Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ชักชวนร่วมกันเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

พิมพ์ PDF
หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง เราก็แน่ใจได้เลยว่า เขาจะตะแบง เพราะจะเป็นรัฐบาลทักษิณที่มีนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดแบบรัฐบาลรักษาการนี้ ซึ่งเป็นปฐมบทของการตะแบง ที่ผ่านมา การเมืองไทยค่อยๆ ก้าวเข้าสู่การขัดแย้งใหญ่ ก็เพราะการตะแบงนี่แหละ

ชักชวนร่วมกันเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

ตอนนี้มี ๒ แนวทางใหญ่ๆ ของการคลี่คลายวิกฤติการเมืองไทย     แนวทางแรก คือ เลือกตั้งก่อน ปฏิรูปประเทศทีหลัง  โดยทุกฝ่ายตกลงกันว่า หลังเลือกตั้งแล้ว ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล จะร่วมกับอีกหลายฝ่าย ดำเนินการปฏิรูปประเทศ   เพื่อ (๑) วางระบบป้องกันและกวาดล้างคอรัปชั่น    (๒) ให้เกิดระบบสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นผู้แทนประชาชนหลากหลายอาชีพ หลากหลายวิถีชีวิต   (๓) ให้มีระบบองค์กรตรวจสอบ ที่ตรวจสอบได้อย่างแท้จริง   (๔) มีการเปิดเผยข้อมูลการบริหารประเทศแก่ประชาชน อย่างโปร่งใส  (๕) อื่นๆ    รัฐบาลรักษาการพยายามผลักดันแนวทางนี้

แนวทางที่สอง ปฏิรูปก่อน เลือกตั้งทีหลัง    ซึ่งหมายความว่า ปฏิรูปกฎเกณฑ์หลักๆ ให้เป็นที่ตกลงกันในทุกฝ่ายก่อน     แล้วจึงเลือกตั้ง    แล้วฝ่ายที่ชนะเลือกตั้งก็ดำเนินการปฏิรูปประเทศต่อไปตามแนวทางที่ตกลงกันไว้

ผมเลือกข้าง ขอชักชวนให้คนไทยช่วยกันเรียกร้องแนวทางที่สอง     ด้วยเหตุผลว่า ตอนเลือกตั้ง ประชาชนจะรู้แล้วว่า ตนจะต้องเลือกพรรคที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองเพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศ (รวมทั้งปฏิรูปการเมือง) ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ได้ดีที่สุด

เพราะหากไม่ตกลงประเด็นของการปฏิรูปไว้ให้ชัดเจนก่อน   พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งอาจตะแบง   อ้างว่าตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน   ตนจะดำเนินการบริหารประเทศอย่างไรก็ได้   แล้วการเมืองก็จะวนกลับไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่อีก

และหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง เราก็แน่ใจได้เลยว่า เขาจะตะแบง    เพราะจะเป็นรัฐบาลทักษิณที่มีนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดแบบรัฐบาลรักษาการนี้   ซึ่งเป็นปฐมบทของการตะแบง   ที่ผ่านมา การเมืองไทยค่อยๆ ก้าวเข้าสู่การขัดแย้งใหญ่ ก็เพราะการตะแบงนี่แหละ

เป็นการตะแบงเพื่อการรวบอำนาจสู่คนคนเดียว   ซึ่งนำไปสู่ความชั่วร้ายต่างๆ ตามมา

เพราะ “Absolute power corrupts absolutely”

วิจารณ์ พานิช

๑๖ ธ.ค. ๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2013 เวลา 09:13 น.
 

ปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง - แถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุข

พิมพ์ PDF
ต้องมีการจัดตั้งองค์กรเพื่อการปฏิรูปการเมืองและประเทศไทยก่อนการเลือกตั้งโดยต้องมีกฎหมายรองรับ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบสำนักนายกฯ หรือพระราชกำหนดก็ตาม ซึ่งผลลัพธ์จากข้อสรุปในเรื่องของการปฏิรูป จะต้องผูกมัดกระบวนการนิติบัญญัติและกระบวนการบริหารในอนาคต ภายใต้การลงนามสัตยาบันของพรรคการเมืองทุกพรรคว่าหลังจากได้มีการปฏิรูปชัดเจนแล้วให้มีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งในกฎกติกาใหม่ดังที่มีการปฏิรูป

ปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง - แถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุข

อ่านได้ ที่นี่

วิจารณ์ พานิช

๑๕ ธ.ค. ๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2013 เวลา 21:16 น.
 

