​สอนอย่างมือชั้นครู : ๕. วันแรกในชั้นเรียน

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2014 เวลา 00:00 น. ศ.นพ วิจารณ์ พานิช บทความ - การศึกษา
พิมพ์

บันทึกชุด “สอนอย่างมือชั้นครู” ๓๔ ตอน ชุดนี้ ตีความจากหนังสือ Teaching at Its Best : A Research-Based Resource for College Instructors เขียนโดย Linda B. Nilson ซึ่งเป็นฉบับพิมพ์ปรับปรุงครั้งที่ ๓ ผมขอเสนอให้อาจารย์ในสถาบันการศึกษาไทยทุกคน หาหนังสือเล่มนี้อ่านเอง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ เพราะหากติดตามอ่านจากบันทึกใน บล็อก ของผม ซึ่งลงสัปดาห์ละตอน จะใช้เวลากว่าครึ่งปี และการอ่านบันทึกของผมจะแตกต่างจากการอ่านฉบับแปล หรืออ่านจากต้นฉบับโดยตรง เพราะบันทึกของผมเขียนแบบตีความ ไม่ได้ครอบคลุมสาระทั้งหมดในหนังสือ

ตอนที่ ๕ นี้ ตีความจาก Part One : Laying the Groundwork for Student Learning ซึ่งอาจารย์มหาวิทยาลัยต้องเตรียมตัวก่อนเปิดเทอม มี ๕ บท ตอนที่ ๕ ตีความจากบทที่ 4. Your First Day of Class

สรุปได้ว่า อาจารย์ต้องใช้วันแรกในชั้นเรียนสำหรับสร้างความประทับใจ ความน่าสนใจของวิชา สร้างความรู้จักสนิทสนมกันระหว่างอาจารย์กับนักศึกษา และระหว่างนักศึกษาด้วยกัน


ก่อนชั้นเรียนแรก

อาจารย์ต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ รวมทั้งต้องแสดงให้นักศึกษาเห็นชัดเจนว่า อาจารย์มีการเตรียมตัวไว้ เป็นอย่างดี โดยให้ตรวจสอบหรือเตรียมสิ่งต่อไปนี้

- เทคโนโลยีต่างๆ (คอมพิวเตอร์ และเครื่องฉาย LCD สำหรับฉาย PowerPoint และ VDO, เครื่องฉายแผ่นทึบ, ฯลฯ) ใช้การได้ดี และตนเองใช้เครื่องเหล่านั้นคล่อง อย่าลืมเตรียมเครื่องเขียน low tech ที่จำเป็น เช่นปากกาเขียน ไวท์ บอร์ด แปรงลบ

- ตรวจสอบแสงไฟ สวิตช์ไฟว่าใช้การได้ดี จะปิดหรือหรี่ไฟที่ส่วนไหนของห้องที่สวิตช์ ตัวไหน ตรวจสอบเครื่องปรับอากาศ นาฬิกา และเครื่องใช้อื่นๆ หากมีสิ่งชำรุดบกพร่อง ให้แจ้งซ่อม เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพใช้การได้ดีในวันแรกของการสอน

- เข้าไปในห้องเรียนประหนึ่งว่ากำลังสอน เป็นการซ้อมคนเดียว โดยจินตนาการว่ามี นักศึกษานั่งอยู่เต็มห้อง ซ้อมมองตานักศึกษา ยิ้มให้ เดินไปหานักศึกษา เดินไปเดินมาในห้อง

1.ยืนตรงอย่างมั่นคง เท้าสองข้างห่างกัน ๑ ฟุต ให้มีความรู้สึกว่าเท้าวางอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง

2.หายใจช้าๆ และลึกๆ แบบใช้กระบังลม ๓ - ๔ ครั้ง ให้รู้สึกว่ากระดูกซี่โครงขยายออก เพื่อให้อ็อกซิเจนสร้างความแจ่มใสแก่สมอง

3.ยืดทุกส่วนของร่างกาย

4.สลัดแขนขา ประหนึ่งว่ากำลังสลัดความเครียดออกไป

5.กลอกตาซ้าย-ขวา และบน-ล่าง เพื่อเตรียมสบตานักศึกษา

6.ร้องเพลงระดับเสียงขึ้นลงสองสามครั้ง

7.เปล่งถ้อยคำเป็นเสียงแหลมและทุ้มที่สุด

8.อ่านหนังสือสำหรับเด็กดังๆ เน้นเสียง และเว้นจังหวะแบบแสดงละคร

9.อ้าปาก และยืดริมฝีปากไปในทางต่างๆ หรือทำท่าการขยับปากให้มากผิดปกติ ในขณะพูดคำที่ซับซ้อน


ความประทับใจแรกพบ

อาจารย์ต้องวางแผนใช้ชั่วโมงแรกสำหรับสร้างความคาดหวัง และพฤติกรรมของนักศึกษา/ชั้นเรียน ที่เหมาะสม ที่จะใช้ไปตลอดการเรียนรายวิชานี้ เช่น หากต้องการให้มีการอภิปรายมากๆ ก็ต้องหาประเด็น มาให้นักศึกษาอภิปรายกันมากๆ ตั้งแต่ชั่วโมงแรก เช่นให้อภิปรายความคาดหวังของนักศึกษา หากต้องการให้เกิดการเรียนแบบช่วยเหลือกัน (cooperative learning) ก็จัดให้มีกิจกรรมกลุ่มย่อยตั้งแต่วันแรก เป็นต้น

วิธีทำให้ชั้นเรียนมีบรรยายกาศเอาจริงเอาจังต่อการเรียน ได้แก่

1.จัดให้มีเอกสารประมวลวิชาที่ครบถ้วนและเขียนอย่างประณีต อ่านง่าย เข้าใจง่าย

2.กล่าวสองสามประโยค ที่บอกความสำคัญของรายวิชา และเอกสารที่แจก เพื่อสร้าง “โรคระบาด” ความกระตือรือร้นต่อวิชานั้นๆ

3.แต่งกายให้เป็นทางการกว่าปรกติเล็กน้อย เพื่อแสดงความเป็นมืออาชีพ และความเอาจริงเอาจัง

4.ทำให้ช่วงเวลาของชั้นเรียนมีค่าสูง แม้ในวันแรก ก็ไม่ใช่แค่วันสบายๆ ที่ปล่อยให้ผ่านไป เมื่ออาจารย์แสดงท่าทีเอาจริงเอาจังเช่นนี้ นักศึกษาก็จะได้รับการสื่อสารความเอาจริงเอาจัง โดยอาจารย์ไม่ต้องกล่าว

เพื่อแสดงว่า อาจารย์ให้คุณค่าและเคารพการตรงต่อเวลา ไปถึงห้องเรียนก่อนเวลา และทักทายให้ความเป็นกันเองต่อนักศึกษา

ใช้วันแรกสร้างแนวทางความประพฤติ (code of conduct) ของนักศึกษา ซึ่งจะใช้ร่วมกันตลอดภาคการศึกษา


แลกเปลี่ยนข้อมูล

ห้องเรียนเป็นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลสองทาง แต่ผู้เป็นฝ่ายริเริ่มคืออาจารย์ เริ่มตั้งแต่เมื่อนักศึกษามาที่ห้อง อาจารย์เตรียมติดประกาศไว้หน้าห้อง บอกชื่อและรหัสของวิชา, วันเวลาเรียน, ชื่ออาจารย์ผู้สอน, ห้องทำงานของอาจารย์, เวลาที่อาจารย์อยู่ที่ห้องทำงาน

ต่อไปนี้เป็นวิธีการทำให้การเรียนการสอนราบรื่น มีการร่วมมือกัน

อธิบายให้นักศึกษาเข้าใจ ว่าทำไมอาจารย์จึงเลือกวิธีสอนแบบนี้ เป็นวิธีการแสดงความเป็น มืออาชีพของอาจารย์ และเพื่อลดกระแสต่อต้านจากนักศึกษา ที่รู้สึกว่าอาจารย์มีวิธีสอน ที่ไม่ตรงกับที่ตนคาดหวัง

บอกอย่างชัดเจน ว่าอาจารย์คาดหวังอะไรบ้างจากนักศึกษา เช่นการเตรียมตัวก่อนมา เข้าชั้นเรียน การร่วมแสดงข้อคิดเห็น หรือกระบวนการกลุ่ม ในชั้นเรียน รวมทั้งให้ คำแนะนำวิธีเรียนที่ได้ผลดี วิธีจดบันทึก และอื่นๆ

แม้นักศึกษาไม่ถาม ควรบอกสิ่งต่อไปนี้

-จะมีการทดสอบอย่างไร

-คำถามในการทดสอบเป็นแบบไหน

-การทดสอบต้องการการคิดแบบไหน

-นักศึกษาควรเตรียมตัวสอบอย่างไร

-จะมีการแจกสรุปประเด็นของการเรียนหรือไม่

-จะมีช่วงเวลาสรุปประเด็นหรือไม่

-มีวิธีให้คะแนนการบ้าน และการสอบอย่างไร

-มีหลักการให้เกรด A, B, C, D, E อย่างไร

-คำแนะนำต่อนักศึกษาในการได้เกรดสูง

-ท่านหวังได้อะไรจากวิชานี้

-อาจารย์จะช่วยให้ท่านบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างไร

-นักศึกษากังวลเรื่องวิชานี้อย่างไรบ้าง

-ท่านมีพื้นความรู้และต้นทุนอะไรบ้างสำหรับเรียนวิชานี้

-ควรมีข้อกำหนดพฤติกรรมของนักศึกษาอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยให้การเรียนบรรลุผลดี

-ปัจจัยในห้องเรียน และที่เกี่ยวกับอาจารย์ อะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ของท่าน

