ทีดีอาร์ไอ และสถาบันคลังสมองของชาติ ทำงานวิจัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว และสื่อสารสังคมมาตลอด ว่าโครงการนี้จะทำลายความเป็นที่หนึ่งของไทยในโลก ด้านข้าว และที่สำคัญเป็นช่องทางคอรัปชั่นของนักการเมือง ซึ่งอ่านได้ ที่นี่ และ ที่นี่
วันที่ ๒๑ ธ.ค. ๕๖ ผมพบนักวิจัยท่านหนึ่งคือ รศ. ดร. นิพนธ์ พัวพงศกร แห่ง ทีดีอาร์ไอจึงเรียนท่านว่า ผลงานวิจัยของท่านก่อผลกระทบเชิงนโยบายของประเทศอย่างยิ่งยวด คือเป็นหลักฐานบอกคนไทยทั้งชาติว่ารัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิด โกงชาติเพียงใด นำสู่การรวมตัวประท้วงเป็นระลอกๆ เพื่อแสดงพลังไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น
ทั้ง ทีดีอาร์ไอ (ดร. นิพนธ์) และ สถาบันคลังสมองฯ (รศ. ดร. สมพร อิศวิลานันท์) ทำงานวิจัยอย่างน่าเชื่อถือ มีข้อมูล มีหลักวิชาการ แล้วบอกแก่สังคม ว่าโครงการรับจำนำข้าว ทั้งของรัฐบาลนี้ และของรัฐบาลก่อนๆ เป็นช่องทางคอรัปชั่นอย่างไรบ้าง และรุนแรงยิ่งในรัฐบาลที่เพิ่งลาออกไป
เมื่อมีการชุมนุมประท้วง โดยมวลมหาประชาชน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ๒๕๕๖ ที่ผู้คนออกมาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็เป็นตัวบอกว่า เขาได้รับข้อมูลต่างๆ มากเพียงพอที่จะลงความเห็นว่ารัฐบาลทักษิณที่มียิ่งลักษณ์เป็นหุ่นเชิดเลวร้ายเพียงใด
ทำให้ผมคิดออก ว่างานวิจัยเพื่อประโยชน์เชิงนโยบายนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีผู้บริหารเป็นผู้นำไปใช้เท่านั้น ประชาชนในภาพรวม ก็มีโอกาสเอาไปใช้ได้ หากเราสื่อสารสังคมออกไปอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง อย่างกรณีการวิจัยเรื่องโครงการรับจำนำข้าว
ในยุคดิจิตัล ที่สื่อแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ผลการวิจัยที่ดี สื่อสารดี ย่อมก่อประโยชน์เชิงสร้างสรรค์ต่อสาธารณะได้มากอย่างกรณี การวิจัยโครงการรับจำนำข้าว
และปรากฏการณ์ประชาชนเสพผลงานวิจัย ทำให้นักการเมืองจอมโกง ไม่สามารถหลอกประชาชนได้ เป็นข้อเรียนรู้สำหรับผมอย่างยิ่ง ในเรื่องหลักการจัดการงานวิจัย ไปสู่การใช้ประโยชน์
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ธ.ค. ๕๖
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich
< ย้อนกลับ | ถัดไป > |
---|