ลมหายใจแห่งพุทธะ: อานาปานสติสู่การหลุดพ้น
https://youtu.be/HRz6aAJDR-w?si=bFBLiLiUpq3NlcSi
Briefing Doc: การบรรยายธรรมเรื่อง "ทำยังไงจะดูลมได้ตลอดเวลา"
โดยหลวงตาสินทรัพย์ อานาปานสติ
วันที่: 25 เมษายน 2567
ผู้บรรยาย: หลวงตาสินทรัพย์ (พระสิ้นคิด)
หัวข้อหลัก: การฝึกเจริญสติด้วยอานาปานสติ
เพื่อให้เข้าถึงธรรมและหลุดพ้นจากภพชาติ
ธีมหลักและแนวคิดสำคัญ:
1. การวางและการรู้ทันจิต/ความคิด:
 หลวงตาสินทรัพย์เน้นย้ำว่า "เรื่องของจิต ย่อมเสือก ย่อมใส
เรื่องของความคิด เรื่องของความเห็น เรื่องของความเชื่อ
เมื่อทำลายความเชื่อ ก็คือทำลายทิฐิ นั่นแหละ คือทำลายความคิด นั่นแหละ
ทำลายไม่ใช่ อย่างอื่นนะ คือวางมัน รู้ทันมัน คิดดีก็รู้มัน คิดชั่วก็รู้
อย่าไปดีกับมันชั่วกับมัน"
 การคิดต่อยอดจากความคิดจะนำไปสู่การสร้างภพชาติ
 การเข้าถึงธรรมต้องเริ่มจากการวางความคิด การหยุดคิดจึงจะเกิดวิปัสสนา
 "ถ้าเข้าไม่ถึงความหยุดคิด วิปัสสนาจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด
วิปัสสนาจะเกิดขึ้นได้ต้องว่างจากความคิดก่อน
ถ้ามึงไปคิดนี่เป็นนิวรณ์หมด"
1. ความสำคัญของการปฏิบัติจริง เหนือตำราและการเชื่อผู้อื่น:
 ธรรมะเป็นสิ่งที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้ "เหมือนพูดเรื่องนกให้ป้าฟัง
นั่นแหละ" ผู้ที่เข้าใจธรรมะจากการปฏิบัติจะ "วางโทรศัพท์ลง กราบเลย
ร้องห่มร้องไห้เลย"
 การบรรลุธรรมต้องเกิดจากการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่ใช่จากการอ่านตำรา
หรือการที่ผู้อื่นมา "เชื่อมจิต" ให้
 "เรื่องของตำรา มันก็มีประโยชน์
เพราะมันเป็นเหมือนกับเป็นที่ศึกษาให้เราเกิดศรัทธา ให้เราปฏิบัติถูก

ถ้าพูดธรรมะต้องพูดตามตำรา ถ้าพูดถึงสภาวะนักปฏิบัติเนี่ย
นอกตำราจำไว้"
 ตำหนิแนวคิดที่เชื่อว่ามีผู้มาเชื่อมจิตให้
หรือการลดขั้นของอนาคามีเป็นนาค โดยกล่าวว่าเป็น "บ้าบอคอแตกมาก"
และเน้นย้ำว่าพุทธศาสนาสอนเรื่องกรรม
 "ไม่ มีหรอกคนจะมาเชื่อมจิตให้มึงได้ ถ้าเชื่อมได้ โอ้ย
มันรู้ธรรมกันหมดแล้ว พุทธเจ้าเชื่อมให้หมดแล้ว ไม่ได้มาเกิดอย่างงี้หรอก"
 หลวงตาบอกว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้น "คือให้กำลังใจ ให้แง่คิดมุมมอง
ให้เห็นมันถูกต้อง" แต่การเข้าถึงต้องปฏิบัติเอง
1. จิต, สติ, และความสัมพันธ์กับความคิด:
 จิตคือ "ความคิด" หรือ "จิตตสังขาร"
อุปมาเหมือนหลอดไฟกับแสงของหลอดไฟ หรือหูกับเสียง
 "ความคิดก็คือเสียงนั่นแหละ จิตก็คือหูนี่แหละ
เพราะฉะนั้นมึงอยากเห็นชัดเจน มึงก็ต้องดูความคิดนี่แหละ ไม่มีทางอื่น"
 สติคือ "พุทธะ" เป็นผู้รู้ ส่วนจิตหรือความคิดเป็นผู้ถูกรู้
 สติเปรียบเสมือนรถที่วิ่งด้วยความเร็ว 20 กม./ชม. ในขณะที่ความคิดวิ่ง 120
กม./ชม. สติจึงตามความคิดไม่ทัน
 เมื่อฝึกสติให้มีกำลังเท่ากับความเร็วของความคิด (120 กม./ชม.) จะเกิด
"จิตเห็นจิต จิตในจิต" เห็นการเกิดดับ
