วันที่ ๒๒ พ.ค. ๕๖ ผมเข้าร่วมกิจกรรม DFC3 Orientation จัดโดยสถาบันคลังสมองของชาติ
DFC ย่อมาจาก Dean for Changeรุ่นนี้เป็นรุ่น ๓ จัดเพื่อเตรียมคนเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย ระดับคณบดี ที่มีหัวใจ จิตใจ และทักษะการบริหารการเปลี่ยนแปลง
จากการเข้าร่วมประชุมวันนี้ ผมเห็นชัดเจนว่าการดำเนินการหลักสูตรนี้เข้มข้น และมีคุณภาพสูงมาก โดย keyword ของหลักสูตรคือ change, internationalization, และ collaborationและในวันนี้มีการฝึกเทคนิค ๒ อย่าง เพื่อใช้ในกิจกรรมร่วมกันตลอดหลักสูตร คือ storytellingและ gallery walkผมได้คุยกับทีมของคลังสมองและทราบว่า ตอนไปดูงานที่เยอรมัน ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ มิ.ย. ๕๖จะใช้เครื่องมือ AAR ด้วย โดยทำกันบนรถระหว่างเดินทาง ทีมของสถาบันคลังสมองได้เตรียมข้อมูลไว้อย่างดี ว่าการเดินทางช่วงต่างๆ ในเยอรมันมีเวลาเท่าไร จะใช้ประโยชน์ของเวลาให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ร่วมกันโดยทำ AAR
ผู้เข้าร่วมหลักสูตรมี ๑๘ คน จาก ๑๑ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยที่ส่งคนเข้าร่วมมากที่สุดคือ มข. ๓ คน มาจากคณะวิทยาการจัดการคณะเดียว มีวิทยากรเดินทางไปเยอรมันด้วย ๔ คน ผมไปในฐานะวิทยากรรับเชิญ โดยผมออกค่าใช้จ่ายเอง เพราะอยากไปเรียนรู้ อยากมีส่วนสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่อุดมศึกษาไทย
ในวันปฐมนิเทศนี้ ศ. ดร. ปิยะวัติ บุญ-หลง ผอ. สถาบันคลังสมองได้เกรินนำขั้นตอนของกระบวนการเปลี่ยนแปลง ๘ ขั้นตอนของ Kotterเป็นการเรียนทฤษฎีแบบเกริ่นนำ ให้ไปค้นคว้าเองต่อ แล้วไปดูตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงมหาวิทยาลัย ๗ แห่งในเยอรมัน แล้วจึงกลับมาทำ “แบบฝึกหัด” ของตนเอง เรียกว่า PAP (Program Action Plan) ตามด้วยการนัดหมายมารวมตัวแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๖ จะมีรายการ Learn and Share ใช้เวลา ๕ วัน เพื่อเรียนรู้ change module ที่สำคัญสำหรับมหาวิทยาลัยไทย รวม ๖ หน่วย โดยจะมีรายการไปดูงานที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วย เป็นการเสริมความรู้เชิงทฤษฎี และตัวอย่าง สำหรับให้ผู้เข้าหลักสูตรได้นำไปใช้ปฏิบัติจริงใน PAP รายการ PAP นี้ จะมีการทำงานต่อเนื่อง จนมี Final Conference วันที่ ๙ - ๑๐ ม.ค. ๕๗
ผมมีความรู้สึกหลังฟังรายละเอียดของการเดินทางไป study visit ที่เยอรมันว่า เป็นการเดินทางที่มีการเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เข้มข้นมาก ในขณะเดียวกัน ก็จัดให้มีทัศนศึกษา และมีเวลาให้ช็อปปิ้งด้วย และที่พักที่กินก็ดีมาก คือได้เรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมด้วย
วันเสาร์ที่ ๘ มิ.ย. ๕๖ สาวน้อยทักว่าคราวนี้ผมไม่ออกไปประชุม จนเย็นก็กลับเข้าบ้าน และเตรียมตัวไปขึ้นเครื่องบิน อย่างตอนที่ไปสวิตเซอร์แลนด์กับเธอคืนวันที่ ๘ พ.ค. ๕๖ ที่ผ่านมา
ผมใช้วันเสาร์นี้เตรียมเที่ยวในวันอาทิตย์รุ่งขึ้นที่ เบอร์ลิน สาวน้อยเขาอ่านหนังสือนำเที่ยว ใครๆ ก็ไปเที่ยวเยอรมันนีแล้วบอกว่าเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดมี ๓ เมือง คือ เบอร์ลิน แฟรงค์เฟิร์ต และมิวนิก แต่ผมไปคราวนี้ไปทำงาน/เรียนรู้ ไม่ใช่ไปเที่ยว การเที่ยวถือเป็นของแถม
เราจะได้ไปชม Charlottenberg Palace, Boat trip city tour, และไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร Roof Garden Restaurant ที่อาคารรัฐสภาBundestagผมก็เข้าไปชมเสียก่อนทาง อินเทอร์เน็ต
วิจารณ์ พานิช
๘ มิ.ย. ๕๖
คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/540065