Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Home > Articles > สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ > ธรรมาธิปไตย อารยธรรมใหม่ของแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ (๔)

ธรรมาธิปไตย อารยธรรมใหม่ของแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ (๔)

พิมพ์ PDF
ธรรมาธิปไตย อารยธรรมใหม่ของแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ (๔)

ได้อัญเชิญ พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยู่หัว พระผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทรงพระราชทานแก่นายทหารผู้ใหญ่ท ี่เข้าเฝ้า และทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๔๘ ความตอนหนึ่งว่า 
“...เป็นที่ทราบกันดีว่าทหารมีห น้าที่ป้องกันประเทศและปกป้องคุ ้มครองประชาชนให้มีชีวิตอยู่ด้ว ยความร่มเย็นเป็นปกติสุข หน้าที่นี้ถือว่าสำคัญมาก โดยเฉพาะในระยะปัจจุบันสถานการณ์ในบ้านเมือ งเรา อาจจะกล่าวได้ว่าไม่น่าไว้วางใจ นัก เหตุเพราะภัยอันตรายและความไม่ป กตินานาประการ ทหารจึงต้องสำนึกตระหนักถึงความ รับผิดชอบนี้ให้ดี และทำหน้าที่ของตนให้เข้มแข็งหน ักแน่นยิ่งขึ้น ซึ้งถ้าสามารถทำได้ครบถ้วน แท้จริง ก็จะเป็นความสำเร็จ เป็นความดี เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีของทหารไทย ประชาชนก็จะอยู่เป็นสุข บ้านเมืองก็จะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงอยู่ได้ในความมั่นคงสวัส ดี ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับทั้งอำนาจแห่งความภักดีที่มีต่อชาติบ้านเมือง จงบันดาลให้ทหารทุกคนประสบความสุขความเจริญ ความมีชัย ความสำเร็จ ในสิ่งที่พึงปรารถนาจงทั่วกัน” 
เพียรพิจารณาธรรมเข้าประกอบในการคิดแก้ปัญหาเหตุวิกฤตชาติ
๑. กฎธรรมชาติ อสังขตธรรมเป็นลักษณะทั่วไป อันเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง และสังขตธรรมเป็นลักษณะเฉพาะ อันมีความแตกต่างหลากหลาย
๒. ทุกข์ของมนุษยชาติ การวิปัสสนาภาวนา ทำให้รู้ว่ามนุษย์มีทุกข์ลักษณะเฉพาะ อันแตกต่างหลากหลาย เช่น ความเกิด ความแก่ชรา ความตาย ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ความพลัดพราก ฯลฯ ว่าโดยย่ออุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์ และมีทุกข์อันเป็นลักษณะทั่วไป หรือเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง คือ อวิชชา คือความไม่รู้ในอริยสัจ ๔, ตัณหา ความอยากได้ทั้งปวง, อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นเหตุใหญ่ แต่เมื่อกล่าวถึงที่สุดแล้ว เหตุแห่งทุกข์ มีเพียงประการเดียว คือ อวิชชา อันเป็นทุกข์ลักษณะทั่วไป ถ้าไม่แก้ไขตรงที่อวิชชา ด้วยการวิปัสสนาภาวนา ให้รู้แจ้งสังขารทั้งปวง จนเกิดวิชชาแล้ว ก็ไม่สามารถดับทุกข์ หรือพ้นทุกข์ เข้าถึงนิพพาน, บรมธรรมได้ 