รัฐบาลรักษาการลาออกได้ ความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์

พิมพ์ PDF
ที่มีคนบอกว่าในระหว่างรักษาการนั้นลาออกไม่ได้น่ะ น่าจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง การลาออกเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าไม่อยากอยู่ในตำแหน่งอะไร ก็ไม่มีใครบังคับให้ต้องอยู่ต่อไปได้ ขนาดคนเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็ก ๆ น้อย ๆ วันดีคืนดีไม่อยากเป็นข้าราชการต่อไปจะลาออกเสียเมื่อไรก็ได้ อย่างมากที่ทางราชการจะทำได้ ก็คือการยับยั้ง ซึ่งก็ทำได้เพียงชั่วคราวไม่เกินสามเดือน หลังจากนั้นก็ต้องยอมให้เขาออกไป แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่มีกฎหมายอะไรบังคับไว้ว่าใครจะยับยั้งได้

รัฐบาลรักษาการลาออกได้ ความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์

อ่านได้ ที่นี่

วิจารณ์ พานิช

๑๓ ธ.ค. ๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2013 เวลา 22:04 น.
 

เรียกร้องให้ยิ่งลักษณ์และพวกลาออกจาก ครม. รักษาการ

พิมพ์ PDF
การเมืองในปัจจุบันเป็นระบอบประชาธิปไตยแค่ชื่อ แต่แท้จริงคือระบอบเผด็จการพรรคการเมืองผ่านกลไกฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ ที่ใช้การเลือกตั้งในการเข้าสู่การรวมศูนย์อำนาจ และใช้อำนาจเพื่อพวกพ้องเป็นสำคัญ ใช้อำนาจในการคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ใช้อำนาจในการแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตน ซึ่งแม้รูปแบบจะเป็นประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นเพียงรูปแบบเปลือกนอก แต่เนื้อแท้นั้นกลับเป็นเผด็จการพวกพ้อง หาได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยด้วย

เรียกร้องให้ยิ่งลักษณ์และพวกลาออกจาก ครม. รักษาการ

อ่านได้ ที่นี่

วิจารณ์ พานิช

๑๒ ธ.ค. ๕๖

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 17 ธันวาคม 2013 เวลา 22:28 น.
 

จดหมายเปิดผนึกถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ และประชาชน (ฉบับที่ 5)

พิมพ์ PDF

ตามที่ท่านได้ตัดสินใจยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกล่าวอ้างว่าเป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2กุมภาพันธ์ 2557 นั้น ได้เกิดข้อถกเถียงรอบใหม่ในสังคมไทยอย่างกว้างขวางเป็น 2แนวทางว่า จะเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปประเทศไทย หรือเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทยก่อนเลือกตั้ง

แนวทางแรกเป็นของรัฐบาลที่เดินตามพระราชกฤษฎีกาการยุบสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 108(2)ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60วัน ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งในระบอบรัฐธรรมนูญที่ปฏิบัติในสภาวการณ์ปกติ แต่ในสภาพการณ์ทางการเมืองที่คุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ การดำเนินตามแนวทางของรัฐบาลนอกจากจะไม่แก้ปัญหาแล้ว ยังจะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเมืองรอบใหม่

แนวทางที่2 ที่เป็นเจตจำนงของมวลมหาประชาชนผ่าน กปปส. คือขอคืนอำนาจประชาธิปไตยทางตรงให้กับประชาชนเพื่อดำเนินการปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่ก่อนการเข้าสู่การเลือกตั้งตัวแทนตามปกติ โดยมีเหตุผลที่ว่า การคืนอำนาจให้ประชาชนเพื่อไปกาบัตรเลือกตั้งเพียง 4 นาทีแต่สูญเสียอำนาจไปตลอด 4ปี ซึ่งประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเกิดฝันร้ายทางการเมืองซ้ำซากอีกหรือไม่