 เมื่อสติมีกำลังเหนือกว่าความคิด (130 กม./ชม.) จะเกิด "สัมโพธายะ"
เป็นมหาสติ มหาปัญญา เห็นการไม่เกิด ซึ่งนำไปสู่การไม่เกิดภพชาติ
1. อานาปานสติ: หนทางสู่การบรรลุธรรม:
 "จงเอาสติเนี่ย มาอยู่กับลมหายใจ อยู่ในฐานให้เสร็จ
สติมีกำลังเจริญขึ้นนั่นเอง วิธีอานาปานสติ"
 เมื่อสติอยู่กับลม จะมีทั้งสมถะและวิปัสสนาควบคู่กันไป
 การฝึกอานาปานสติสามารถทำได้ทุกอิริยาบถ: นอน, นั่ง, เดิน, ยืน

 เมื่อฝึกจนสติและลมหายใจรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะเป็น "นิสัย
อุปนิสสยปัจจโย เป็นความเคยชิน กลมเกลียวกัน"
จนไม่สามารถแยกจากกันได้
 "ศีล สมาธิ ปัญญา หรือจิต หรืออะไรรวมเป็นหนึ่ง อยู่ในลมหายใจนี่แหละ"
 "ลมหายใจนี่มีกำลังมาก ให้หายใจเบาๆ นี่ โอ้โห อัศจรรย์มาก"
 การฝึกสติคือการ "เดินเข้าใกล้พระพุทธเจ้าทุกขณะทุกย่างก้าว"
1. พระพุทธเจ้าและธรรมะอยู่ในใจ:
 "พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่อินเดีย ไม่ได้อยู่ที่อื่นหรอก อยู่ในใจเราเนี่ย
อยู่ในลมหายใจเราเนี่ย"
 "ไม่ ต้องไปตามหาพระอรหันต์ที่อื่นหรอก ตามอยู่ตรงเนี้ย"
 เน้นย้ำให้ตื่นรู้ด้วยสติปัญญา และมองดูความคิด เพื่อพิชิตกิเลส
1. ความสำคัญของสติในชีวิตประจำวันและการรักษาศีล:
 "คนเราเนี่ย เสียสติเป็นคนบ้า" การมีสติที่มากพอทำให้เกิดปัญญา
 "ถ้าไม่ มีสติจะรักษาศีลก็ไม่ได้หรอก ไม่สมบูรณ์
เพราะคนเสียสติมึงจะไปรักษาอะไรได้ จำไว้ สติ
นี่แหละเป็นยอดแห่งธรรมทั้งมวล"
 การมีสติจะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ และความกลัวได้
 "บุคคลใดถ้าหายใจอยู่ไม่ตายจริงนะ
เพราะที่มันตายเพราะมันขาดอากาศหายใจ จำไว้ เพราะฉะนั้น
นั้นหายใจไว้"
1. การทำบุญและการสงเคราะห์โลก:
 หลวงตาเล่าถึงประสบการณ์การทำบุญและสงเคราะห์โลกมากมาย เช่น
การสร้างวัด การบริจาครถพยาบาล การช่วยเหลือโรงเรียนที่ขาดแคลน
 "ทำเถอะ ทำ เพื่อศาสนา ทำเพื่อคนเพื่อแผ่นดินเนี่ย มันมีอะไร ไม่ดี
เอาเงินไปกินเหล้า ไป เล่นการพนัน ไปซื้อปืนมายิงกันน่ะนะ ใช่
มันเป็นอบายมุข อันนี้มาทำความดี มาสร้างสรรค์สังคมให้มีศีล มีธรรม
ให้มีน้ำจิตน้ำใจ มันสมควรไหมล่ะ พระเราที่จะทำอย่างนี้ ใครไม่ทำกูจะทำ"

 การทำบุญไม่ควรเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น "ถ้าทำแล้วกูเดือดร้อนน่ะ
กูไม่ทำหรอก"
 ท่านเน้นย้ำถึงการลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่พูดสอน
"เราทานเราสอนให้คนอื่นทาน สอนแต่ปากไง ตัวเองไม่ทานมั่งไง
ไม่ใช่ว่าเอาแต่ของคนอื่นมาเก็บไว้สะสมไว้"
 การทำบุญด้วยใจบริสุทธิ์และลงแรงเอง จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็ว
1. การไม่ยึดติดและการปล่อยวาง:
 หลวงตาเล่าถึงการสร้างวัดและกุฏิมากมาย
แต่ก็พร้อมที่จะปล่อยวางเมื่อมอบให้ผู้อื่นไปแล้ว "มอบ ให้เขาก็มอบไปแล้ว"
