ชีวิตที่พอเพียง: ๑๗๖๕. ฝึกทักษะทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

วันเสาร์ที่ 09 มีนาคม 2013 เวลา 00:00 น. ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท บทความ - พัฒนาทุนมนุษย์
พิมพ์

การฝึกทักษะเป็นเรื่องสนุกสำหรับผม  และการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายเป็นสิ่งท้าทาย  หลังจากเอาใจใส่ฝึกมาระยะหนึ่งผมก็พบว่าจะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก

ที่ว่ายากก็คือเรื่องยากมักมีความซับซ้อนที่ว่าง่ายก็คือในความซับซ้อนมีความเรียบง่ายซ่อนอยู่

สมัยทำงานในมหาวิทยาลัยและที่สกว. ผมแอบใช้“ครู”หลายคนเป็นตัวอย่างฝึก systems thinking ให้แก่ตนเอง   ฝึกมองให้เห็นpattern บางอย่างที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวหรือปรากฏการณ์ต่างๆ  โดยฝึกทำความเข้าใจความเชื่อมโยงและพลวัต

อีกวิธีหนึ่งคือหัดคิดถึงroot cause ของเรื่องต่างๆ  หัดมองสิ่งที่เห็นเป็น“อาการ”  โยงอาการไปสู่ตัวโรคและสาเหตุของโรค  ในที่สุดก็จะคิดออกว่า“หัวใจ”ของเรื่องนั้นๆคืออะไร

เป็นวิธีหาความเรียบง่ายในท่ามกลางความซับซ้อนสับสน  ได้เป็น“กระบวนทัศน์”ในเรื่องนั้นๆ  ถ้าจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของสิ่งซับซ้อนเช่นนั้นก็ต้องขับเคลื่อนการเปลี่ยนกระบวนทัศน์  โดยที่คุณค่าของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์คือเป้าหมายที่มีความหมายยิ่งใหญ่ต่อส่วนรวมหรือต่อสังคม

เป้าหมายที่มีคุณค่ายิ่งใหญ่คือศูนย์รวมใจรวมพลัง

การเปลี่ยนกระบวนทัศน์ด้วยวิธีไม่ใช้อำนาจบังคับ (เพราะไม่มี) ก็ต้องใช้วิธีขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก  วิธีหนึ่งคือหา success story เล็กๆที่เป็นหน่ออ่อนของกระบวนทัศน์ใหม่  และผู้คนที่สร้างความสำเร็จนั้น  จัดเวทีเรื่องเล่าและAppreciative Inquiry  ให้การยกย่องชื่นชมและให้รางวัล  พร้อมทั้งempower ให้ทำต่อเนื่องและขยายผล

ตัวsuccess story จำนวนมากและผู้สร้างสรรค์  จะเชื่อมโยงกันเองเป็นเครือข่าย  เกิดการช่วยเหลือส่งเสริมกัน  แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การลงมือทำเพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่เป้าหมายที่ทรงคุณค่าร่วมกัน

พลังของเป้าหมายที่ทรงคุณค่า  กับวิธีการจัดการเชิงบวกให้พลังบวกคือพลังความสำเร็จ (เล็กๆ)  และพลังความชื่นชม  ร่วมกับเวทีลปรร. ประสบการณ์จากการปฏิบัติ  ทำต่อเนื่องหมุนเกลียวความรู้ยกระดับ   เป้าหมายที่บรรลุยากจะไม่ใช่สิ่งที่บรรลุไม่ได้

นั่นคือKM เป็นเครื่องมือทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย

 

วิจารณ์   พานิช

๗  ก.พ. ๕๖