Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๔. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ต่อด้วยสวิส ๖. ซูริค

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๔. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ต่อด้วยสวิส ๖. ซูริค

พิมพ์ PDF

เพราะเราเดินทางด้วยสายการบินไทย ไป-กลับ กรุงเทพ-ซูริค เราจึงวางแผนเที่ยวซูริคและบริเวณ ใกล้เคียงของสวิสตอนขากลับ โดยไปพักที่ซูริค ๓ คืน จองโรงแรม 25Hours Hotel Zurich West, Pfingstweidstrasse 102, 5. Gewerbeschule – Escher Wyss, Zurich 8005 ระหว่างวันที่ ๕ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๗ ค่าที่พัก ๔๒๕ ยูโร และเขาเก็บเงินทันทีที่จอง ดังเล่าแล้ว ที่นี่

วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๗เราเดินทางจาก ลียง ไป ซูริค ด้วยรถไฟแบบที่หากปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่ Accueil ต้องต่อ ๓ ต่อ คือจาก ลียง ด้วยรถขบวน 17971 (6.40) ไป Chambery-Chal.-les-Eaux (7.58) ต่อด้วยขบวน 96608 (8.43) ไป เจนีวา (9.57) หลังจากนั้นต้องขึ้นรถเจนีวา ลูเซิร์น ไปลง เบิร์น แล้วต่อรถอีกขบวนไปซูริค แต่สาวน้อยบอกว่า เราหาขบวนรถของสวิสเองจากเว็บไซต์ของการรถไฟสวิสดีกว่า คืนวันที่ ๔ เราจึงค้นทาง อินเทอร์เน็ต ได้ขบวนรถ ICN 523 (10.18) จากเจนีวาถึงซูริค 12.56 โดยตรงเลย แถมยังรู้ด้วยว่า ขึ้นที่ราง 6

ระหว่างนั่งรถไฟ ลียง - แชมเบอรี ฟ้าครึ้มฝนและมีหมอกจากไอน้ำระเหยจากฝนที่ตกเมื่อวาน ทิวทัศน์เป็นพื้นที่เกษตรกรรมสวยงามมาก

ที่สถานี แชมเบอรี สาวน้อยตาไว ดูจอเล็กๆ บอกชาลาที่รถไปเจนีวาออก ว่าเป็นชาลา A เราก็ลงบันได จากชาลาที่รถจอด ไปขึ้นลิฟท์ สู่ชาลา A ซึ่งอยู่ตรงหน้าสถานีนั่นเอง แล้วหาที่นั่งพักในสถานี ตอนเช้าเช่นนี้ อากาศค่อนข้างเย็น น่าจะราวๆ ๑๘ องศา

เรากำลังนั่งรถไฟออกจากฝรั่งเศสเข้าสู่สวิตเซอร์แลนด์ ผมมีความรู้สึกว่าคนฝรั่งเศสกำลังจะ กลายเป็นคนป่วย จากการสูบบุหรี่มาก และจากการเป็นโรคอ้วน

เมื่อลงที่สถานีเจนีวา ผู้โดยสารต้องเดินผ่านด่านตรวจศุลกากรของฝรั่งเศส ซึ่งไม่มีคนตรวจเลย ไม่เห็นเจ้าหน้าที่แม้แต่คนเดียว เราเดินไปยังชาลา ๖ รอสิบนาทีรถก็มา เป็นข้อพิสูจน์ว่า สำหรับการวางแผน ขึ้นรถไฟในสวิส สาวน้อยเก่งกว่าเจ้าหน้าที่ของ Accueil การรถไฟฝรั่งเศส เรานั่ง ICN 523 สุดทาง St. Gallen ไปลงที่ซูริคเลย (10.18 – 12.56) ระหว่างทางได้งีบหลับเป็นระยะๆ โดยขึ้นไปนั่งตู้ชั้น ๑ ส่วนที่เป็นห้องเงียบ ห้ามทำเสียงดัง เป็นครั้งแรกที่เราพบบริการเช่นนี้บนรถไฟ

ลงจากสถานี Zurich HB ถามทาง และหลงลงรถรางสาย ๔ ก่อนถึงโรงแรม 25Hours เป็นโรงแรมที่ หายากและไกลสถานีรถไฟที่สุดในการเดินทางครั้งนี้ แต่เมื่อถึงห้องพักก็หายเหนื่อย เพราะห้องดีเกินคาด ระดับห้องอยู่ในเกณฑ์ ๔ ดาว การตกแต่งห้อง เตียงนอน และห้องน้ำ สุดหรูและอยู่สบาย แต่ไม่มีแปรงสีฟัน หวี โลชั่น ผมสรุปว่า บริการโรงแรมในยุโรปไม่เน้นให้ของใช้กระจุกกระจิก ต่างจากบ้านเรา และในอเมริกา