แม้รัฐบาลจะกล่าวหาว่า การเรียกร้องของกปปส. ที่จะไม่เอาการเลือกตั้งในวันที่ 2กุมภาพันธ์เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย แต่ก็มีข้อโต้แย้งอย่างหนักแน่นว่าการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป สามารถกระทำได้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนหนึ่งของปวงชนชาวไทยที่ออกมาแสดงตน ในนามมวลมหาประชาชนในวันที่ 24พฤศจิกายน และวันที่ 9 ธันวาคม 2556 มีเจตจำนงอันแน่วแน่ในการใช้อำนาจทางตรงในการพัฒนา และสร้างเสถียรภาพให้กับระบอบประชาธิปไตย ควบคู่ไปกับการปฏิรูปครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างสองนครา ที่เป็นภาคสังคมเมืองและสังคมชนบท อันเป็นต้นเหตุความขัดแย้งแบ่งขั้วทางการเมืองมาหลายทศวรรษจนกระทั่งปรากฎชัดในปัจจุบัน

ในทางกลับกันประชาชนเห็นว่าการที่รัฐบาลเร่งรัดการเข้าสู่การเลือกตั้งตามการตีความอย่างแคบในรัฐธรรมนูญ เป็นเพียงกลอุบายในการคืนอำนาจทางการเมืองให้กับผู้แทนซึ่งพิสูจน์มาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสร้างความล้มเหลวให้กับระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด เป็นวงจรสลับกันไปมาระหว่างการคอรัปชันของนักการเมือง และการรัฐประหาร

ประชาชนจึงมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับระบอบประชาธิปไตยควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ

ปัญหาใจกลางที่ทำให้ประชาชนจำนวนมหาศาลลุกขึ้นมาทวงอำนาจทางตรงคือความไม่พอใจสิ่งที่เรียกว่า " ระบอบทักษิณ " ซึ่งหมายถึงการผูกขาดกินรวบประเทศไทยโดยใช้การคอรัปชันเชิงระบบผ่านนโยบายประชานิยมที่สร้างฐานการตลาดทางการเมืองของตน โดยไม่คำนึงถึงการพังทะลายของระบบเศรษฐกิจและความล้มเหลวทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย

ดังนั้นความขัดแย้งทางการเมืองอันใหญ่โตมโหฬารที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จึงไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองใหญ่ 2พรรค แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งของประชาชน กับ ระบบคอรัปชันที่ฝังรากลึกอยู่ในสังคมการเมืองไทย และถูกขยายให้ใหญ่โตขึ้นด้วยการเมืองเครือญาติของ "ระบอบทักษิณ"

แนวทางของรัฐบาลที่จะให้มีการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปจะไม่ได้รับการตอบสนองจากประชาชน หากตัวแทนของ "ระบอบทักษิณ" ยังคงอยู่ทั้งเบื้องหน้า ( เครือญาติของตระกูลชินวัตร) และเบื้องหลัง (พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร )

เหตุผลที่ประชาชนไม่ไว้วางใจให้รัฐบาลรักษาการของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในการจัดการเลือกตั้ง และเป็นเจ้าภาพจัดเวทีปฏิรูปประเทศไทย คือ

1) พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้ความเคารพต่อระบบตุลาการของไทย เห็นได้จากการหนีคดีที่ตัดสินโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และความพยายามที่จะผลักดันให้มีกฎหมายนิรโทษกรรมคดีของตนเอง (ทั้งที่ตัดสินเป็นที่สุดแล้ว และที่อยู่ในระหว่างการพักคดีเพราะ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตรหนีคดี) พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่วิสัยของนักการเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐบุรุษ และวีรสตรีอย่าง รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์, ประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา, และ ท่านอองซาน ซูจี ที่พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร มักยกตนเทียบชั้นกับปูชนียบุคคลทางการเมืองเหล่านี้

2) พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ไม่ทำตามสัญญาประชาคมในนโยบายสำคัญที่เคยหาเสียง เช่น เคยสัญญาว่าถ้าได้เป็นรัฐบาล จะฉีกกฎหมายขายชาติ11ฉบับอันเป็นกฎหมายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาล ก็เตรียมการแปรรูป "ปตท" ทันทีภายใน3เดือนแรกที่เข้ามาเป็นรัฐบาล และขายหุ้นปตท หมดภายใน 1นาที 17 วินาที และมีความพยายามจะแปรรูป กฟผ.ต่อไปอีก ทั้งที่เคยทำสัญญา 3ฝ่าย (รัฐบาล , บอร์ดกฟผ.และ สหภาพแรงงานกฟผ.) ว่าจะไม่แปรรูกฟผ.อย่างเด็ดขาด
โชคดีที่ประชาชนนำคดีฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุด และศาลสั่งเพิกถอนการแปรรูป และเดชะบุญที่รัฐบาลทักษิณหมดอำนาจไปก่อน

3) รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เช่นกันที่ หาเสียงว่าถ้าได้เป็นรัฐบาล จะกระชากค่าครองชีพลงมา และยกเลิกกองทุนน้ำมันเพื่อให้น้ำมันมีราคาถูก เพราะเป็นต้นทุนของสินค้าทุกอย่าง แต่เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็มีการชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอยู่ไม่เกิน3เดือน จากนั้นก็มีการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้น และขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นอีก เป็นเหตุให้ข้าวของแพงและค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนถ้วนหน้า โดยเฉพาะพี่น้องคนยากจนยิ่งเดือดร้อนหนักที่สุด

4) รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหาเสียงว่าจะสร้างความปรองดอง แก้ไขไม่แก้แค้น คืนความสุขให้ประชาชน แต่เมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลก็มุ่งเน้นการทำเพื่อประโยชน์ของครอบครัวตัวเองเป็นหลัก ด้วยการผ่านกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอยในสภาผู้แทนราษฎรในยามวิกาล ซึ่งเป็นการนิรโทษกรรมความผิดทั้งปวงของพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่มกราคม 2547 - 8สิงหาคม 2556 นอกจากการนิรโทษกรรมความผิดทั้งปวงของ พ.ต.ท ทักษิณแล้ว ยังจะได้เงินที่ถูกยึดจำนวน 46,000 ล้านบาทคืนพร้อมดอกเบี้ย 7.50% ต่อปี

ประชาชนได้ให้โอกาสรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรมาเป็นเวลากว่า 2ปีในการบริหารบ้านเมืองและอดทนต่อการดำเนินนโยบายประชานิยมที่มีการทุจริตอย่างมโหฬาร และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศจนแทบย่อยยับ และฟางเส้นสุดท้ายของความอดทนของมวลมหาประชาชนก็คือ กฎหมายนิรโทษกรรมฉบับสุดซอยที่ขัดทั้งหลักนิติรัฐ และนิติธรรม ตลอดจนศีลธรรมอันดีของประชาชน

5) ประชาชนไม่ไว้ใจแนวทางการปฏิรูปของรัฐบาลภายใต้ " ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ " ดังจะเห็นได้จากแนวทางการปฏิรูปที่พรรครัฐบาลได้ดำเนินการมาแล้ว กล่าวคือ การปฏิรูปรัฐธรรมนูญ รัฐบาลอ้างว่ารัฐธรรมนูญ 2550 เป็นรัฐธรรมนูญของคมช.ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่แนวทางการแก้ไขจริงกลับเป็นการเพิ่มอำนาจเบ็ดเสร็จให้นักการเมือง บั่นทอนอำนาจการตรวจสอบของประชาชน องค์กรศาล และองค์กรอิสระ รวมทั้งองค์กรวุฒิสภา เห็นได้จากการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว เป็นไปเพื่อควบรวมอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติให้อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายบริหารอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นอกจากนี้ การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ที่จะยกเลิกและแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 67 มาตรา 68 และ มาตรา 190 อันเป็นการสะท้อนทัศนะการรวมศูนย์อำนาจ ลดทอนสิทธิเสรีภาพและอำนาจการตรวจสอบของประชาชน ซึ่งสวนทางกับแนวคิดการกระจายอำนาจในระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ การปฏิรูปประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ หมายถึงการแปรรูปสาธารณสมบัติของประชาชนให้เป็นสมบัติของกลุ่มธุรกิจการเมืองแบบผูกขาด

