ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๖๔. เที่ยวเมืองมรดกโลก Olinda, บราซิล

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2013 เวลา 00:00 น. ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช บทความ - การศึกษา
พิมพ์

ช่วงเช้าวันที่ ๑๐ พ.ย. ๕๖ คณะ ๕ คน นำโดย ภิเศก - วิม เป็นหัวหน้าทัวร์  มีลูกทัวร์คือ ศ. นพ. พงษ์ศักดิ์ วรรณไกรโรจน์, รศ. นพ. สุวัฒน์ เบญจพรพิทักษ์, และ ผม   ไปเที่ยวเมืองโบราณมรดกโลกของ ยูเนสโก ชื่อ Olinda อยู่ทางเหนือของ Recife ที่เราไปพัก และประชุม 3rd Global Forum on Human Resources for Health ไปทางรถยนต์ประมาณครึ่งชั่วโมง

เมืองนี้อายุเกือบ ๕๐๐ ปี เริ่มเป็นอาณานิคมของคนปอร์ตุเกส - สเปน เพื่อปลูกอ้อย   เคยเปลี่ยนไปอยู่ใต้ดัทช์ช่วงเวลาสั้นๆ   เวลานี้มีชื่อเสียงเป็นเมืองท่องเที่ยว    ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต   และถือเป็นพื้นที่เริ่มต้นของวัฒนธรรมประเทศบราซิล สมัยคริสตศตวรรษที่ ๑๖   กิจกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดและทำเงินเข้าเมืองมากมายในปัจจุบัน คือเทศกาล คาร์นิวาล

ที่จริงตอนที่ อ. ภิเศก และ อ. วิมติดต่อโรงแรมขอให้หาไกด์และรถพาไป โอลินดา และพาชมเมือง เรซิเฟ   แต่ไกด์ไม่ว่าง ได้แต่รถ ที่คนขับอัธยาศัยดีมาก เสียแต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้    ผมมาคิดภายหลังว่า หากได้ไกด์จะวิเศษมาก เราจะได้ฟังประวัติศาสตร์ของการที่คนขาวมายึดครองโลกใหม่   และเข่นฆ่าคนพื้นเมืองอย่างน่าอนาจ    ผมคิดว่าสมัยก่อนคนขาวมองคนผิวอื่นเหมือนไม่ใช่คน เช่นจับคนดำไปเป็นทาส   แต่นั่นเป็นอดีต

เมืองเก่าที่สร้างโดย ปอร์ตุเกส ย่อมมีโบสถ์คาทอลิคมาก   และมีถนนปูด้วยก้อนหิน แบบเมืองเก่าในยุโรป    เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเขา    ผมอ่านพบใน วิกิพีเดียว่า ที่ตั้งเมืองบนเขาเพื่อประโยชน์ในการกำจัดสิ่งปฏิกูล   และเพื่อการป้องกันเมืองจากข้าศึก

ที่แรกที่เขาพาเราไปชมคือโบสถ์เก่ามาก ชื่อ Seminario de Olinda   สร้าง ค.ศ. 1550   ลักษณะเหมือนโบสถ์ แต่คำว่าseminary แปลว่าโรงเรียนสอนศาสนา    เราไม่มีบัตรอนุญาตจึงเข้าไปชมข้างในไม่ได้ มาทราบภายหลัง นึกเสียดายที่ไม่ได้ชมข้างใน    อ่านพบภายหลังว่า นี่คือตัวอย่างอาคาร ที่สร้างในบราซิล ช่วงศตวรรษที่ 16   เคยโดนพวกดัทช์เผา    แล้วสร้างใหม่ใน ค.ศ. 1661 จากนั้นเราบอกให้โชเฟอร์พาไป Information Center    จึงได้แผนที่และคำแนะนำสถานที่ไปชม และร้านอาหารเที่ยง

ผมไปติดใจต้นหูกวางใหญ่สง่างาม ๒ ต้นที่หน้าอาคาร Information Center   ใบหูกวางของบราซิลงดงามกว่าของบ้านเรา    เขานิยมปลูกกันทั่วไป   และมีลักษณะแบบในรูป

