ปรากฏการณ์ “บอกอนาคตชาติ” โดย เปลว สีเงิน

วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2016 เวลา 00:00 น. เปลวสีเงิน บทความ - สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์
พิมพ์



๑๒ วันแล้ว....นับจากวัน "ฟ้าคืนสู่ฟ้า" ลองทบทวนกันดูซิว่า เราเห็นอะไรบ้าง?

นอกจาก "รัก-อาลัย" ทั้งจากชาวไทยและชาวโลกแล้ว

ยังมีอะไรอีก?

"รักสามัคคี-ทำดีเพื่อพ่อ" เห็นเป็นรูปธรรม นั่นไง

แล้วอะไรอีก?

คนเป็นแสนๆ เฉพาะสนามหลวง รวมเป็นล้านๆ จากทั่วประเทศ ร่วมร้องเพลง "สรรเสริญพระบารมี" เป็นปรากฏการณ์โลก นั่นไง

แล้วอะไรอีก?

คนเป็นแสนๆ ต่อวัน "ผู้ให้" มากกว่า "ผู้รับ" เป็นปรากฏการณ์โลก นั่นไง

แล้วอะไรอีก?

นอกจากตั้งจิต "ทำดีเพื่อพ่อ" แล้ว อีกส่วนหนึ่ง ยังเหมือนตั้งจิต "เลิกทำชั่วเพื่อพ่อ" ด้วยเหมือนกัน

จะเห็นช่วงนี้.......

บ้านเมืองสงบ-เรียบร้อย ไม่มีอาชญากรรมร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้น แม้กระทั่งการ ฉก-ชิง-วิ่งราว ก็แทบไม่ปรากฏ

ในหมู่คนไทยกว่า ๖๕ ล้านคน......

เหลือ "เศษคน" แค่ไม่กี่เศษ "นับหัว-นับชื่อ" ได้ ที่ซุกอยู่นอกประเทศ ก่อกรรมทุราจาร

เป็นไฟเผา "โคตรเหง้า-เผ่าพงศ์" ตัวเอง!

ถ้าจะแจกแจงทั้งหมด เกรงว่าโลกจะไม่มีเวลาให้ถึงขนาดนั้น

เอาเป็นว่า สิ่งดีทั้งหลาย.......

ที่สะท้อนจากคนไทย-ประเทศไทย ออกไปเป็น "ปรากฏการณ์โลก" เวลานี้ สรุปได้คำเดียว คือ

"รัก"!

เป็นรัก "ตามรอยพ่อ" ที่ถูกทาง

"รักแบบพ่อ" คือ......."รักต้องให้"

ให้ความเมตตาผู้อื่น ให้อภัยผู้อื่น ให้ความปรารถนาดีผู้อื่น เอื้อเฟื้อแบ่งปันให้ผู้อื่น

รักแบบนี้แหละ คือ "รักสามัคคี" ตามที่พ่อสอน

เป็นรักทำให้ชาติรอด พี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันทุกคนรอด ตามพระบรมราโชวาท ที่ว่า

"......... ถ้าหากเมืองไทยไม่ใช้ความสามัคคี ไม่เห็นอกเห็นใจกัน ไม่อะลุ้มอล่วยกัน ไม่มีวันที่จะมีชีวิตรอดได้"

แต่ยังมีอีกสิ่ง ที่ผมถอดรหัส "รักตามรอยพ่อ" นั่นคือ ด้วย "เมล็ดพันธุ์แห่งรัก" ที่พ่อเพาะไว้

จะแตกโตเป็น "อนาคตสังคมชาติ" น่าตื่นตา-ตื่นใจ จนสามารถพูดด้วยความมั่นใจเกินร้อยได้ว่า.......

ด้วยกล้าพันธุ์ "ลูกพ่อหลวง"

ประเทศไทยในอีก ๑๕-๒๐ ปีข้างหน้า จะยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์ และมากมายด้วยความหมาย "ไทยรุ่งเรือง มั่งคั่ง"

ปัจจุบัน พวกอ้างประชาธิปไตยล้มชาติ เท่าที่เห็นอยู่

จะเหลือค่า ๒ อย่าง ระหว่างปุ๋ยคอก กับการ์ตูนขายหัวเราะ!

ฉะนั้น นับแต่นี้ .....