6)การปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของส.ว ทำให้ประชาชนหมดความไว้วางใจในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์
ถึงขั้นไม่ยอมให้ทำหน้าที่รักษาการเพื่อจัดการเลือกตั้ง หรือเป็นเจ้าภาพจัดเวทีปฏิรูป

เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การเผชิญหน้าดังกล่าว ขอเสนอทางออกจากความรุนแรงดังนี้

1) เรียกร้องจิตสำนึกเสรีของพ.ต.ท ทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในการตัดสินใจถอยออกจากการเข้ามามีอำนาจทางการเมืองของประเทศไทย ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ซึ่งเป็นโอกาสที่จะมีการเจรจาทุกฝ่ายเพื่อให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2กุมภาพันธ์ 2557 อย่างเรียบร้อยและไม่เกิดเหตุรุนแรง

2) ปฏิรูประบบพรรคการเมืองไทยให้เป็นพรรคของมหาชนอย่างแท้จริง ไม่เป็นพรรคของตระกูลหรือกลุ่มเครือญาติของนักการเมืองอีกต่อไป รวมทั้งต้องไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของนายทุนที่สนับสนุนพรรค เพื่อให้ประชาชนมีความศรัทธาต่อระบบการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย

3) ถึงเวลาที่พรรคการเมืองต้องดำเนินนโยบายหาเสียงโดยใช้แนวทางการปฏิรูปด้านต่างๆที่ประชาชนเรียกร้องต้องการ ซึ่งไปพ้นจากนโยบายประชานิยมแบบลดแลกแจกแถม และการซื้อเสียงเข้าสู่ระบบการเมือง

4) กปปส. ต้องไม่ผูกขาดอำนาจทางการเมืองในองค์กรที่เรียกว่า " สภาประชาชน " และ " สมัชชาปฏิรูปของมวลมหาประชาชน " และต้องเปิดโอกาสให้มวลชนทุกภาคส่วน ทุกค่ายความคิดเข้ามามีส่วนร่วมจนเกิดฉันทมติในการปฏิรูปร่วมกัน แกนนำของกปปส.รวมทั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบันควรพิจารณาตัวเองเว้นวรรคตำแหน่งทางการเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เพื่อไม่ถูกครหาว่าการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภาเพื่อมุ่งหวังความได้เปรียบทางการเมืองในระบบ

5) หลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองทุกพรรคควรถือเป็นวาระแห่งชาติในการปฏิรูปประเทศโดยเสนอพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง " สมัชชาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย" เพื่อนำเสนอการปฏิรูปเชิงประเด็น ระดับพื้นที่ และระดับประเทศที่ต้องนำไปสู่การนำเสนอกฎหมายใหม่เพื่อบังคับใช้ให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรมในระดับที่น่าพอใจ

ข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นจริงได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจอิสระในการตัดสินใจของพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ

ขอฝากคำสั่งเสียของท่านประเสริฐ นาสกุล อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญที่เคยกล่าวไว้ว่า

" ปัญหาของบ้านเมืองบางอย่าง อาจแก้ไขได้โดยไม่ต้องใช้เงินทองเลย เพียงแต่ผู้นำของประเทศต้องประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี โดยการ คิด พูด และทำตรงกัน และชี้นำประชาชนในชาติว่า ปัญหาของชาตินั้นอยู่ที่ทุกคนจะต้องร่วมใจกันแก้ไข ด้วยการลด ละ และเลิก "ความเห็นแก่ตัว" เป็นอันดับแรก ยิ่งทำได้มากและรวดเร็วเท่าใด จะสามารถนำพาชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤติสู่ความเป็นปกติรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น หากไม่แก้ไขความเห็นแก่ตัวก่อนแล้ว เห็นว่าหมดหวัง เพราะไม่มีทางอื่นใดที่จะแก้ไขปัญหาของชาติในเวลานี้ได้ "

อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกคนในฐานะประชาชนมีความฝันร่วมกันว่า จะต้องทำการเมืองไทย และทำสังคมไทยให้ดีกว่าวันนี้ให้จงได้

ด้วยจิตคารวะ
รสนา โตสิตระกูล
สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพฯ
14 ธันวาคม 2556

แก้ไขล่าสุด ใน วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2013 เวลา 21:24 น.
 


หน้า 414 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5608
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8621270

facebook

Twitter


บทความเก่า