Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๐. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๔. ลียง

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๐. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๔. ลียง

พิมพ์ PDF

วันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ก่อนออกเดินทาง ผมค้นใน กูเกิ้ล พบโพสต์ เที่ยวไปตามฝัน ๙ วันในฝรั่งเศส ตอนที่ ๕ ลียง จึงได้ virtual tour ก่อนไปเที่ยวจริงๆ

ที่ ลียง (Lyon) เราจองโรงแรม Athena Part-Dieu, 45 Boulevard Marius Vivier Merle สองช่วง คือ ๓๑ พฤษภาคม - ๒ มิถุนายน กับ ๔ - ๕ มิถุนายน ๒๕๕๗ สองวันแรกค่าโรงแรม ๑๓๐ ยูโร วันหลังวันเดียว ๑๑๐ ยูโร โดยสองวันระหว่างกลางเราไปเที่ยวและพักที่ อาวียง เราอาศัยฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่โรงแรม Athena

เช้าวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เราออกจากโรงแรม Nouvel ลากกระเป๋าไปสถานี ที่อยู่ห่างไปเพียง ๑๐๐ เมตร ไปพบคนเมากลิ่นเหล้าฟุ้ง เห็นเราหยุดถ่ายรูปตรงสวนสาธารณะ ก็เข้ามาคุยและถ่ายรูปด้วย เราระวังตัวแจ กลัวโดนลอกคราบ

ที่สถานีรถไฟ ผมพบวิธีใช้ Wifi ฟรีของร้านขายอาหารและของจิปาถะ chez-jean โดยต้องลงทะเบียน ก่อน คงเพื่อความปลอดภัย

ตอนนี้เราเริ่มชำนาญการตรวจสอบข้อมูลรถไฟ และลู่ทางไปขึ้นรถแต่ละขบวนแล้ว เขามีป้าย กระดาษสีเหลืองเป็นขบวนรถออกประจำวัน ป้ายสีขาวเป็นขบวนรถเข้า และมีป้าย LCD พื้นสีฟ้าบอกรถออก ในช่วงเวลานั้น พื้นสีเขียวบอกเวลารถเข้า มีนาฬิกาติดอยู่เหนือป้ายรถออก กล่าวได้ว่า ป้ายต่างๆ ของสถานี รถไฟบอกข้อมูลสะดวกดีจริงๆ ปัญหาใหญ่ของนักท่องเที่ยวชราอย่างเราคือหูตาไม่ค่อยดี รวมทั้งเห็นแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ คือสมองก็ช้าด้วย

ในรถไฟ อ๊านซี - ลิยง ปาร์ดิเยอร์ เที่ยว ๖.๕๓ น. เรานั่งรถชั้น ๑ สองคนครองทั้งโบกี้ ซึ่งจุผู้โดยสาร ๕๔ คน ตลอดเส้นทาง สาวน้อยควักเอาเสบียงอาหารที่เตรียมมาจากเมืองไทย เอามากินบนรถ สะดวกสบายมาก ผมเขียนบันทึก ช่วงที่อยู่ที่เมือง อ๊านซี ๒ วันเสร็จบนรถไฟ รถไฟตู้นี้ที่นั่งสบายมาก แต่ค่อนข้างเก่า ข้อตำหนิคือกระจก หน้าต่าง และห้องน้ำสกปรก

วิวสองข้างทางของรถไฟวันนี้ต่างจากวานนี้โดยสิ้นเชิง วานนี้เราไปเที่ยวภูเขาวิวเป็นภูเขา ยอกขาวโพลนด้วยหิมะ วันนี้วิวทุ่งราบ มีช่วงหนึ่งผ่านทะเลสาบ มีปราสาทอยู่บนเขาริมทะเลสาบหลายหลัง

สาวน้อยวางแผนเที่ยว ลียง สองวันเต็ม เพราะเป็นทั้งเมืองใหญ่ (ที่ ๒ ของประเทศ รองจากปารีส) และเป็นเมืองโบราณตั้งแต่สมัยโรมันด้วย