ใครก็อย่าไปเสียเวลาด้วยการให้ค่ากับบุคคลประเภท "เปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน" อยู่เลย

เพราะวันนี้...เห็นชัด จะพูดว่า "ในรอบร้อยปี" ก็ไม่ผิด จากปรากฏการณ์

"อาสาทำดีเพื่อพ่อ"!

คำนี้ใครตั้ง......?

ไม่มีใครตั้ง หากแต่ "ความรัก" ของลูกที่มีต่อ "พ่อ" ผลิดอกกตัญญู-กตเวทีขึ้นกลางจิตสำนึกแต่ละคน

จนเป็นปรากฏการณ์ งาน "พระบรมศพ" คนเป็นแสนๆ ที่มา ไม่ได้มาเป็นแขก แต่มาประหนึ่งเจ้าภาพ

ต่างคนต่างช่วยเหลือ ต้อนรับ ดูแลซึ่งกันและกัน

นอกจากเป็นเจ้าภาพร่วมแล้ว ยังมาเป็นแรงงาน "ช่วยงาน" พระบรมศพโดยไม่มีใครเรียกร้อง และไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดๆ

แต่ละคน สามารถทางไหน ทำอะไรได้ ช่วยอะไรได้ เสนอตัว "อาสาทำดีเพื่อพ่อ" ทันที

กระทั่งมอเตอร์ไซค์ รถแท็กซี่ รถเมล์ รถโดยสาร ล้างถ้วย-ล้างจาน เก็บกวาดถนน เดินเก็บขยะ แจกน้ำ แจกยา แจกอาหาร ปฐมพยาบาลคนเจ็บป่วย โบกรถ ทำป้าย ฯลฯ

ไปทางไหนๆ มีแต่น้ำใจ มีแต่ให้ มีแต่อาสา มีแต่ช่วยเหลือ มีแต่ความรัก-ความสามัคคี ทุกคนพี่น้องไทย "ลูกพ่อหลวง" ด้วยกันทุกคน

ด้วยสำนึกในสิ่งที่พ่อเพียรสร้างให้ลูกมา ๗๐ ปี

"กตัญญู-กตเวที" จึงเป็นความงดงามที่ "คนทั้งโลก" ทึ่ง ในความหมายว่า "ทำไม คนไทยจึงรัก-เทิดทูน-บูชา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ได้มากมายขนาดนี้?

ไม่เคยปรากฏ....

นิสิต นักศึกษา ในชุดสถาบัน จากหลายๆ สถาบัน รวมใจมากันเอง อาสาทำดีเพื่อพ่อ

ถือถุงดำเก็บขยะตามถนน ตามท้องสนามหลวง

สละเงินกันเอง ซื้อขนม ซื้อยา ซื้อพัด ซื้อน้ำ มาแจกจ่าย ฯลฯ

ไม่เคยปรากฏ....

นักเรียนอาชีวะ หรือที่เรียก "นักเรียนช่างกล" จะประกาศ "เลิกตีกัน" ถาวร ด้วยจิตสำนึกของแต่ละคน โดยไม่มีใครบังคับ นับแต่นี้ไป

ไม่เคยปรากฏ....

นักเรียนมัธยม ในชุดนักเรียน จะรวมตัว-รวมกลุ่ม "มากันเอง" เป็นจิตอาสา ทำทุกอย่าง เสิร์ฟน้ำ-เสิร์ฟอาหาร เดินเก็บขยะ ช่วยคนเฒ่า-คนแก่

ไม่เคยปรากฏ.....

ชาวบ้านเป็นรายบุคคล ทำขนมมาจากบ้านบ้าง ซื้อหายาดม-ยาหม่องบ้าง

เรียกว่าใครมีอะไร ก็หอบติดตัวมาช่วยงานพระบรมศพ ว่างั้นเถอะ

ไม่เคยปรากฏ....

จะมีคนมาตั้งโรงทานมากมายขนาดนี้ ถึงขนาดว่า มาถวายสักการะพระบรมศพกันเป็นแสนๆ คนในแต่ละวัน

แต่คนรับ...แพ้คนให้!

จนพูดได้ยินไปทั้งโลกว่า.....มางานพระบรมศพพ่อ ไม่ต้องเอาตังค์มาซักบาท ก็กินอิ่ม-นอนหลับได้สบาย

ไม่เคยปรากฏ.....

