ในปัจฉิมวัย ผมหมั่นฝึกฝนตนเองในหลากหลายด้านทั้งด้านการมีสมาธิ หรือมีสติจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะด้านความอยู่ง่ายกินง่าย ปรับตัวได้ในสถานการณ์ต่างๆด้านความไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนด้านการรับรู้และชื่นชม ดื่มด่ำสุนทรียภาพ ด้านผลิตภาพ (productivity) คืออยู่ที่ไหนทำงานได้หมด และอื่นๆ

อยู่ระหว่างฝึกนะครับไม่ใช่เชี่ยวชาญ

เช้าวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ผมมีนัดทำวีซ่าที่สถานทูตนอร์เวย์ อาคาร อัลมาลิ้งค์ ชั้น ๑๒ถนนชิดลม เวลา ๙.๑๕ น.แต่ผมไปถึงอาคารนั้นเวลา ๗.๑๕ น. ก่อนเวลาถึง ๒ ชั่วโมง

ลองขึ้นไปที่ชั้น ๑๒ พบว่ามีคนมายืนรออยู่ก่อนแล้วเกือบ ๒๐ คนตรงที่แคบๆ หน้าลิฟท์ โดยที่สำนักงานเขายัง ไม่เปิดให้เข้าผมนึกในใจว่า สถานที่ทำวีซ่าทุกแห่งให้บริการแบบไม่ง้อคนขอวีซ่าทั้งๆ ที่เราจะไปใช่จ่ายในประเทศของเขายังดีที่ตรงข้างลิฟท์มีห้องน้ำให้ใช้

เข้าห้องน้ำเสร็จผมลงลิฟท์ไปชั้นล่าง เพื่อหาที่นั่งทำงานหวังว่าจะมีร้านกาแฟให้นั่งปรากฎว่าที่ตึกอัลมาลิ้งค์ไม่มีเดินไปทางห้างเซ็นทรัลชิดลมก็ไม่มีเดินเลยไปอีกเกือบ ๑๐๐ เมตรก็ไม่มีมีแต่ร้านแผงลอยขายไก่ทอดน่ากิน

ผมเดินกลับมาหวังไปนั่งทำงานที่บันไดห้างเซ็นทรัลชิดลมโชคดี ระหว่างทางเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง นั่งที่เก้าอี้ยาว ข้างห้างเซ็นทรัล และยังมีเก้าอี้ว่างอีกตัวหนึ่งผมจึงเดินไปนั่ง และเปิด MacBook ขึ้นมาเขียนบันทึก

ตาเหลือบไปเห็นความงามในดงอาคารสูง ที่ผมเดาว่าน้อยคนที่จะสังเกตเห็นเพราะมัวนั่งรถไปมา และไม่ได้มอง ตรงมุมที่เหมาะโชคดีจริงๆ ที่ผมมานั่งแหมะตรงตำแหน่งที่เหมาะพอดี

นั่งทำงานไป สังเกตชีวิตผู้คนไป จนเวลาเกือบ ๘.๓๐ น. ที่เขานัดทีมสถาบันอาศรมศิลป์ไปทำวีซ่าผมจึงเดินกลับไปอาคารอัลมาลิ้งค์และขึ้นลิฟท์ไปชั้น ๑๒

เราเริ่มกระบวนการทำวีซ่าก่อน ๙ น.กว่าจะเสร็จก็เลย ๑๑ น. เล็กน้อยเจ้าหน้าที่บอกว่า ใช้เวลาไม่เกิน ๑๕วันเดาว่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเป็นของบริษัทรับทำเขาคิดค่าบริการจากเรา ๖๖๐ บาท โดยที่ทางสถานทูตก็เก็บเงินค่าทำวีซ่าไปแล้ว สถานที่นี้รับทำวีซ่าของเดนมาร์ก สวีเดน และ นอร์เวย์

๒๐ มี.ค. ๕๗