ถึงสถานีรถไฟ ลิยง ปาร์ดิเยอ (Lyon Part Dieu) เวลา ๙ โมงเศษ เราลากกระเป๋าไปหาทางออก ด้านที่โรงแรม อะธีนา ปาร์ดิเยอ (Athena Part Dieu) ตั้งอยู่ พอชะโงกหน้าออกจากตัวสถานีรถไฟ ก็เห็นป้ายชื่อโรงแรม เราไปฝากกระเป๋า แล้วถามเจ้าหน้าที่ต้อนรับว่า จะหาซื้อ Lyon CityCard ได้ที่ไหน เขาบอกว่าต้องไปที่ Information Center ซึ่งอยู่ที่ จตุรัส เบลเลอกัวร์ (Place Bellecour) โดยนั่งรถบัส C9 จากหน้าโรงแรมผ่านจตุรัสนั้นพอดี

เมื่อไปถึงเราตรงไปที่ Information Center ซึ่งคนมาก มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ ๔ - ๕ คน เขาให้ รายละเอียดต่างๆ ดีมาก ว่าบัตร ซิตี้การ์ดนี้ ลงเรือชมแม่น้ำโซนกับแม่น้ำโรนก็ได้ เข้าชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้ ขึ้นรถได้ทุกประเภท

สาวน้อยอ่านหนังสือใครๆ ก็ไปเที่ยวฝรั่งเศส เขียนโดย อดิศักดิ์ จันทร์ดวง ว่าแถวจตุรัสมีพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์สิ่งทอ และพิพิธภัณฑ์มัณฑนศิลป์ โดยในหนังสือมีแผนที่บอกเสร็จสรรพ แต่กว่าสาวน้อย จะถามทางไปจนพบก็ถามหลายคนมาก คนที่นั่นไม่รู้จักพิพิธภัณฑ์นี้ เขาดูจากแผนที่ แต่เมื่อเราไปพบป้าย พิพิธภัณฑ์ มีประตูเก่าๆ บานใหญ่พร้อมกับเหล็กเคาะเรียก ผมเข้าไปเคาะ ก็มีสาวนนั่งบนรถยนต์บอกว่า ประตูเข้าอยู่ทางโน้น

แล้วบัตร CityCard ก็ออกฤทธิ์ และเมื่อเข้าไปชมการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ก็ยิ่งอึ้ง เพราะดูภายนอก ตึกมันโทรมๆ แต่ข้างในสุดจะยิ่งใหญ่

พิพิธภัณฑ์ทั้งสองอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน แต่คนละตึก พิพิธภัณฑ์มัณฑนศิลป์ (The Museum of Decorative Arts) จัดแสดง Legendary Costumes : 20 years of Lyon Opera House’s artistic creation ) มีวีดิทัศน์การแสดง โอเปร่า บางเรื่อง รวมทั้งการออกแบบเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และการแต่งหน้าตัวแสดง นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายคนยุคโบราณ

ส่วนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สิ่งทอ (Textile Museum) ข้างนอกอาคารโทรมดูไม่ได้ แต่สิ่งทอที่จัดแสดงภายใน สุดจะอลังการ เครื่องปักเครื่องทอเป็นลวดลายสีต่างๆ งดงามสุดจะบรรยาย เขาไม่ให้ถ่ายรูป จึงไม่มีรูปมาฝาก ค้นเรื่องพิพิธภัณฑ์ทั้งสองได้ที่ www.mtmad.fr