ปัญหาของประเทศชาติ เมื่อคิดอย่างแยบคายในที่สุดย่อมเห็นปัญหามีอยู่ ๒ ลักษณะด้วยกัน คือ
(๑) ปัญหาที่เป็นลักษณะเฉพาะ (Individuality) หรือเป็นปัญหาอัตตวิสัย อันเป็นปัญหาเฉพาะที่, เฉพาะราย, เฉพาะบุคคล, หรือปัญหาส่วนตัว 
(๒) ปัญหาที่เป็นลักษณะทั่วไป (Generality) หรือเป็นปัญหาภาวะวิสัย อันเป็นปัญหาส่วนรวม อันเป็นปมเงื่อน หรือเหตุแห่งปัญหาทั้งปวง หรือศูนย์กลางแห่งปัญหาทั้งปวง คือ ระบอบการเมืองปัจจุบัน นั่นเอง 
ปัญหาลักษณะเฉพาะ อันเป็นทุกข์ด้านลักษณะเฉพาะ (Individual) อันแตกต่างหลากหลายของประเทศไทย ซึ่งเกิดจากระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา ได้แก่ 
๑. นักการเมืองด้อยคุณภาพ ขี้โกง ซื้อเสียง ซื้อตำแหน่ง ซื้ออำนาจ 
๒. ปัญหาคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบ ในทุกระดับของประเทศ 
๓. พรรคการเมืองซื้อเสียง 
๔. ปัญหา ๓ จังหวัดภาคใต้ 
๕. หนี้สาธารณะเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกปี 
๖. การกระชับการรวมศูนย์อำนาจ และการกระชับรวมศูนย์ทุน 
๗. นักธุรกิจการเมืองร่ำรวยอย่างมหาศาล ขนาดจะยึดประเทศเป็นของตนได้ 
๘. ประชาชนได้รับการกดขี่ ขูดรีด และ ได้รับความไม่เป็นธรรมเพิ่มขึ้น 
๙. ประชาชนถูกจับ ขังคุก จนไม่มีคุกที่จะขังแล้ว เพิ่มขึ้น 
๑๐. เด็กจรจัด เพิ่มขึ้น
๑๑. เยาวชนหญิง อายุไม่ถึง ๒๐ ปี ตกเป็นทาสกามารมณ์ และโสเภณีเด็ก, หญิงไทย เป็นโสเภณี กระฉ่อนโลก เพิ่มขึ้น 
๑๒. อิทธิพลอำนาจมืดครอบงำ มอมเมาจาก บ่อนพนัน ซ่อง หวยรัฐ หวยเถื่อน ยาบ้า ยาเสพติดทุกชนิดทั่วแผ่นดินมากขึ้นๆ 
๑๓. การปล้น จี้ ฆ่า ข่มขืน โรคเอดส์ กำลังเพิ่มขึ้นๆ 
๑๔. ประชาชนอ่อนแอ ไร้สมรรถภาพ สิ้นหวัง หมดกำลังใจเพิ่มขึ้น ชนในชาติป่วยทั้งทางจิตและกายเพิ่มขึ้นๆ 
๑๕. คุณธรรมของแพทย์ หดหายถอยลงไป เพิ่มขึ้น 
๑๖. ชาวนา เกษตรกร สิ้นที่ดินทำกินและเป็นหนี้ล้นพ้นตัว จนโงหัวไม่ขึ้นเพิ่มขึ้นๆ 
๑๗. ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ของชาติถูกทำลายย่อยยับเพิ่มขึ้นๆ 
๑๘. กรรมกร ลูกจ้าง ถูกเอารัดเอาเปรียบดุจทาส และว่างงานเพิ่มมากขึ้นๆ 
๑๙. ตำรวจที่ดี กลายเป็นผู้พิทักษ์ความเลวร้ายทั้งรีดและไถเพิ่มขึ้นๆ 
๒๐. รัฐบาลมัวแต่แก้ปัญหาปลายเหตุ ต้องจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ราชทัณฑ์ ผู้พิพากษา เพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ แต่ก็แก้ปัญญาอาชญากรรมให้ลดลงไม่ได้เลย 
๒๑. ข้าราชการดีๆ กลายเป็นผู้กดขี่ ขี้โกง คอร์รัปชั่นเพิ่มขึ้นๆ 
๒๒. นักวิชาการดีๆ กลายเป็นอาชญากรทางปัญญาเพิ่มขึ้นๆ 
๒๓. นักบริหารดีๆ กลายเป็นนักบริหารที่ล้มเหลวเพิ่มขึ้นๆ 
๒๔. อุตสาหกรรม ขนาดเล็ก ขนาดกลางและทุนชาติ ต้องเลิกกิจการเพิ่มขึ้นๆ 
๒๕. รัฐวิสาหกิจ ถูกแปรรูป ขายให้นายทุนต่างชาติ เพิ่มค่าบริการขูดรีดเพิ่มขึ้นๆ 
๒๖. ธนาคารไทย ถูกต่างชาติบีบให้ขายหุ้นมากกว่า ๕๐% มากขึ้นๆ 
๒๗. กองทัพที่ดี กลายเป็นกองทัพที่ไร้สมรรถภาพ เพิ่มขึ้นๆ 
