ผู้แนะนำเรื่องนี้คือ นพ. อุดม เพชรสังหาร ผมได้ฟังเมื่อวันที่ ๖ ก.ย. ๕๖ ในการประชุม โครงการพัฒนาเยาวชนท้องถิ่น ๔ ภาค ระยะที่ ๒ ที่มาเสนอเรื่อง หลักสูตรนักถักทอชุมชน จัดโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล และ สรส. นพ. อุดม แนะให้ใช้วงตีกลอง ฝึกการทำงานเป็นทีม เป็นการเรียนทักษะการทำงานเป็นทีมแบบไม่รู้ตัว
ท่านเอาเอกสารวิชาการเรื่องนี้มาให้ผม ๖ ชุด ได้แก่
- Synchronized Drumming Enhances Activity in the Caudate and Facilitates Prosocial Commitment – if the Rhythm Comes Easily
- “To the beat of a different drum” : improving the social and mental wellbeing of at-risk young people through drumming
- Empathy in Musical Interaction
- Drumming Up Courage
- Recreational music-making alters gene expression pathways in patients with coronary heart disease
- Why would musical training benefit the neural encoding of speech? The OPERA hypothesis
นี่คือรูปแบบหนึ่งของ ดนตรีบำบัด บำบัดความเกเรหรือพัฒนาเยาวชน ซึ่งผมคิดว่าเหมาะมากสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่มีกำลังเหลือมากมาย วงตีกลองนี้จะมีผลป้อนไปยังสมอง ทำให้การเรียนภาษาดีขึ้น ช่วยสร้างการเรียน/ฝึกทักษะเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (empathy) หรือน่าจะจัดเป็นรูปแบบหนึ่งของ จิตตปัญญาศึกษา ได้
ผมได้ทราบเรื่องของคุณ คธา เพิ่มทรัพย์ นักตีกลองทับบล้า (กลองแขก) ซึ่งผมเดาว่า เป็นตระกูลเดียวกับกลองทับของไทยเรานั่นเอง ทำให้ทราบว่า การตีกลองเป็นการฝึกทางจิตวิญญาณอย่างหนึ่ง
ที่จริงดนตรี ก็คือเครื่องมือบรรลุการเรียนรู้ทางจิตวิญญาณ การฟังดนตรีให้ประโยชน์ในทางเพลิดเพลินและฝึกสมอง แต่เป็นpassive learning การเล่นดนตรีเป็น active learning โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เล่นเป็นวง น่าจะช่วยฝึกสมองหลายด้านทีเดียว น่าจะเป็นโจทย์วิจัยด้านการเรียนรู้ ได้มากมายหลายคำถามวิจัย ดังแสดงในเอกสารบางฉบับที่คุณหมออุดมกรุณานำมามอบให้ผม
ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ครับ
วิจารณ์ พานิช
๗ ก.ย. ๕๖