สถานที่ที่สวยที่สุดเป็นจุดที่ ๒ คือ Sao Francisco Convent   มีกระเบื้องเคลือบประดับผนังอาคารเป็นเรื่องราวของพระเยซู สวยงามมาก    สร้าง ค.ศ. 1585   จุดที่ ๓ เดินไปจากจุดที่ ๒   คือโบสถ์ Se de Olinda (Alto da Se) เขาบอกว่า เป็นอาคารที่คนมาชมมากที่สุดใน โอลินดา      เมื่อเดินเข้าไปในโบสถ์ทะลุไปด้านในมีวิวอ่าวสวยมาก

แล้วเดินไปที่จุดที่ ๔ คือตลาดที่หน้าโบสถ์ Se   และเมื่อเดินไปอีกหน่อยก็เป็นตลาดของฝาก และเครื่องศิลปะบราซิล    ซึ่งผมดูไม่เป็น ได้แต่ถ่ายรูปเก็บไว้ดู    แถวนี้อาคารสวยงาม ถือเป็นย่านศิลปะสมัยใหม่    จากนั้นเดินไปจุดที่ ๕ คือพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา ในโบสถ์ Sao Salvador do Mundo (1584) และหอชมวิว (Caixa d’Agua – 1934)   ตอนนั้นเวลาราวๆ ๑๑ น. แม่ชีกำลังสวด เราจึงเข้าไปชมไม่ได้

โชเฟอร์พาเราขึ้นรถ ผ่านย่าน คาร์นิวาล   ไปที่อาคารเก็บหัวโขนงาน คาร์นิวาล (จุดที่ ๖)    และไปที่จุดที่ ๗ คือ Monastery of Sao Bento ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก ทั้งตัวอาคารภายนอก   และภายใน

จุดสุดท้ายคือร้านอาหาร    ไปกินอาหารเที่ยง ชื่อร้าน Estrella do Mar อยู่ริมทะเล    เขาถามว่าจะนั่งข้างล่างหรือข้างบน อ. ภิเศกเลือกข้างบน    ทำให้เราได้นั่งรับลมเย็นสดชื่นมาก หลังจากเดินฝ่าแดดเปรี้ยงมา    เราสั่งอาหาร ๓ อย่าง คือ สลัด  ปลา  และเนื้อ   พบว่า เนื้ออร่อยที่สุด    อ. วิมสั่งน้ำส้มคั้น เขาเสิร์พมาเป็นเหยือก คั้นสดๆ    และไม่เติมน้ำตาล    เราเลี้ยงอาหารโชเฟอร์ด้วย โดยเขาสั่งมากินต่างหาก แต่นั่งโต๊ะเดียวกัน   เรานั่งกินเกือบจะอิ่ม คุณหมอสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กับเพื่อนฝรั่งมากินที่ร้านเดียวกัน    ว่าโชเฟอร์แท็กซี่พามา

อิ่มแล้ว โชเฟอร์พาไปชมเมืองเก่า ซึ่งเป็นย่าน downtown Recife    ดูได้นิดหน่อยเราบอกให้เขากลับโรงแรม เพราะเราต้องอาบน้ำแต่งตัว ขึ้นรถไปพิธีเปิดการประชุม

ข้อความชื่อสถานที่ในบันทึกนี้อาจคลาดเคลื่อน    เพราะผมเอาแผนที่ที่ได้จาก Information Center มาเทียบเคียงกับรูปที่ถ่ายมา    ไม่มีคนอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น   เพราะคนที่นี่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ในทุกที่

 

 

วิจารณ์ พานิช

๑๒ พ.ย. ๕๖

by Plus-HD-1.5" style="color: #0022cc; text-decoration: underline !important; background-color: transparent !important; border: none !important; display: inline !important; float: none !important; height: auto !important; margin: 0px !important; min-height: 0px !important; min-width: 0px !important; padding: 0px !important; vertical-align: baseline !important; width: auto !important;">โรงแรม Golden Tulip, Recife, Brazil 

หมายเหตุ ผมไม่ได้คัดลอกรูปภาพที่อาจารย์วิจารณ์ นำมาเผยแพร่ เนื่องจากเคยคัดลอกมาลงแต่พอเปิดเข้าไปดูปรากฎว่าไม่มีรูปภาพใดติดเลย ดังนั้นถ้าท่านใดสนใจอยากจะชมภาพ โปรดติดตามไปดูใน link ที่ผมคัดลอกมาได้แก่ http://www.gotoknow.org/posts/557400

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2013 เวลา 13:41 น.