เราไม่ได้ดูทั้งหมด เพราะสาวน้อยเริ่มมึน เราจึงพักบ้างเดินบ้าง จนไปออก Place Gailleton ใกล้สะพาน University ข้ามแม่น้ำโรน เราเดินผ่านร้านอาหาร Pop’s Kfe Restaurant & Bar เป็นร้านเล็กๆ ตั้งโต๊ะริมถนน เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง เราจึงกินอาหารที่ร้านนี้ กินอาหารแนะนำประจำวัน ผมกินเนื้อสเต๊ก มากับมันฝรั่งทอด สาวน้อยกินปลาทูน่า (ฝรั่งเศสเรียกทอง) มากับข้าว ผมสั่งไวน์แดงหนึ่งแก้วด้วย กินอาหารแล้วกระปรี้กระเปร่าขึ้น ก็เดินไปลงเรือล่องแม่น้ำ Lyon City Boat ที่ท่าเรือตามที่เจ้าหน้าที่ที่ Information Center แนะนำ ระหว่างเดินไปพบ Farmers’ Market ที่ริมถนนริมแม่น้ำ อยู่ในสภาพตลาดกำลังวาย พ่อค้าแม่ค้ากำลังเก็บของกลับ พื้นที่นี้หลังจากเราล่องเรือจบขึ้นมา ไม่มีร่องรอยของตลาดเลย บางช่วงมีร้านอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมาแทน

เราไปถึงสถานที่ขึ้นเรือเวลาประมาณ ๑๓.๑๕ น. มีเครื่องหมายบอก ว่าเป็นที่ขึ้น Lyon City Boat ตรงที่มีตู้ขายตั๋วที่ยังปิดอยู่ ไม่มีป้ายอธิบายแก่นักท่องเที่ยวใดๆ ทั้งสิ้น เรารออยู่นานท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยง จนเวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น. จึงเปิดขายตั๋ว เราคิดว่า Lyon CityCard มันศักดิ์สิทธิ์ผ่านได้เลย จริงๆ แล้วต้องไปเอาตั๋วก่อน

เรือล่องไปตามลำน้ำโซน (Saone) ไปจนถึงจุดที่แม่น้ำสองสาย (คือโซน กับ โรน - Rhone) สบกัน เห็นสีแม่น้ำต่างกันชัดเจน ระหว่างทางไกด์ผู้หญิงพากษ์อธิบายเรื่องราวตึกรามและประวัติศาสตร์ของสถานที่ เป็นภาษาฝรั่งเศสตามด้วยภาษาอังกฤษ ผมฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะมัวถ่ายรูป แล้วเรือวกขึ้นไปตามลำน้ำโรน ระยะหนึ่งก็วกกลับมาขึ้นที่ท่าเดิม (Promenade Commentees) รวมเวลาล่องเรือ ๗๐ นาที

พื้นที่บริเวณแม่น้ำสองสายมาสบกัน (เขาเรียกว่า Confluence) ได้รับการออกแบบภูมิสถาปัตย์ ให้เป็นทั้งย่านการค้าใหม่ และเป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ มีอาคารทรงและสีแปลกตา ผมชอบใจที่เห็น คนมาพักผ่อนออกกำลังกายที่ทางเดินริมแม่น้ำ เป็นสภาพสังคมที่เป็น “สังคมสุขภาวะ” ดีกว่าวิถีชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ

เราได้ความรู้แกมแปลกใจว่า ในแม่น้ำยังมีเรือเก่าจอดอยู่ริมตลิ่ง เป็นบ้าน โรงแรม หรือ เกสต์เฮาส์ ด้วย อาคารเก่าริมน้ำที่เห็นสวยงามนั้น สร้างในศตวรรษที่ ๑๘ และ ๑๙ คืออายุ ๑๐๐ - ๒๐๐ ปี แต่ก็ได้รับการดูแลบูรณะ ให้ดูสวยงาม