เราขอแผนที่ และคำแนะนำการเที่ยวเมือง จากสาวที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ ขึ้นไปพักผ่อนในห้องนิดหน่อย แล้วออกชมเมือง เพราะเรามีบัตรโดยสารรถราง ๒๔ ชั่วโมง การซื้อตั๋วรถรางมีหลักว่า อย่าซื้อตั๋วชนิด ใช้ครั้งเดียว ราคา ๔.๒ ฟรังก์ ให้ซื้อชนิด ๒๔ ชั่วโมง ราคาคนละ ๘.๔ ฟรังก์ ตั๋วทั้งสองชนิดใช้กับระบบ ขนส่งมวลชนได้ทุกชนิด

เรานั่งรถรางสาย ๔ กลับไปทางสถานีรถไฟ และเลยไปเลียบทะเลสาบ จนสุดทางที่สถานีรถไฟ Teifenbrunnen มีสวนสาธารณะเล็กๆ ริมทะเลสาบ สาวน้อยซื้อไอศครีมโคนไปนั่งกินและถ่ายรูป อย่างสำราญใจ แล้วนั่งรถรางสาย ๔ กลับ ผ่านสถานี Toni Areal ที่โรงแรมเราอยู่ในย่าน Zurich West ไปสุดทางอีกทางหนึ่ง

วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๗เราตื่นตั้งแต่ตี ๕ ด้วยนาฬิกาปลุก ที่นอนและห้องพักของโรงแรม 25Hours นอนสบายช่วยให้เราหลับสนิทและยาว

กินอาหารเช้าที่ซื้อจากสถานีรถไฟเมื่อเย็นวาน อิ่มเอมเปรมปรีดิ์แล้วก็ออกเดินทาง (ด้วยรถรางสาย ๔ เจ้าประจำ) ไปที่สถานีรถไฟ จับ ICN 509 เที่ยว 7.09 น. ที่ Platform 10 ไป St. Gallenรถสายนี้ผ่าน Flughafen หรือสนามบินด้วย ข้อมูลของการรถไฟสวิสดีกว่าของฝรั่งเศส ตรงที่เรารู้หมายเลขชานชาลาล่วงหน้า ไม่ต้องไปรอลุ้นหน้าจอ อย่างของฝรั่งเศส

ตอนเดินเข้าไปในโถงใหญ่ของสถานีรถไฟ พบว่าต่างจากเย็นวานโดยสิ้นเชิง มีการจัดสถานที่จัดงาน Young Enterprise Switzerland แสดงว่าเขาสร้างอาคารสถานีรถไฟไช้ประโยชน์หลากหลาย ในฐานะเป็นสถานชุมนุมคน

ซูริค เป็นนครแห่งรถราง มีรถรางเป็นบริการขนส่งมวลชนหลัก เป็นเมืองทันสมัย เมื่อวานพอลงจากรถไฟผมก็สังเกตว่าคนที่ขึ้นลงรถไฟแต่งตัวเรียบร้อย สวมเสื้อนอก และบางคนผูกเน็คไทด้วย ที่สถานีรถไฟมี Information Center ใหญ่ มีเอกสารภาษาอังกฤษมากกว่าเมืองอื่นๆ

วันนี้ เราเอาเอกสารเหล่านั้น มาอ่านประกอบหนังสือ ใครๆ ก็ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ อ่านบนรถไฟ ตอนเช้า แล้วปรับปรุงแผนเที่ยวของวันนี้ ได้นั่งรถสาย Scenic เที่ยวเพิ่มขึ้น คือสาย Pre-Alpine Expressจาก Herizau ไป Rapperswil


St. Gallen

จาก ซูริค รถไฟใช้เวลาชั่วโมงเศษก็ถึงเมืองซังต์ กอลเล็นสาวน้อยเดินถามทางไปมหาวิหารซังต์ กอลเล็นคนบอกทางผิดให้เราเดินอ้อม แต่ก็ถึงอยู่ดี เมื่อเข้าไปในวิหารเราก็ตะลึงกับความงดงามวิจิตรตระการตาสุดๆ เป็นศิลปะโกธิค มีไม้แกะสลักมากเป็นพิเศษกว่าวิหารอื่นๆ ที่ผมเคยเห็น มีครูพานักเรียนมาชมเป็นกลุ่มเล็กๆ