ให้เวลานักศึกษาแต่ละคนเขียนคำตอบ ๕ นาที แล้วจับกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ๑๐ นาที ตามด้วยตัวแทนกลุ่มรายงานต่อชั้นเรียน ใช้เวลา ๑๕ นาที

เวลาอีก ๒๐ นาทีเป็นการถามอาจารย์ โดยที่ในแบบสอบถามมีที่ให้นักศึกษาเขียนคำถาม ถามอาจารย์ผู้สอน แล้วจับกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกัน ๑๐ นาที อีก ๑๐ นาทีที่เหลือ ตัวแทนกลุ่มอ่านคำถามต่อชั้น และอาจารย์ตอบ รวม ๑๐ นาที

ผู้เขียนบอกว่า กระบวนการทั้งหมดนี้ จะเป็นการปูพื้นฐานบรรยากาศชั้นเรียนที่ดี ที่ครูและศิษย์เข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน

-จัดผังที่นั่ง นักศึกษาอาจไม่ชอบ แต่เมื่อทราบเหตุผลก็น่าจะยอมรับได้ และเมื่ออาจารย์จำชื่อนักศึกษาได้แล้ว ก็ให้อิสระ

-บันทึกลักษณะพิเศษของนักศึกษาแต่ละคน เช่นอ้วน ผอม สูงโย่ง ตัวดำ ฟันเหยิน แต่ต้องเก็บให้มิดชิด อย่าให้นักศึกษาเห็น

-มีบัญชีรายชื่อ เอาไว้ขานชื่อให้นักศึกษาตอบ โดยเน้นเรียกแบบสุ่ม

-ให้นักศึกษาติดป้ายชื่อ โดยแจกตอนเข้าห้อง และเก็บตอนเลิกชั้นเรียน จะเป็นวิธีเช็คชื่อเข้าเรียนแบบไม่รู้ตัวได้ด้วย

-ในชั้นเรียนขนาดใหญ่ อาจารย์อาจสร้างความประทับใจของนักศึกษาว่าจำชื่อได้หมด โดยจำจากรูปถ่ายพร้อมชื่อ ซึ่งหน่วยทะเบียนนักศึกษาอาจมีให้ ถ้าไม่มีก็ให้ผู้ช่วย จัดถ่ายให้ หรือขอรูปจากนักศึกษา

ละลายน้ำแข็ง : ทำความรู้จักกันเชิงสังคม

เป็นการเล่นเกมเพื่อทำความรู้จักกัน อาจเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งที่เหมาะสม เช่น

 


ละลายน้ำแข็ง : ทำความรู้จักกันด้วยเนื้อหาวิชา

การทำความรู้จักกันด้วยเนื้อหาวิชา นอกจากช่วยสร้างความคุ้นเคยกันแล้ว ยังอาจช่วยให้อาจารย์ได้รู้ว่า นักศึกษาคนใด มีความรู้ผิดๆ ในเรื่องใดบ้าง อาจใช้เทคนิคดังต่อไปนี้ เช่น

เทคนิคนี้มีประโยชน์อย่างน้อย ๔ ประการ คือ (๑) เกิดการสื่อสารระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ และระหว่างนักศึกษาด้วยกัน (๒) ช่วยให้นักศึกษาใจชื้น ว่าตนไม่ใช่คนเดียวที่มีปัญหา (๓) บ่งชี้ต่อนักศึกษาว่า อาจารย์ยินดีรับฟัง และ (๔) ส่งเสริมให้นักศึกษาหาทางแก้ปัญหาด้วย ตนเอง (ผมขอเติมว่า หรือช่วยเหลือกันเองในหมู่เพื่อนนักศึกษา) ไม่ใช่เอาแต่หวังพึ่งอาจารย์


ปิดฉากชั่วโมงแรก

ก่อนเลิกชั้นเรียนแรก อาจารย์ควรเขียนคำถาม ให้นักศึกษาแต่ละคนเขียนตอบลงกระดาษส่งอาจารย์ โดยไม่ต้องลงชื่อ ตัวอย่างคำถาม

-ความรู้ที่สำคัญที่สุดที่ท่านได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร

-กระบวนการเรียนรู้ในวันนี้ ทำให้ความคาดหวังต่อวิชานี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

-ท่านยังมีข้อสงสัย หรือข้อข้องใจเกี่ยวกับวิชานี้อย่างไรบ้าง

คำถามทำนองนี้ เป็นการแสดงความเอาใจใส่ต่อนักศึกษาของอาจารย์

คำแนะนำสุดท้ายของผู้เขียนคือ อย่าเลิกชั้นเรียนก่อนเวลาเป็นอันขาด เพราะจริงๆ แล้วการเรียนในวันแรกมีเรื่องให้ทำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความประทับใจในความเอาใจใส่นักศึกษา และความเอาจริงเอาจังของอาจารย์

วิจารณ์ พานิช

๑ ส.ค. ๕๗

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม 2014 เวลา 10:41 น.