ท่าทางสาวน้อยเหนื่อย ผมจึงชวนนั่งรถใต้ดิน (Metro) กลับโรงแรม ไปเช็คอิน และเมื่อขึ้นห้อง (๔๐๔) ก็พบว่าห้องแคบและสภาพแย่กว่าที่โรงแรม Nouvel ที่ อ๊านซีเสียอีก ผมลงไปถามว่าให้ห้องผิดเป็นห้องเดี่ยว หรือเปล่า เขายืนยันว่าเป็นห้องคู่ ผมบอกว่าทำไมให้ผ้าเช็ดตัวชุดเดียว เขาว่าเป็นมาตรฐานของที่นี่ ว่าแล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวอีกชุดหนึ่งส่งให้ ว่าแถมให้ กลับมาที่ห้องนึกขึ้นได้ว่าต้องใช้ Wifi เหลือบดูมีป้ายบอกว่า WIFI 9 ผมก็กดโทรศัพท์เบอร์ ๙ ขอ user name และ password ซึ่งเมื่อได้มาก็ใช้ไม่ได้

ผมจึงได้ข้อสรุปว่า จองโรงแรมกับ Booking.com โดยมีเกณฑ์เน้นใกล้สถานีรถไฟ ก็คงจะได้โรงแรม แบบนี้ คือเป็นที่ซุกหัวนอนของคนหนุ่มสาวๆ เอาสะดวกเข้าว่า ไม่เน้นคุณภาพห้องและบริการ

อย่างไรก็ตาม การเที่ยวเมือง ลียง ในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ที่มีไฮไล้ท์ ๒ ที่ คือพิพิธภัณฑ์ กับล่องเรือ รวมทั้งเดินเที่ยว ก็นับว่าน่าพอใจ และการพักในห้องที่ไม่สะดวกสบายนัก ก็ถือเป็นการบำเพ็ญตบะได้

ตอนเดินตามถนน และบนรถใต้ดิน ผมสังเกตว่า เวลานี้คนฝรั่งเศสมีหลากหลายเชื้อชาติหรือผิวสี และสาวฝรั่งเศสที่เป็นคนขาวก็ไม่แต่งตัวเก๋เหมือนตอนผมไปปารีสเมื่อกว่า ๓๐ ปีก่อน ไม่ทราบว่ามันต่างกัน เพราะยุคสมัย หรือเพราะต่างเมือง

อาหารเย็น เป็นเสบียงอาหารไทยสำเร็จรูป ที่สาวน้อยขนมาจากกรุงเทพ ก่อนกินอาหาร ผมเอาเครื่องวัดความดันโลหิต เอามาวัดทั้งสาวน้อยและผม ข่าวดีคือความดันปกติทั้งคู่


๑ มิถุนายน ๒๕๕๗ วันอาทิตย์ เรากินอาหารที่โรงแรม (จ่ายต่างหาก) แล้วออกไปเที่ยวเมืองเก่า (Vieux Lyon) แต่เช้า

กินอาหารเช้า ซึ่งดีกว่าที่คิด รวมทั้งขอ user name Wifi password มาเข้าอินเทอร์เน็ตได้เร็วมาก

กลับไปเตรียมความพร้อม สนอง gastro-colic reflex ของคนแก่ที่ห้อง แล้วออกเดินไปสถานีรถไฟ สาวน้อยต้องการตรวจสอบขบวนรถที่จะไป อาวียองพรุ่งนี้ และกลับบ่ายวันที่ ๔ ดูที่ป้ายเหลืองหาไม่พบ ไปถามการ์ดของสถานี เขาแนะให้ไปดูป้าย LCD สีฟ้า หากไม่มีให้ไปถามตามป้าย Accueil ซึ่งก็คือ Information นั่นเอง

เราต้องการรถไฟ ter ซึ่งไม่ต้องจอง จึงไม่มีค่าจอง ได้เที่ยว ๗.๒๐ น. ขากลับเที่ยว ๑๔.๑๘ หรือ ๑๖.๑๘ น. เมื่อได้เวลารถไฟออกแล้ว สาวน้อยก็สบายใจและพร้อมจะไปขึ้นรถ Metro ไปสถานี Lyon Vieux หรือเมืองโบราณลียง แล้วขึ้นรถ Funicular ไปสถานีบนสุดคือ Fourviere พอออกจากสถานีก็เจอวิหารนอเตรอดามแห่งฟูร์วีแยร์ เราเดินชมวิหารสามชั้นทั้งเดินเอง และขึ้นลงลิฟท์สำรวจเสียทั่ว เพราะไปวนเวียนอยู่แถวนี้กว่าสองชั่วโมง ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบตอน ๘ น. และมีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งตอน ๑๐ น.

วิหารนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา เหนือแม่น้ำโซน มองลงไปเห็นเมือง ลียง ทั้งเมือง

เราเดินถามทางไปดู Roman Amphitheatre ซึ่งเดินไปไม่ไกล มีสองที่ติดกัน คือที่ใหญ่กับที่เล็ก สร้างก่อน ค.ศ. ๑๕ ปี ตามรูปที่เขาติดป้ายให้ดู โรงแสดงกลางแจ้งนี้ด้านหนึ่งหันสู่อาคารสูงหลายชั้น

เรานั่งพักในสวนกุหลาบใกล้ๆ โรงแสดงกลางแจ้ง จนเกือบ ๙ น. จึงเดินต่อ ว่าจะไปชมพิพิธภัณฑ์ แต่เปิด ๑๐ น. จึงเดินชมวิหารและนั่งพักในสวน จน ๑๐ น. จึงไปชมพิพิธภัณฑ์ ศาสนาคาทอลิค จัดแสดงโบราณวัตถุทางศาสนา มีเครื่องเงินของสันตปาปานครลียง ในปี ค.ศ. 1805 ซึ่งเป็นลุงของจักรพรรดิ์นโปเลียน เมืองนี้คงจะจงรักภักดีต่อนโปเลียนในสมัยโน้น

ใช้เวลาชมพิพิธภัณฑ์เพียง ๑๕ นาที ก็ออกมาขึ้นรถ Funicular จะไปชมพิพิธภัณฑ์โบราณคดีโรมัน แต่เราสับสนระหว่าง Roman Theatre กับ Roman Museum และสาวน้อยเดินขึ้นลงเขาไม่สะดวก เราจึงถอยกลับไปสถานี Minimes เพื่อลง Funicular ไปเมืองเก่าลียง สับสนกับทางขึ้นทางลง และป้ายบอกเวลา กว่าจะตระหนักว่า แม้จะมี ๒ ราง รถ Funicular ก็ทั้งขึ้นและลงในรางเดียวกัน แต่ต่างเวลา โดยแล่นสวนกันที่สถานีกลางทาง เราเสียค่าโง่เป็นเวลาในชีวิตคนละ ๑๐ นาที แต่ผมได้อาศัยเวลา ๑๐ นาทีนี้เขียนบันทึกด้วย mini iPad ที่สถานีนั่นเอง

ในที่สุดเราก็ไปที่สถานีเมืองเก่าลิยง และเดินไปที่จตุรัส St. Jean ระหว่างทางมีตลาดชาวนาเล็กๆ ที่จตุรัสนักศึกษาจัดงานบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม (ไกด์บอกในภายหลัง) มีโปสเตอร์ มีเต๊นท์ขายของ และเปิดเพลง มหาวิหาร St. Jean (ภาษาอังกฤษว่า St. John's Cathedral) ดูเก่าและไม่ตกแต่งมาก ว่าสร้างตั้งแต่ปี 1079

เรานั่งกินอาหารเที่ยงตรงหน้ามหาวิหารนั่นเอง แล้วนั่งรอ guided tour ภาคภาษาอังกฤษ ที่เราจองด้วยบัตร city card เมื่อวาน วันนี้แดดดีตามเคย แต่ลมแรง นั่งรอริมถนนรู้สึกหนาว

ทัวร์นี้ไฮเทค ไกด์แจกเครื่องรับเสียง wireless ให้ลูกทัวร์ทุกคน พร้อมทั้งบอกว่าหูฟังไม่ต้องคืน ดังนั้นเราจึงได้ยินเสียงคำบรรยายดีแม้จะอยู่ไกล