หลังจากนั้นสาวน้อยหาทางไปห้องสมุด Abbey Library of St. Gallซึ่งเราต้องจ่ายค่าตั๋วเข้าชมคนละ ๑๒ ฟรังก์ ซึ่งก็คุ้ม เพราะเป็นห้องสมุดที่สะสมหนังสือโบราณไว้มากมาย และจัดแสดงการผลิตหนังสือในสมัยโบราณ ที่ใช้คนเขียนคัดลอกทีละเล่ม โดยใช้ปากกาขนนก ดังนั้น ในเล่มหนังสืออาจมีส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือ เช่นภาพลายเส้นเพื่อทดสอบปากกา คำเขียนขออภัยหากคัดลอกผิดเพี้ยน หรือหมายเหตุระบุชื่อผู้คัดลอก สาวน้อยติดใจว่าหนังสือโบราณซึ่งยังไม่มีกระดาษ ใช้หนังแกะ (parchment) ซึ่งอาจมีรู คนเขียนจะเขียนตัวหนังสือเลี่ยงรู และเจ้าของหนังสือจะใช้ด้ายชุนรอยขาดนั้น เขามีตัวอย่างของจริงมาจัดแสดง

ชาวจีนเป็นผู้ค้นพบวิธีทำกระดาษ ประมาณ ๑๐๐ ปีก่อน ค.ศ. แล้วเทคโนโลยีนี้ค่อยๆ แพร่เข้าสู่ยุโรป ผ่านทางเส้นทางสายไหม

บุคคลทั่วไปสามารถเข้าอ่านหนังสือโบราณเหล่านี้ ใน virtual library ที่นี่


Appenzell

จาก ซังต์ กอลเล็น เรานั่งรถไฟสาย Appenzell เที่ยว 11.38 น. ไปลงที่ Appenzellเพื่อไปชมเมืองเล็กๆ ตามคำแนะนำของหนังสือนำเที่ยว แต่ผิดหวัง ไปถีงเลยเที่ยง i ปิด เวลาเปิดใหม่ 14.00 เราเดินชมเมืองเก่าเล็กๆ อันสวยงามแล้วกลับไปสถานี รอรถเที่ยว 13.30 น. เพื่อไปลงที่ Herisau เพื่อต่อรถ Pre-Alpine Scenic Route ชมวิว และไปเที่ยวเมือง Rapperswil


Rapperswil

ที่ Rapperswilเมืองแห่งกุหลาบ ผมไปบอก จนท. Informatioin Center ว่าขอคำแนะนำ ใช้เวลาครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงเดินชมเมืองเธอให้แผนที่เมืองเก่าแนะนำให้เดินชมเมืองเก่ารอบเล็ก ๓๐ นาที เราเดินไปตามคำแนะนำ ได้ชมเมืองเก่า ชมสวนกุหลาบ และนั่งริมทะเลสาบซูริค ฟังเสียงนกร้อง ดูฝูงเป็ด เดินไปดูบริเวณแผ่นดินสามเหลี่ยมที่ยื่นออกไปในทะเลสาบซูริค เป็นที่น่านั่งพักผ่อน ลมดี วิวดี

เรากลับซูริคด้วยรถ S-Bahn เที่ยว S7 ออกเวลา 16.10 น. ถึงซูริคไม่ถึง ๑๗ น.

สรุปว่า วันที่ ๖ มิถุนายน เราเที่ยว ๓ เมือง คือ St. Gallen ไปชมวิหารและห้องสมุด Appenzell ไปชมเมืองเล็กๆ ที่ตึกรามสวยงาม และ Rapperswil ไปชมเมืองแห่งดอกกุหลาบ และนั่งรับลมริมทะเลสาบ

วันเสาร์ที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๗เรามีแผนเที่ยว ๓ ที่ คือ (๑) เมือง ชาฟฟ์เฮาเซ่น (๒) เมือง ชไตน์ อัม ไรน์ และ (๓) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติสวิส (Schweizeriches Landesmuseum) ในซูริค


Schaffhausen

เราไป Schaffhausenด้วยรถไฟ IC ออกจาก ซูริค 7.05 - 7.43 รถไฟขบวนนี้ไปสุดปลายทางที่เมือง ชตุ๊ทการ์ท เยอรมัน เป็นครั้งแรกที่ผู้ตรวจตั๋วถามว่าจะไปไหน หลังจากนั้นไปไหน

วันนี้สาวน้อยหัวหน้าทัวร์พาไปเที่ยวเมืองที่อยู่ในอ้อมกอดของประเทศเยอรมัน และมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ที่จริงมีน้ำตกไรน์อยู่ใกล้ๆ ด้วย แต่เราไม่มีเวลาไป เพราะจะต้องกลับซูริค ไปชมพิพิธภัณฑ์สักสองชั่วโมง ก่อนพิพิธภัณฑ์ปิดเวลา ๑๗ น. อย่างไรก็ตาม ตอนรถไฟจะแล่นเข้าเมือง Stein am Rhein เราก็เห็นน้ำตก อยู่ไม่ไกลนัก ถ่ายรูปได้ แต่ไม่ค่อยสวย เพราะมีแสงสะท้อนจากกระจกรถไฟ

รถไฟแล่นมาสุดปลายทางที่สถานีซูริคชาลา ๑๓ผู้โดยสารลง แล้วเราขึ้น อีกไม่กี่นาทีรถก็ออก แสดงว่าโบกี้และหัวรถจักรไม่ได้พักเลย เมื่อเห็นหัวรถจักรแล่นเข้ามาสาวน้อยอุทานว่าหัวรถจักรเก่าจัง

ที่ ชาฟฟ์เฮาเซ่น เราสนุกมาก กับการเดินชมอาคารที่มี balcony ยื่นออกมาเป็นหน้าต่าง ตกแต่งสวยงาม และป้ายแขวนหน้าอาคารบอกสินค้าในร้านที่เป็นรูปสวยงาม ที่ถนน Oberstadt สาวน้อยสนุกกับการซื้อผลไม้ ที่ตลาดชาวสวน ซึ่งอยู่ติดกับโบสถ์ St. Johannแล้วเราถามทางไปป้อมมูนอท (Munot) มีคนชี้ให้และเตือนว่าบันไดสูง เรากัดฟันขึ้นบันไดราวๆ ร้อยขั้น ไปพบว่ามีทางขึ้นอื่นที่ขึ้นง่ายกว่า แต่เราก็ได้เดินชมบริเวณ ที่ทำเป็นสวนสาธารณะสวยงาม และมีคนมาเที่ยวบ้าง เราถามทางลงซึ่งมีหลายทาง ตอนแรกเดินลงไปถ่ายภาพแม่น้ำไรน์ก่อน แล้วเดินกลับอีกทางหนึ่งซึ่งโชคดี ผ่านสวนกุหลาบอีกแล้ว แถมดีกว่าที่ Rapperswil ตรงที่เขาบอกพันธุ์กุหลาบด้วย และเมื่อลงไปอีก มีแปลงกุหลาบป่า ซึ่งก็มีป้ายบอกพันธุ์ เช่นเดียวกัน


Stein am Rhein

จาก ชาฟฟ์เฮาเซ่น เรานั่งรถไฟ S8 เที่ยว 11.01 น. ไป ชไตน์ อัม ไรน์ ใช้เวลาเพียง ๒๕ นาทีก็ถึง สาวน้อยถามทางไปสะพานข้มแม่น้ำไรน์ สู่เมืองเก่า ชไตน์ อัม ไรน์ ที่นี่มี ภาพวาด fresco ที่ผนังอาคารมากกว่าที่ Schafhausen แต่หน้าต่างแบบ balcony มีน้อยกว่า ที่จริงสองเมืองที่เราไปเที่ยววันนี้คล้ายๆ กัน ต่างกันที่ที่ ชไตน์อัมไรน์ มีแม่น้ำไรน์ให้เราเดินเลียบ และมีคนเอาแพยางมาสูบลมและลงพายเล่น และเมื่อเราไปนั่งรอรถไฟที่สถานี นกไนติงเกลร้องขับกล่อมไพเราะมาก

ระหว่างเดินเล่น เราได้อาศัยกินลูกเชอรีที่สาวน้อยซื้อจากตลาดชาวสวนที่ ชาฟฟ์เฮาเซ่น ในราคากิโลละ ๑๒ ฟรังก์ กลับถึงซูริคก็หมดหนึ่งกิโลพอดี