๒๘. พระภิกษุอ่อนแอเพิ่มขึ้นๆ มิได้นำปัญญาคิดแก้ปัญหาเหตุวิกฤตชาติ เพิกเฉยต่อมิจฉาทิฏฐิและความเลวร้ายท่วมแผ่นดินอีกนานเท่าใด 
ประเทศไทย อันอุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่ประชาชนยากจน ล้าหลังเพิ่มขึ้นๆ ผู้ปกครอง นักวิชาการ สื่อมวลชนบางส่วน จะพิทักษ์รักษาระบอบการปกครองของชนส่วนน้อย ระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา อันเป็นต้นเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงภายในชาติไว้อีกนานเท่าใด 
ผู้ปกครอง มีมิจฉาทิฏฐิ ต่อระบอบการปกครองอีกยาวนานเท่าใด 
จิต, วิญญาณ ของปวงชนไทยได้ตกต่ำลงๆ สวนทางกับกฎเกณฑ์ “วิวัฒนาการของธรรมชาติ” ยาวนานอีกเท่าใด (เมื่อจิต, วิญญาณหรือภูมิธรรมของพ่อ แม่ ตกต่ำ ลูก ย่อมตกต่ำด้วย เหตุเพราะการทำมาหากินฝืดเคืองและสิ่งแวดล้อมเลวร้าย) 
ความฉลาดของคนในชาติได้ลดน้อยถอยลง พลังคุณธรรม ปัญญาความฉลาดและพลังสร้างสรรค์ต่างๆ ได้หดหายไปคืออันตรายอย่างร้ายแรงอย่างยิ่งของประเทศชาติและประชาชน ทั้งหมดนี้เป็นผลของระบอบเผด็จการระบบรัฐสภา ทั้งสิ้น
สมุทัย คือเหตุแห่งความเลวร้ายทั้งปวงในแผ่นดิน อันเป็นปัญหาลักษณะทั่วไป คือระบอบการปกครองปัจจุบันเป็นมิจฉาทิฏฐิสวนทางกระแสธรรม ได้ทำลายจิตสำนึกในความเป็นไทย ทำลายคุณค่าและคุณธรรมทั้งปวง ทั้งบุคคลและสถาบันต่างๆ ภายในชาติให้ตกต่ำ และทำให้ประเทศชาติต้องล้มเหลวอย่างย่อยยับในหลายๆ ด้าน ”เพราะได้ละเลยต่อหลักธรรมการปกครองและการจัดความสัมพันธ์ในองค์รวมทั้งหมดไม่ถูกต้อง ไร้กฎเกณฑ์แห่งธรรม อย่างสิ้นเชิง” 
จากลักษณะดังกล่าวคุณธรรมของบุคคล และสถาบันหลักของชาติ แม้จะสูงส่งเพียงใด ก็มิอาจจะต้านทานระบอบการเมืองที่เลวร้ายนี้ได้ 
นิโรธ คือความดับทุกข์ การจะดับทุกข์ของแผ่นดินได้ก็ด้วยประเทศไทยมีการปกครองระบอบที่เป็นธรรม หรือธรรมาธิปไตย คือหลักการปกครองทั้ง ๙ ที่ได้ประยุกต์มาจากสภาวธรรมอันเป็นกฎธรรมชาติเข้ากับลักษณะพิเศษของประเทศไทย เสนอโดยสถาบันพระศาสนา มนุษยชาติต่างก็มีศาสนา ต้องถือสิ่งสูงสุดในศาสนาของตนๆ นำมาเป็นหลักการเรียกว่า “ธรรมาธิปไตย” สภาวะธรรมาธิปไตยมีอยู่ในทุกศาสนา และเป็นความบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในใจของมนุษยชาติทุกคน อาจจะต่างกันที่สมมติบัญญัติ ตามแต่ภาษาของตนๆ 
เท่านั้น สมดัง อุทานธรรมที่ว่า “ภูเขายังตั้ง ตะวันยังฉาย ธรรมาธิปไตยไม่สลายจากใจมนุษยชาติ” อันนี้พิสูจน์ได้เลย จะเห็นว่า ความกลัว โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ เกิดแล้วสลาย
ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งชาติ มาแต่โบราณกาล ก็ควรจะมีหลักพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งชาติ เป็นหลักการปกครอง 