สิ่งที่พิเศษสุดสำหรับทัวร์นี้คือ traboules ซึ่งหมายถึงทางเดินสาธารณะที่อยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล เพื่อใช้พื้นที่แคบของเมือง อยู่ร่วมกันของคนจำนวนมาก

แสดงว่าเมือง ลียง มีคนอยู่ร่วมกันหนาแน่นเป็นเมือง (urbanization) ก่อน ค.ศ. และในยุคกลาง ต่อกับยุคเรเนอซองส์ บริเวณเมืองเก่ามีคนอยู่หน้าแน่นมาก ประกอบกับเป็นพื้นที่แคบระหว่างภูเขากับแม่น้ำ (โซน) จึงเกิดระบบอาคารที่เป็นตึกหลายชั้น มีระบบบันไดเวียน ระบบพื้นที่ตรงกลางระหว่างตึก และระบบทางเดินส่วนกลาง

จบจาก ทัวร์เดินเท้ากับไกด์ ๒ ชั่วโมง สาวน้อยหมดแรง ต้องเติมพลังด้วยไอศครีม และนั่งพักขา แล้วจึงนั่งรถใต้ดินไปต่อรถราง ไปพื้นที่ Confluence ได้พบสภาพคนแน่นของรถราง และได้ไปเห็นสภาพพื้นที่ Confluence และสะพานใหม่ภาคพื้นดิน หลังจากเมื่อวานได้เห็นจากเรือล่องแม่น้ำ ได้เห็นสะพานที่ออกแบบ เลนจักรยานแยกต่างหากจากเลนรถราง ไม่มีเลนรถยนต์เลย

เรากลับสถานี ปาร์ดิเยอ ด้วยรถราง ได้ชมเมืองผ่านรถรางที่คนแน่นมาก แต่พอใกล้ถึงก็ได้นั่ง สองสถานี กลับมากินอาหารเสบียงจากกรุงเทพ และเตรียมจัดกระเป๋า เอาของไป อาวียง น้อยที่สุด

จนถึงวันนี้ อากาศดี แดดดีตลอดมา จนผิวหน้าชักจะเกรียม


๔ มิถุนายน ๒๕๕๗ เราออกจาก อาวีญง กลับมานอนที่ ลียง ๑ คืน ที่โรงแรม Athena Part Dieu บริการก็ไม่ดีเหมือนเดิม คือได้ห้องแบบเดิมห่างไป ๒ ห้อง คือ ๔๐๖ และมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวตามเคย และเมื่อไปขอเขาก็ให้ นอกจากนั้น Wifi ที่ห้องก็ต่อไม่ค่อยติดอย่างเคย แต่หากลงไปใช้ที่ชั้นล่าง ก็ใช้ได้ดี

ผมเข้าใจว่าราคาโรงแรมที่ผมจองผ่าน Booking.com จะแพงกว่าราคาปกติของโรงแรมเล็กน้อย และทางโรงแรมก็คงจะทั้งร่วมมือกับ Booking.com และหาทางติดต่อกับลูกค้าโดยตรง อย่างโรงแรม Athena ก็บอกไว้ในเอกสารว่า เขาจะให้ราคาพิเศษ หากลูกค้าจองจากเขาโดยตรงที่ www.athena-hotel.fr

วิจารณ์ พานิช

มิ.ย. ๕๗

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

ดูภาพประกอบโปรดกด link :http://www.gotoknow.org/posts/571322

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 11 กรกฏาคม 2014 เวลา 13:21 น.  
Home > Articles > ท่องเที่ยว > ชีวิตที่พอเพียง : ๒๑๙๐. ควงสาวเที่ยวฝรั่งเศส ๔. ลียง

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5602
Content : 3043
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8589539

facebook

Twitter


ล่าสุด

บทความเก่า