ที่ ชไตน์ อัม ไรน์ ลายแทงของเราบอกว่า รถไฟกลับซูริค ออกที่ชาลา ๓ แต่สาวน้อยผู้รอบคอบไปดูป้ายเหลืองแล้วบอกว่าชาลา ๑ และพาผมไปชาลา ๑ ซึ่งไม่ใช่จุดที่ผมคาด ถ้าผมไปคนเดียวคงจะตกรถไฟ เที่ยวนี้บทเรียนนี้สอนว่า แม้ข้อมูลของการรถไฟสวิสที่ว่าแม่นยำ ก็ยังผิดพลาดได้ ต้องตรวจสอบที่สถานี ให้แน่นอน

เรานั่งรถท้องถิ่นไป Winterthur เที่ยว 13.06 - 13.48 น. ตามลายแทงที่เราค้นมาจากอินเทอร์เน็ต เราจะต่อ S-Bahn 12 เที่ยว 19254 ที่ชาลา ๓ เวลา 13.52-14.11 ไปซูริค แต่สาวน้อยตาดี พอลงจากรถไฟที่ชาลา ๕ ของ วินเทอร์ทูร์ ก็เห็นป้ายที่ชาลา ๔ ว่ารถไปซูริค เวลา 13.55 เราจึงไม่ต้องเดินไกล แค่ย้ายฟากของชาลาเท่านั้น

กลับมาถึงสถานีรถไฟซูริค เวลา ๑๔.๒๕ น. เราขึ้นรถรางสาย ๔ ไปลงป้าย Museum เมื่อเข้าไป ปรากฏว่าเป็นพิพิธภัณฑ์การออกแบบ เราถามว่าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสวิสอยู่ที่ไหน จึงทราบว่าอยู่หน้าสถานี รถไฟนั่นเอง


พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสวิส

เราไปซื้อตั๋ว ราคาคนละ ๘ ฟรังก์ และเอากระเป๋าไปฝากใน ล็อกเกอร์ แล้วไปดูนิทรรศการ๒ รายการ คือ (๑) สวิสในระหว่างปี 1900 – 1914 มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง พอเข้าไปถึง ก็เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลง สถานะของผู้หญิง จากถูกครอบงำ มาเป็นมีเสรีภาพมากขึ้น ต่อมาก็เป็นผลงานวิชาการของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ บอกว่าคนเราไม่ได้ทำตามเหตุผล แต่มีพฤติกรรมตามจิตใต้สำนึก และอื่นๆ อีกมากในช่วงเวลาเพียง ๑๕ ปี ในต้นศตวรรษที่ ๒๐ ปิดท้ายช่วงเวลา ๑๕ ปี ด้วยสงครามระหว่างมหาอำนาจ

นิทรรศการที่ (๒) คือ ประวัติศาสตร์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่เขาเริ่มต้นดีมาก ว่า ประเทศสวิต เซอร์แลนด์ ประกอบด้วยคนหลายชนชาติมาตั้งแต่ต้น และในช่วงเวลาต่างๆ มีคนจากประเทศอื่นอพยพ เข้ามาอยู่เป็นระลอกๆ ที่ผมชอบมากคือเรื่องราวการต่อสู้แย่งอำนาจระหว่างกษัตริย์กับชนสามัญปกครองตนเอง ที่ในที่สุดชนสามัญปกครองตนเองชนะ พัฒนาสู่ความเป็นประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน ที่พลเมืองมีคุณภาพชีวิตสูงมาก และความเป็นประชาธิปไตยสูงมาก

เว็บไชต์ ของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติสวิส ที่นี่

ตกเย็นคนแก่ก็หมดแรง เพราะเราออกเที่ยวตั้งแต่ไก่โห่ คือก่อน ๗ น. ยิ่งเดินดูพิพิธภัณฑ์สาวน้อย ยิ่งเมื่อยง่าย ส่วนผมตรงกันข้าม ชมพิพิธภัณฑ์เมื่อไรมีแรงคึกคัก แต่ก็ต้องตัดใจชมแต่พอประมาณ และกลับโรงแรมเกือบ ๑๗ น.

๗ มิ.ย. ๕๗

โรงแรม 25 Hours, Zurich West

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

สนใจดูภาพประกอบโปรดกด link :http://www.gotoknow.org/posts/571666

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 11 กรกฏาคม 2014 เวลา 13:10 น.  
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๔. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ต่อด้วยสวิส ๖. ซูริค

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5603
Content : 3043
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8591652

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า