ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ให้โอกาสวงการวิชาการ วงการวิจัย ทำงานวิชาการเพื่อสังคม

วันศุกร์ที่ 08 พฤศจิกายน 2013 เวลา 00:00 น. ศงนพ.วิจารณ์ พานิช บทความ - การศึกษา
พิมพ์

ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ให้โอกาสวงการวิชาการ วงการวิจัย ทำงานวิชาการเพื่อสังคม

เป็นโอกาสที่วงการวิจัย จะทำงานใหญ่ให้แก่สังคม

ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ให้โอกาสวงการวิชาการ วงการวิจัย ทำงานวิชาการเพื่อสังคม

เช้าวันที่ ๖ พ.ย. ๕๖ ผมฟังข่าววิทยุ ทราบว่าทางจุฬาฯ ตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องร่าง พรบ. นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย เพื่อบอกแก่สังคม   ทำให้นึกขึ้นได้ว่า วิกฤติการเมืองไทยครั้งนี้เป็นโอกาสใหญ่ไปด้วยในตัว   โดยเฉพาะอย่างยิ่งโอกาสที่ประชาชนไทยจะได้เรียนรู้ความซับซ้อนของการเมือง   ที่มีทั้งมิติสร้างสรรค์ และมิติทำลายสังคมในระยะยาว

เวลานี้ การเมืองไทย กำลังอยู่ในมิติทำลายความเข้มแข็งของสังคมไทย   โดยคนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ตัว   ทำลายในคราบหรือข้ออ้างประชาธิปไตย

ความซับซ้อนซ่อนเงื่อนเช่นนี้แหละคือโอกาสที่วงการวิชาการ วงการวิจัย จะทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง

ผมจึงชื่นชม และภูมิใจ อย่างยิ่ง ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ที่ผมเป็นศิษย์เก่าคนหนึ่ง) จัดระบบการทำงานวิชาการในเรื่องนี้ เพื่อบอกแก่สังคมไทย   บอกอย่างเป็นวิชาการ มีข้อมูลหลักฐาน   ไม่ใช่บอกด้วยอารมณ์ หรือความต้องการเอาชนะ

โจทย์ที่สำคัญคือ ข้อความตามร่าง พรบ. ที่ผ่านวาระ ๓ ของสภาผู้แทนฯ จะมีผลต่อเนื่องอย่างไรบ้าง   ใครบ้างที่จะได้รับผลกระทบ   และได้รับในทางใด    ใครบ้างที่จะไม่ได้รับผลกระทบ   และในภาพรวม กฎหมายนี้จะก่อผลอย่างไรบ้าง ต่อสังคมไทย

คำตอบต้องมาจากการวิจัย   ไม่ใช่แค่ความเห็น   และต้องเป็นผลการวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบของเพื่อนนักวิชาการ ที่เรียกว่า peer review คือเวลานี้ สังคมไทยต้องการความรู้ที่ไม่เจือปนอารมณ์   หรือที่เป็นกลาง หรือแม่นยำ    เกี่ยวกับผลกระทบที่แท้จริงของร่างกฎหมายนี้

ผมจึงเสนอความเห็นมายังมหาวิทยาลัยทั้งหลาย และต่อ สกว.   ว่าเป็นโอกาสที่วงการวิจัย จะทำงานใหญ่ให้แก่สังคม

วิจารณ์ พานิช

๖ พ.ย. ๕๖

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 08 พฤศจิกายน 2013 เวลา 13:40 น.