ผลงานวิจัยนำสู่นโยบายภาคประชาชน

วันพุธที่ 22 มกราคม 2014 เวลา 00:00 น. ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช บทความ - การศึกษา
พิมพ์

ทีดีอาร์ไอ และสถาบันคลังสมองของชาติ ทำงานวิจัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว   และสื่อสารสังคมมาตลอด ว่าโครงการนี้จะทำลายความเป็นที่หนึ่งของไทยในโลก ด้านข้าว    และที่สำคัญเป็นช่องทางคอรัปชั่นของนักการเมือง ซึ่งอ่านได้ ที่นี่ และ ที่นี่

วันที่ ๒๑ ธ.๕๖ ผมพบนักวิจัยท่านหนึ่งคือ รศดรนิพนธ์ พัวพงศกร  แห่ง ทีดีอาร์ไอจึงเรียนท่านว่า ผลงานวิจัยของท่านก่อผลกระทบเชิงนโยบายของประเทศอย่างยิ่งยวด   คือเป็นหลักฐานบอกคนไทยทั้งชาติว่ารัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด โกงชาติเพียงใด   นำสู่การรวมตัวประท้วงเป็นระลอกๆ เพื่อแสดงพลังไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น

ทั้ง ทีดีอาร์ไอ (ดรนิพนธ์)    และ สถาบันคลังสมองฯ (รศดรสมพร อิศวิลานันท์ทำงานวิจัยอย่างน่าเชื่อถือ    มีข้อมูล มีหลักวิชาการ    แล้วบอกแก่สังคม ว่าโครงการรับจำนำข้าว ทั้งของรัฐบาลนี้ และของรัฐบาลก่อนๆ เป็นช่องทางคอรัปชั่นอย่างไรบ้าง    และรุนแรงยิ่งในรัฐบาลที่เพิ่งลาออกไป

เมื่อมีการชุมนุมประท้วง โดยมวลมหาประชาชน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ๒๕๕๖   ที่ผู้คนออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน    ก็เป็นตัวบอกว่า เขาได้รับข้อมูลต่างๆ มากเพียงพอที่จะลงความเห็นว่ารัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิดเลวร้ายเพียงใด

ทำให้ผมคิดออก ว่างานวิจัยเพื่อประโยชน์เชิงนโยบายนั้น    ไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้บริหารเป็นผู้นำไปใช้เท่านั้น    ประชาชนในภาพรวม ก็มีโอกาสเอาไปใช้ได้ หากเราสื่อสารสังคมออกไปอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง อย่างกรณีการวิจัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว

ในยุคดิจิตัล ที่สื่อแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว    ผลการวิจัยที่ดี สื่อสารดี ย่อมก่อประโยชน์เชิงสร้างสรรค์ต่อสาธารณะได้มากอย่างกรณี การวิจัยโครงการรับจำนำข้าว

และปรากฏการณ์ประชาชนเสพผลงานวิจัย    ทำให้นักการเมืองจอมโกง ไม่สามารถหลอกประชาชนได้    เป็นข้อเรียนรู้สำหรับผมอย่างยิ่ง    ในเรื่องหลักการจัดการงานวิจัย ไปสู่การใช้ประโยชน์

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๒ ธ.๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 22 มกราคม 2014 เวลา 21:21 น.