ศิลปิน นักแสดง ทุกหมู่เหล่า จะมาร่วมพี่น้องประชาชนเป็นน้ำหนึ่ง-ใจเดียวกัน มาช่วยงานกัน ชนิดไม่มีใครห่วงสวย หรือกรีดจริต

และไม่เคยปรากฏ..........

เด็ก ๓-๔ ขวบ จะร้องไห้ สะอึก-สะอื้น เมื่อทราบข่าว "ในหลวง" สวรรคต พลางร้อง

"อยู่กับหนู...อย่าทิ้งหนูไป"!

นี่คือภาพกว้าง ที่ผมตามดูจากข่าวแต่ละวัน และเมื่อสรุปปรากฏการณ์ดังว่าทั้งหมด สิ่งตกผลึก คือ

ไม่น่าเชื่อ แต่จริงที่ปรากฏแล้ว คือ.......

เยาวชนไทย ตั้งแต่ ๓-๔ ขวบ จนไปถึง ๑๙-๒๐ ปี

ทั้งที่วัยนี้ ไม่มีโอกาสได้เห็น "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และ "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ" ทรงบุกป่าฝ่าดง ดูแลสุข-ทุกข์ราษฎร ทั้งแผ่นดิน เหมือนที่รุ่นพ่อ-แม่เคยเห็นก็ตาม

ผู้ใหญ่มักพูดกันว่า........

"คนรุ่นใหม่" ไม่เอาสถาบัน

"คนรุ่นใหม่" ไม่รู้จักในหลวง

"คนรุ่นใหม่" มองว่า ประเทศไม่จำเป็นต้องมีระบบกษัตริย์

แต่จาก ๑๒ วัน ที่ผ่านมา เห็นชัด......

ที่พูดกันนั้น "ผิดหมด"!

ไม่อยากใช้คำว่า "ผู้ใหญ่ มองเด็กผิด"

แต่อยากใช้คำว่า "ผู้ใหญ่เมื่อวาน" ใช้จิตสำนึกทาสและความคิดแยกแยะต่ำ ไปประเมิน "เด็กวันนี้"!

ในจำนวนพสกนิกรนับแสนๆ ปรากฏว่า "คนรุ่นใหม่" ในสถานะต่างๆ ทั้งสถานะนักเรียน นักศึกษา และในอาชีพ-การงานอื่นๆ

มาร่วมงานถวายสักการะพระบรมศพ มาเป็น "จิตอาสา" ทำดีเพื่อพ่อ มากจนถมทับ "คนรุ่นอดีต" จมหาย

เทียบง่ายๆ เมื่อครั้ง กปปส.ชุมนุม ด้วยมวลชน ๓-๕ ล้านคน มีเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซักหมื่นก็ยาก

แต่งานพระบรมศพพ่อ เยาวชนคนรุ่นใหม่ เป็น "หน่ออนาคต" โดดเด่น-สะดุดตามาก

และทุกคนรู้.......

ขึ้นชื่อว่า "วัยรุ่น" ถ้าไม่เต็มใจ-ไม่สมัครใจ อย่าหวังจะได้เห็นเช่นนี้ และที่สำคัญ ผมแอบปลื้มเอามากๆ

เยาวชนแต่ละคน พอนักข่าวสัมภาษณ์....

คำพูดจากใจ "จะฉาดฉาน ชัดเจน" เข้าถึงแก่นนำมาซึ่งศรัทธาใน "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

ด้วยรับรู้ใน "สิ่งที่พ่อสร้าง"

และนั่น ทำให้พวกเขาทั้งหลาย ออกมาเป็น "จิตอาสา" ตอบแทนพระคุณพ่อ

คนรุ่นใหม่ "รู้จัก-เข้าใจ" คำว่าในหลวง

และ "รู้จัก-เข้าใจ" ว่า.......

ความเป็นไทยกับระบบกษัตริย์ ต้องอยู่ด้วยกันจึงจะเป็นประเทศไทย!

ผมดูทิศทาง "อนาคตประเทศ"

จากบทบาท-ทัศนคติ "คนรุ่นใหม่" วันนี้ บอกได้คำเดียว "หมดห่วง-สบายใจ" 


"คนรุ่นใหม่" จะโตไปพร้อมคำว่า "ไทยกับสถาบัน".

คัดลอกจากบทความของ เปลวสีเงิน ในหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 24 ตุลาคม 2559

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 26 ตุลาคม 2016 เวลา 21:51 น.