เรามีประชาชน เราก็ต้องมีหลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน เป็นหลักการปกครอง และเป็นความสัมพันธ์ของปวงชนทางการเมือง นอกจากหลักธรรมาธิปไตย, หลักพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งชาติ, หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชนแล้ว ยังจะต้องมีหลักการพื้นฐานได้แก่ หลักเสรีภาพบริบูรณ์ หลักความเสมอภาคทางโอกาส หลักภราดรภาพ หลักเอกภาพ หลักดุลยภาพ หลักนิติธรรม รวมแล้ว ๙ หลัก นี้คือยุทธศาสตร์ทั่วไปของชาติ ที่เป็นทั้งจุดหมายหรือศูนย์กลางทางการเมืองและมรรควิธีในทางการเมืองการปกครองอย่างแท้จริง
มรรค คือหนทางปฏิบัติเพื่อให้บรรลุระบอบการเมืองธรรมาธิปไตย ๙ ได้ให้ความเป็นธรรมต่อปวงชนอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการกลับมาสู่ความถูกต้องดังเดิม อันสถาบันพระศาสนา ร่วมมือกับสถาบันพระมหากษัตริย์ (กองทัพ) ทั้งผู้นำประชาชนโดยธรรม ร่วมกันแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ 
ขอให้ประชาชนผู้เชิดชูธรรม ถือธรรมเป็นธงชัยทั่วแผ่นดิน แสดงความจงรักภักดีและด้วยความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ ควรออกมาแสดงประชามติ ขอพระราชทานระบอบการปกครองแบบธรรมาธิปไตย อันเป็นทางเอกทางเดียวอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพระเกียรติยศ และเกียรติศักดิ์อันสูงสุด ที่จะแก้เหตุวิกฤตชาติให้ผ่านพ้นไปได้ คือองค์พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม ตามพระราชปณิธานในพระปฐมบรมราชโองการของพระองค์ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” 
ผู้รู้ ผู้มีดวงตาเห็นธรรมทั้งหลายต่างยอมรับว่า ธรรมย่อมไม่ทำร้ายใคร มีแต่จะโอบอุ้มชุบชีวิตให้มีความก้าวหน้าร่วมกันอย่างเป็นสุข ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม ทั้งจะทำให้เกิดความรู้รักสามัคคีในแผ่นดิน ด้วยหลักธรรมาธิปไตยเท่านั้น ดังกล่าวนี้ สื่อมวลชนทั้งหลายจะได้เจริญรอยตามพระยุคลบาท รวมมือถ่ายทอดแนวทางธรรม อันเป็นประโยชน์อันยิ่งต่อประเทศชาติและปวงชนอย่างสูงสุด อย่าให้เนิ่นช้าอยู่เลย อาจจะสายเกินแก้ 
ทั้งนี้เมื่อทรงสถาปนาระบอบธรรมาธิปไตยแล้ว จะเป็นปัจจัยได้ประชาธิปไตยอย่างเป็นไปเองและสมบูรณ์ที่สุดด้วย
“ธรรมาธิปไตย
จะเป็นปัจจัยให้ชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ สูงส่งมั่นคงยั่งยืนสืบไป"
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
28 พ.ค.2557
คัดลอกจากบทความของ ดร.ป.เพชรอริยะ จากหนังสือธรรมาธิปไตย 9
แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2014 เวลา 11:13 น.  
Home > Articles > สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ > ธรรมาธิปไตย อารยธรรมใหม่ของแผ่นดิน ขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ (๔)

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5606
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8602527

facebook

Twitter


บทความเก่า