสร้าความหายนะให้ชาติมากมายมหาศาลอย่างไร นักการเมืองโกงกินชาติ คอร์รัปชั่นอย่างไร ฯลฯ
กองทัพได้รู้แล้วว่า ในแต่ละฝ่ายพรรคการเมืองและมวลชนนั้น ก็ไม่มีแนวทางที่แก้ไขเหตุวิกฤตชาติได้เลย ภาพที่ออกมาต่างก็เพื่อแย่งชิงอำนาจซึ่งกันและกัน ทำลายล้างซึ่งกันและกัน ต่างก็ต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งล่มจมสูญหายไปจากแผ่นดินไทย
ขณะนี้กองทัพแห่งชาติได้ใช้สัมพันภาพหลักในฐานะกองทัพคือองค์ประกอบแห่งรัฐ โดยได้ใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ “ความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกฎหมายสูง” นี่หลักสากลที่ยึดถือกันทุกประเทศ จะบัญญัตด้วยลายลักษณ์อักษรหรือไม่บัญญัติไว้ก็ตาม
ในขณะนี้ แนวทางอันยิ่งใหญ่ คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองและได้ยกเลิกกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ลงไปแล้ว ก็เท่ากับว่าในขณะนี้ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญได้สิ้นลงไปแล้ว ต่อจากนี้ก่อนอื่นใดทั้งสิ้นคือ การประกาศนโยบายสร้างชาติอย่างยิ่งใหญ่ คือ โดยการประกาศชูธงสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ 
ระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยคือ หลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งสรุปมาจากอุดมการณ์แห่งชาติ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขยายความออกมาเป็นหลักความยุติธรรม มั่นคง เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า สันติสุขทั้งทางจิตใจ กาย การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ในการอยู่ร่วมกัน กล่าวโดยย่อคือ
๑. หลักธรรมาธิปไตย คือบ่อเกิดแห่งสันติสุขและความดีทั้งปวง (ลึกซึ้งเกินที่จะกล่าวในที่นี้)
๒. หลักพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ
๓. หลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน (อำนาจบ้านเป็นของเจ้าของบ้าน อำนาจประเทศเป็นของเจ้าของประเทศ)
๔. หลักเสรีภาพบริบูรณ์ (คือการให้ศักยภาพสูงสุดแก่ปวงชน มีพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง)
๕. หลักความเสมอภาคทางโอกาส (เพื่อให้ประชาชนแสดงศักยภาพของตนๆ ได้อย่างเต็มที่)
๖. หลักภราดรภาพ (ไม่มีการแบ่งชนชั้น ศาสนา)
๗. หลักเอกภาพ (ความเป็นเอกภาพของปวงชนและในทุกองค์กร)
๘. หลักดุลยภาพ (ความมั่นคง ตั้งอยู่บนฐานแห่งสันติสุข)
๙. หลักนิติธรรม (ข้อที่ ๑-๘ ประมวลเป็นหลักนิติธรรม เป็นแม่บท เป็นบ่อเกิดกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายทั้งปวง)
หลักการปกครองธรรมาธิปไตย ๙ นี้ ล้วนเป็นสิ่ง เป็นหลักธรรมที่ไม่ตาย ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นของคนไทยทุกคนต่างก็สืบทอดกันมา โดยที่ท่านทั้งหลายก็ได้ปฏิบัติอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว โดยท่านทั้งหลายอาจจะไม่รู้ตัว ซึ่งทุกคนต่างก็ได้ปฏิบัติเช่นนี้ในยามปกติเมื่อปฏิบัติต่อผู้อื่น จึงได้นำมาแสดงให้เห็นชัดเจนอย่างเป็นทางการในทางการเมือง ซึ่งจะได้รับรู้โดยทั่วกัน และเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของชาติ (คือทั้งอำนาจและสิทธิหน้าที่ของประชาชน) 
ได้เสนอ คสช. ได้ร่วมมือกันพิจารณาผลักดันหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ให้สำเร็จในเร็ววัน ไม่อย่างนั้น คสช. จะตกเป็นฝ่ายรับทางการเมือง และจะแก้ยากและอันตรายจะเกิดขึ้นจากฝ่ายตรงที่เห็นผิดเรื่องประชาธิปไตย 
ทำสำเร็จแล้วคือความถูกต้องโดยธรรมชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป อย่างไม่มีวันจบสิ้น นั่นก็คือ การสถาปนาสัมพันธภาพระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 กับปวงชนในชาติ
สัมพันธภาพที่หนึ่ง คือสัมพันธภาพระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 กับประชาชนทุกหมู่เหล่า
ดวงอาทิตย์ เป็นเอกภาพของดาวเคราะห์ ฉันใด
หลักการปกครองธรรมาธิปไตย ย่อมเป็นเอกภาพของปวงชน ฉันนั้น
สัมพันธภาพที่สอง คือสัมพันธภาพระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 กับกฎหมายรัฐธรรมนูญ 
พี่น้องประชาชนทั้งหลาย พึงทราบว่า สัมพันธภาพที่หนึ่ง คือสัมพันธภาพระหว่างหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 กับประชาชนทุกหมู่เหล่า จะเกิดขึ้นได้นั้น เป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของกองทัพแห่งชาติและพี่น้องประชาชนทุกคน เพราะนี่เป็นการสร้างการเมืองโดยธรรมให้แก่พี่น้องเพื่อนร่วมชาติอย่างถูกต้องยิ่งใหญ่และเป็นชัยชนะของปวงชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
เป็นการร่วมกันขจัดความเห็นผิดชั่วร้ายของชาติ ได้แก่ 
๑) ความเชื่อ ความเห็นผิดอันร้ายแรงที่สุดต่อชาติของนักการเมืองคือ “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” “ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” ซึ่งแนวทางอันล้มเหลวนี้ จะร่างรัฐธรรมนูญสัก ๑๐๐ ครั้ง ๑,๐๐๐ ฉบับ ก็ ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นเป็นจริงได้ จะได้แต่ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ทุกครั้งไป เพราะจัดสัมพันธภาพผิดอย่างร้ายแรงนั่นเอง 
๒) ขจัดความขัดแย้ง แตกแยกของประชาชนในชาติที่แก้ไขยากที่สุด 
๓) ขจัดความฉ้อฉลทั่วทั้งแผ่นดิน “ที่ไหนมีงบประมาณ ที่นั้นมีคอร์รัปชั่น” คือเป็นเหตุของการคอร์รัปชั่นอย่างใหญ่โตมโหฬารที่แก้ไขได้ยากและยากที่สุด 
๔) ขจัดระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ โดยพรรครัฐบาลและพวกพ้องเพียงหยิบมือเดียวได้หมดสิ้นไป ขจัดระบอบเผด็จการรัฐสภาได้หมดสิ้น ขจัดระบอบทักษิณได้หมดสิ้น
๕) จะทำให้ทุกรัฐบาลสามารถบริหารประเทศได้และทุกรัฐบาลจะดีหมด เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชนและถือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ๙ ฯลฯ
พร้อมๆ กับการอธิบายให้เหล่าพสกนิกร ประชาชนทุกหมู่เหล่า ให้เข้าใจ ว่านี่คือ แนวทางการเมืองของประชาชนและชาติที่โปร่งใสอย่างแท้จริง ซึ่งหลักการปกครองธรรมาธิปไตย ๙ มีลักษณะที่ยิ่งใหญ่แทรกอยู่ในหลายๆ ลักษณะ ดังนี้ 
๑) เป็นหลักการปกครองโดยธรรมอย่างแท้จริง สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกับ พระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
๒) เป็นระบอบการเมืองของปวงชนอย่างแท้จริง โปร่งใส นำไปปฏิบัติได้จริง
๓) เป็นเอกภาพ รู้รักสามัคคีธรรม เป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริงอย่างเปิดเผย รับรอง ยอมรับแล้วจะมีแต่ความดีงาม เจริญ รุ่งเรืองก้าวหน้าทั้งทางใจ กาย การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ
๔) เป็นบ่อเกิดของกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยธรรมและกฎหมายอื่นๆ 
๕) เป็นหลักนิติธรรม (Rule of Law) อย่างแท้จริง
๖) เป็นหลักการที่ทำให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนโดยแท้จริง จะทำให้ประชาชนมีจิตสำนึกรักชาติ ตื่นตัวทางการเมือง และสังคมอย่างรอบด้าน
๗) เป็นหลักการ ทางการเมืองของปวงชนอย่างแท้จริง เอาไว้ตรวจสอบการกระทำของข้าราชการและนักการเมือง
๘) เป็นหนึ่งเดียวกับอุดมการณ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
๙) เป็นการจัดความสัมพันธ์ที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ 
“จุดหมาย ต้องมาก่อน เกิดก่อนวิธีการ” ฉันใด 
“ยุทธศาสตร์แห่งชาติต้องมาก่อนยุทธวิธีแห่งชาติ” ฉันใด 
หลักการปกครองธรรมาธิปไตย ต้องมาก่อนกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น 
“เราจะเข้าถึงสิ่งใด สิ่งนั้นต้องมีอยู่ก่อน เกิดขึ้นก่อน
เป็นการสร้างชาติอย่างถูกต้องยิ่งใหญ่ร่วมกันระหว่างกองทัพแห่งชาติกับประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีกองทัพแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ ฯลฯ ทั้งเป็นการรุกทางการเมืองต่อฝ่ายต่อต้านทุกภูมิภาคและรุกต่อด้านสากลด้วยการเมืองที่เหนือกว่าและเปิดเผย
ระบอบเผด็จการทุกชนิด ไม่สามารถเสนอหลักการปกครองฯได้ เพราะเขาเสนอไม่ได้ ไม่รู้จริง ไม่เข้าใจ เห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติว่า “รัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย” ทั้งจะหลอกลวงประชาชน ให้โง่งมงาย ให้เป็นทาสทางการเมืองต่อพวกเขาให้ยาวนานที่สุด 
กองทัพแห่งชาติ คสช. และพวกเราทั้งหลายร่วมกันต่อสู้ อย่างมีปัญญาในแนวทางการเมืองแห่งราชอาณาจักรเถิด
แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 02 มิถุนายน 2014 เวลา 10:47 น.  
Home > Articles > สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ > จดหมายเปิดผนึกถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5603
Content : 3043
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8591779

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า