แม้กระทั่งเมื่อกุฏิที่สร้างไว้อย่างดีถูกรื้อเพื่อเอาไม้ไปขาย ท่านก็ไม่ได้ติดใจ
"กู ก็ไม่ ได้ว่าหรอก ตามสบาย"
 ท่านไม่กลัวที่จะเป็นหนี้จากการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม "กู
กำลังหาหนี้ใส่หัวกูอีกเนี่ย"
 ท่านเตือนให้คนดีสร้างความดีต่อไป "ขอให้พวกเราเป็นคนดี
สร้างความดีนะ จริงไหม มันก็เป็นกุศลใส่จิตใส่ใจล่ะ"
ข้อเท็จจริงและประเด็นสำคัญ:
 ประสบการณ์ส่วนตัวของหลวงตา:
หลวงตาเล่าถึงการที่เคยไปปฏิบัติในถ้ำอชันตาตามคำแนะนำของอาจารย์
ซึ่งเป็นถ้ำที่อยู่ห่างไกลและอันตราย (มีงูใหญ่) ท่านใช้เวลาอยู่ในถ้ำ 2
ปีกว่าเพื่อปฏิบัติธรรม
 คำพูดที่ตรงไปตรงมาและท้าทาย: หลวงตามีสำนวนการพูดที่ดุดัน
ตรงไปตรงมา และบางครั้งใช้คำหยาบเพื่อเน้นย้ำความจริง
ไม่เกรงกลัวการถูกตำหนิว่า "ปรามาสแล้วจะบาปหมา"
 การอุปมาอุปไมย: ใช้การเปรียบเทียบที่เข้าใจง่าย เช่น
จิตกับความคิดเหมือนหลอดไฟกับแสง
สติกับความคิดเหมือนรถที่วิ่งด้วยความเร็วต่างกัน
 การเชื่อมโยงกับหลักธรรม: แม้จะเน้นการปฏิบัติและประสบการณ์ตรง
แต่ก็มีการอ้างอิงถึงหลักธรรมสำคัญ เช่น อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
มรรค), อภิญญายะ, สัมโพธายะ

 การบริจาคและช่วยเหลือสังคม:
หลวงตามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เช่น
การสร้างถนนและระบบน้ำประปาให้โรงเรียน
การบริจาครถพยาบาลมูลค่าเกือบ 2.5 ล้านบาทให้โรงพยาบาล
และการสร้างกุฏิอีก 60 หลังให้แม่ชี
 เรื่องเล่าจากลูกศิษย์: เล่าถึงลูกศิษย์ท่านหนึ่งที่บวชได้ 6 พรรษา
ตั้งใจไม่หลับนอน เมื่อฟังธรรมของหลวงตาแล้วเกิดความซาบซึ้งจนกระทั่ง
"สึกทั้งที่เป็นธรรมยุต" เพื่อมาปฏิบัติกับหลวงตา
 กิจกรรมในอนาคตอันใกล้: หลวงตามีแผนเดินทางไปงานศพลูกศิษย์
(เป็นมะเร็ง) และไปพักที่ค่ายมวยสามารถ พยัคฆ์อรุณ
ก่อนจะไปร่วมงานศพอีกงานที่ลาดพร้าว 71 และงานที่วิมุตยาเขาใหญ่
 ความตั้งใจในการสร้าง: หลวงตากล่าวว่ากำลังหาเงิน 10
ล้านบาทเพื่อสร้างกุฏิเพิ่มเติม และมีความตั้งใจที่จะซื้อลอตเตอรี่
(แบบติดตลก)
สรุปโดยรวม:
หลวงตาสินทรัพย์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจริญสติด้วยอานาปานสติเป็นหน
ทางหลักสู่การบรรลุธรรม โดยเน้นย้ำให้ลงมือปฏิบัติจริง
ไม่ยึดติดกับตำราหรือคำพูดผู้อื่น
การรู้ทันความคิดและวางมันลงคือหัวใจของการปฏิบัติ
สติคือเครื่องมือสำคัญที่จะนำไปสู่ปัญญาและเห็นการไม่เกิดของภพชาติ
นอกจากนี้
หลวงตายังเป็นแบบอย่างของการทำบุญสงเคราะห์โลกด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์
ไม่ยึดติดในทรัพย์สินที่สร้างขึ้น และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
การบรรยายธรรมเต็มไปด้วยข้อคิดที่ตรงไปตรงมา ชวนให้ฉุกคิด
และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่จะกระตุ้นให้ผู้ฟังหันมาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง.