Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

Strategy Roadmap ด้านแรงงานกับการพัฒนาศักยภาพ

พิมพ์ PDF

ผมมีโอกาสเข้าร่วมสัมมนาเรื่อง "แรงงานกับการพัฒนาศักยภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศไทยเพื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา จัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน

เปิดงานและกล่าวปาฐกถาเรื่อง " วิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ของแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยในมุมมองของข้าพเจ้า" โดยท่านอนุสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ผมพอใจการกล่าวปาฐกถาของท่านและคิดว่าท่านเข้าใจและเห็นความสำคัญในการพัฒนาแรงงานของประเทศ ผมเข้าใจว่าท่านพยายามสื่อสารถึงผู้ประกอบให้เห็นความสำคัญของแรงงาน ต้องให้ความเป็นธรรมกับแรงงาน สร้างความมั่นคงและพัฒนาคุณภาพของแรงงานให้สูงขึ้น ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมและสร้างแรงจูงใจให้แรงงานมีความสุขในการทำงาน

หลังจากนั้นเป็นเวทีเสวนาเรื่อง "Strategy Roadmap ด้านแรงงานกับการพัฒนาศักยภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศไทยเพื่อก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" ประกอบด้วยวิทยากรดังนี้

1.ศ.ดร.จีระ หงส์ลด่รมภ์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ "เลิกพูดเรื่องอะไรคือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้แล้ว เราต้องมาช่วยกันคิดว่าจะปรับตัวอย่างไรเพื่อทำให้ ประชาคมอาเซียนสร้างโอกาสให้กับเรา ประเด็นคือขณะนี้คนของเราไม่พร้อม ขาดคนคุณภาพ และขาดปัญญา การแข่งขันของประเทศไม่ใช่อยู่ที่การมีแรงงานราคาถูกเพื่อดึงนักธุรกิจต่างชาติให้มาลงทุนในประเทศ เราต้องพัฒนาคนของเราในอนาคตให้มีความรู้ ใฝ่รู้ คิดเป็น วิเคราะห์เป็น ความรู้เรื่องภาษาที่ สอง และภาษาที่สามเพื่อการสื่อสารกับต่างชาติ ต้องยอมรับความจริง ว่าเราเน่า แต่ต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดพลังที่จะต่อสู้"

"กระทรวงแรงงาน มีนโยบายสับสนไม่ชัดเจน" เสนอให้มีการทำวิจัยในการเตรียมแผนของกระทรวงแรงงานให้หันมาปรับทุนมนุษย์จาก ทักษะ ให้เป็นความรู้ ให้คนรู้จักคิด ทำให้แรงงานที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปมีความคิดไม่ถูกไล่ออกจากงาน"

ต้องพัฒนาความรู้ให้กับแรงงานไม่ใช่แค่ทักษะ  ยกระดับแรงงานไทยให้ขึ้นสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์

2.ดร.สมชัย ไทยสงวนวรกุล รองประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เปิดประเด็นว่า "การฝึกอบรมของหน่วยงานราชการ คือการใช้งบประมาณให้หมด"

ธุรกิจที่แรงงานวิ่งเข้าไปหาคือธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลาง ส่วนธุรกิจขนาดเล็กไม่มีแรงงานวิ่งเข้าหา

พัฒนาคนจะพัฒนาแค่ทักษะไม่ได้ ต้องรอบรู้แบบมัลติฟังชั่น มีทั้งทักษะ ความรู้และทัศนคติสร้างพนักงานให้เป็นเถ้าแก่น้อยๆให้บริษัท

ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางในประเทศไทยส่วนมากเป็นการลงทุนจากต่างชาติจากตลาดหลักทรัพย์ การลงทุนของคนไทยส่วนมากเป็นขนาดเล็กต่ำกว่า 20 ล้าน

ทุนบริษัทเล็กๆมาจากตลาดเงิน ระดมทุนจากทรัพย์สินของตัวเองและครอบครัว และเงินนอกระบบ ไม่สามารระดมทุนจากกองทุนได้ เพราะนักลงทุนไม่เชื่อถือ แต่บริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถระดมทุนได้จากกองทุนและตลาดหลักทรัพย์

3.คุณพนัส ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย

ฟังแล้วแรงงานไทยไม่มีอนาคตอยู่แบบเป็นหนี้จนตาย ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะต้องคอยทำโอทีเพื่อมีรายได้ให้พอใช้หนี้ในแต่ละเดือนหมดโอกาสในการเรียนรู้และเพิ่มคุณค่าของตัวเอง

4.ตัวแทนจากกรมสวัดิการและคุ้มครองแรงงาน (จำชื่อไม่ได้) อ่านตำราให้ฟัง ผมเลยไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก

ผู้ดำเนินการเสวนา ได้แก่ รศ.วิทยา ด่านธำรงกูล ไม่มีจุดเด่นอะไรพิเศษ

 

ผมฟังเสวนาจากวิทยากรและการสรุปจากท่านผู้ดำเนินการเสวนาในรอบแรกแล้วยังไม่ได้คำตอบในหัวข้อการเสวนา จึงรีบยกมือเพื่อชี้ประเด็นเพื่อให้เกิดประโยชน์กับการเสวนามากที่สุด พยายามชี้ให้เห็นว่าต้องแบ่งกลุ่มแรงงานให้ชัดเจน เพราะที่พูดๆกันมีอยู่กลุ่มเดียวคือกลุ่มคนที่ใช้แรงงานขั้นต่ำ ใช้แค่ทักษะ กลุ่มคนที่ไปรองรับภาคอุตสาหกรรม ก่อสร้างและการผลิต แรงงานที่ใช้สมอง ความคิดและความสามารถในการให้บริการไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนัก หรือไม่เคยกล่าวถึงเลย แรงงานแต่ละกลุ่มมีศักยภาพและการบริหารจัดการที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะต้องกำหนดกลุ่มแรงงานให้ชัดเจน จึงจะสามารถพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพในการแข่งขันได้

เสียดายที่ผู้ดำเนินการเสวนาไม่เข้าใจประเด็นที่ผมยกมาและไม่ได้ให้ความสำคัญ ส่วนท่านวิทยากร มีเพียงท่าน ศ.ดร.จีระ ที่ให้ความสำคัญ และเห็นด้วยกับประเด็นที่ผมนำเสนอ วิทยากรท่านอื่นๆไม่ได้กล่าวถึง

ผมไม่ได้หวังผลในประเด็นที่ผมนำเสนอว่าจะได้คำตอบอย่างไรในช่วงเช้า เพียงยกประเด็นไว้เผื่อท่านวิทยากรและท่านผู้เข้าร่วมสัมมนาและผู้จัดจะนำไปต่อยอดในการทำ workshop ในช่วงบ่าย ซึ่งผมไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากติดประชุมอีกแห่งหนึ่ง

 

วัย 77 ปี ของไกรสร จันศิริ

พิมพ์ PDF

แม้ว่าวัยของไกรสร จันศิริ จะ 77 ปีแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังสนุกกับการทำงานร่วมกับธีรพงศ์ ผู้บริหารรุ่น 2 ทำให้ทุกวันนี้ เขายังทำงานอยู่

ไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ หรือทียูเอฟ แม้วัยจะล่วงเลย 77 ปี แต่ความจำและสุขภาพของเขายังแข็งแรง ทำให้เขายังร่วมทำงานกับธีรพงศ์ จันศิริ วัย 47 ปี ทายาทคนโต และมีความสุขกับการได้เห็นความ สำเร็จขององค์กรที่สามารถไปยืนอยู่ในตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิ จนทำให้เขาได้รับรางวัลบุคคลแห่งปี 2554 จากมูลนิธิสัมมาชีพ

ชีวิตของไกรสรผู้ก่อตั้งทียูเอฟผ่านความยากลำบาก มีทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตา เริ่มจากเป็นเด็กชงน้ำชา หุงข้าว ส่งหนังสือ พิมพ์ และพนักงานขายผ้าในสำเพ็ง แต่ด้วยความขยันขันแข็งทำให้เขาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวเริ่มมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ก่อตั้งบริษัท มีโรงงานรับจ้างผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง

ธุรกิจเริ่มต้นจากพนักงาน 150 คน ปัจจุบันมี 30,000 คน รายได้จาก 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันมากกว่า 3,000 ล้านเหรียญดอลลาร์ และมีบริษัทในเครือร่วม 24 แห่งทั่วโลก

ตลอดชีวิตการทำงานของไกรสรมีหลักปรัชญาการทำงาน ที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ 6 ข้อด้วยกัน คือ 1. สร้างธุรกิจด้วยความขยัน ประหยัด 2. รักษาความน่าเชื่อถือ (เครดิต) และความ น่าเชื่อถือไม่ได้หมายถึง เงินเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึง เวลา” 3. ทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับทั้งสองฝ่าย โดยไม่เอาเปรียบ เพราะเชื่อว่ามิตรภาพต้องมาเป็นที่ 1    4. ใฝ่หา ความรู้ไม่หยุดยั้ง ความรู้กว้างใหญ่มหาศาล 5. สำนึกบุญคุณ รู้จักตอบแทนบุญคุณ เหมือนได้น้ำเพียงหยดเดียว แต่ให้ตอบแทน เหมือนน้ำพุ 6. คืนประโยชน์ให้สังคม ด้านการศึกษา กีฬา และผู้ป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บ

ปรัชญาทั้ง 6 ข้อจะทำให้ชีวิตมีความสุข จิตใจผ่องใสจะมี sense ที่ดี นำพาชีวิตให้มีความสุข” 

ปรัชญาที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดทำให้ไกรสรเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งส่งผลให้ธุรกิจอยู่รอดปลอดภัยมาตราบทุกวันนี้

บทบาทของไกรสรหากอยู่ที่บ้านเป็นพ่อของลูก และปู่ของ หลานๆ แต่ในสถานที่ทำงานเขาบอกว่าพ่อกับลูกคือเพื่อนร่วมงาน โดยเขามีหน้าที่ร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูง ให้คำปรึกษาชี้แนะ แต่ไม่ใช่การสอนและไม่ได้บอกให้ทำตาม แต่หากเป็นการประชุมระดับผู้บริหารฝ่ายการตลาด จะต้องมีรายงานให้ไกรสร รับรู้ทุกครั้ง

แต่หากในฐานะพ่อที่ต้องสอนลูกและหลานๆ เขามักจะสอนเสมอว่า ทุกเรื่องต้องมีใจสำนึกถึงความเสี่ยงโดยเฉพาะการบริหารความเสี่ยงจะต้องไม่ใช้คำว่า เปอร์เซ็นต์แม้ว่าจะเสี่ยงเพียง .001 เปอร์เซ็นต์ก็สามารถทำให้ธุรกิจเสี่ยงได้ 100 เปอร์เซ็นต์

คำสอนของไกรสรเกี่ยวกับบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมองค์กรของ บมจ.ทียูเอฟจะต้องบริหารงานอย่างระมัดระวัง และไม่นำพาธุรกิจออกไปนอกลู่นอกทาง

นอกจากนั้นไกรสรยังได้ฝึกให้ลูกหลานเป็นเถ้าแก่ โดยไม่ให้ไปทำงานกับคนอื่น แต่สอนให้พยายามสร้างกิจการของตัวเอง

แม้วิธีการสอนของไกรสรที่จะปั้นให้ลูกหลานพัฒนาไปสู่ความเป็นเถ้าแก่ แต่เขาก็ฝึกฝนให้เห็นวิธีการทำงานขององค์กรทั้งหมด เหมือนดังเช่นธีรพงศ์ถูกให้เริ่มต้นทำงานแรงงานตั้งแต่ แกะกุ้ง แกะปลา กิน-นอนในโรงงาน นั่งรถเมล์ไปทำงาน เพราะไกรสรมองว่าหากจะให้ลูกเป็นใหญ่ จะเป็นเมื่อไหร่ก็ได้

ปรัชญาในการทำงานและวิธีการสอนลูกหลานของไกรสร เปรียบเสมือนเป็นเสาหลักยึดเหนี่ยวให้พนักงานและผู้บริหาร สามารถเข้าใจถึงวิถีการคิด จนสะท้อนไปสู่ระบบบริหารจัดการที่มีจังหวะ ถอย” “รุกและ รับในสถานการณ์ที่ต่างวาระ

วัย 77 ปี ของไกรสรจึงทำให้เขายังทำงานอย่างสนุกสนาน และเรียนรู้สิ่งใหม่ได้ไม่จบสิ้น


 

ขอความช่วยเหลือ

พิมพ์ PDF

มีผู้ใช้นามว่า "คนตกงาน" เข้ามาแสดงความคิดเห็นในบล็อกของผม  รู้สึกเศร้าใจกับคนบางคนที่เกี่ยวข้องไม่เห็นความสำคัญของคุณค่ามนุษย์ ขาดความเมตตา ก็ขอให้ท่านระวังเพราะเหตุการณ์ที่ท่านปฎิเสธไม่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนทั้งๆที่เป็นหน้าที่ของท่าน สักวันท่านอาจจะพบเหตุการณ์ดังกล่าวกับตัวท่านเอง ขอฝากทุกท่านที่อ่านข้อความของผู้เดือดร้อนที่ต้องการความช่วยเหลือ ข้างล่าง ช่วยส่งข่าวต่อเครือข่ายของท่านเผื่อข้อความนี้จะส่งถึงผู้มีเมตตาที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้

ข้อความจาก "คนตกงาน"

เห็นใจทุกๆท่านเหมือนกันครับ เจอมากับตัวเองเลย เหตุมีอยู่ว่า แม่ของผมต้องผ่าตัดตาเนื่องจากเป็นต้อกระจกมานานมากแล้ว เริ่มจากแม่ของผมไปหาหมอแล้วตรวจพบว่าเป็นต้อกระจกตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่หมอพยายามยื้อและถ่วงเวลามาจนถึงทุกวันนี้ (สิทธิรักษาที่โรงพยาบาลบางมด) และในที่สุดวันก่อนแม่มีอาการไม่ค่อยดีกับดวงตา จึงพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า หมอตรวจว่าดวงตาของแม่เริ่มเป็นต้อหินแล้ว ได้ยินอย่างนี้เลยปวดหัวเลยครับ ไม่มีเงินรักษา เพราะต้องใช้เงินค่าผ่าตัดอยู่หลายหมื่นบาทเลยครับ จะใช้สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า หมอก็ไม่ยอมทำให้ หาข้ออ้างไปเรื่อย คือผมอยากจะย้ายสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า แต่พอไปเดินเรื่องที่สำนักงานเขตแล้ว ทางเขตก็บอกว่าเต็ม ไม่สามารถรับเพิ่มได้อีกแล้ว อย่างนี้ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ พอจะมีทางไหนที่พอจะทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลได้บ้างครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

 

สัมมนาเชิงปฎิบัติการเรื่อง ธุรกิจบริการ ยุทธศาสตร์แห่งชาติ

พิมพ์ PDF

กาหนดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง ธุรกิจบริการ...ยุทธศาตร์แห่งชาติสู่ AEC and Beyond
วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555 เวลา 08.30 – 16.30 น.
ณ THE PEACH โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล กรุ๊ป พัทยา
วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555
08.30 – 09.00 น. ลงทะเบียน ณ บริเวณ Hall B ชั้น 3
09.00 – 09.05 น. กล่าวต้อนรับ
โดย คุณพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล
ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
09.05 – 09.15 น. กล่าวรายงาน
โดย คุณศรีรัตน์ รัษฐปานะ (to be confirmed)
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
09.15 – 09.30 น. กล่าวเปิดการสัมมนา
โดย คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
09.30 – 10.00 น ปาฐกถาพิเศษ : อนาคตธุรกิจบริการไทย ภายหลัง AEC
โดย ดร.อาชว์ เตาลานนท์
ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
10.00 - 10.15 น. พักรับประทานอาหารว่าง
10.15 - 12.25 น. การเสวนาหัวข้อ : เปลี่ยนทิศทางเศรษฐกิจไทยสู่ธุรกิจบริการ
- สาขาธุรกิจการท่องเที่ยว
โดย ดร.วีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
และอดีตผู้อานวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน)
- สาขาธุรกิจ ICT& IT (Communication & Media)
โดย คุณศุภชัย เจียรวนนท์
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน)
- สาขาธุรกิจโลจิสติกส์
โดย คุณสุวิทย์ รัตนจินดา
ที่ปรึกษานายกสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA)
- สาขาธุรกิจก่อสร้าง
โดย คุณยอดเยี่ยม เทพธรานนท์
อดีตนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
และ คุณเสวก ศรีสุชาต
ประธานกรรมการบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จากัด (มหาชน)
ดาเนินรายการโดย
นพ.สุรพงศ์ อาพันพงษ์
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการแพทย์และธุรกิจต่างประเทศ เครือโรงพยาบาลพญาไท
และ รศ.สุธรรม อยูในธรรม
คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
12.25 - 12.30 น. กล่าวขอบคุณวิทยากรภาคเช้า
โดย คุณทักษิณ วัชระวิทยกุล
นายกสมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย
12.30 – 13.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน
13.30 – 16.30 น. Workshop : กาหนดทิศทางธุรกิจบริการไทย
- ห้องที่ 1 สาขาธุรกิจโลจิสติกส์
โดย ดร.ศรีสลา ภวมัยกุล
รองประธานคณะกรรมการธุรกิจบริการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- ห้องที่ 2 สาขาธุรกิจก่อสร้าง
โดย ผู้ทรงคุณวุฒิ
- ห้องที่ 3 สาขาธุรกิจการท่องเที่ยว
โดย ผู้ทรงคุณวุฒิ
- ห้องที่ 4 สาขาธุรกิจ ICT/IT
โดย คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ (to be confirmed)
กรรมการผู้อานวยการ บริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้ง คอรปอเรชั่น จากัด (มหาชน)
คุณฉัตรชัย ตวันธรงค์ (to be confirmed)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ 1998 จากัด (มหาชน)
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมสปริงนิวส์
คุณโฆษิต สุขสิงห์ (to be confirmed)
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.ซี เทคโนโลยี จากัด
ดร. กันยิกา ชอว์ (to be confirmed) อาจารย์ประจาสาขาวิชาวารสารศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
- ห้องที่ 5 ทิศทางการปรับตัวและพัฒนาทุนมนุษย์ของภาครัฐและภาคเอกชน
โดย ศาสตราจารย์ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
หมายเหตุ ผลสรุปของการสัมมนาฯจะจัดทาเป็นสมุดปกขาว (White Paper) เพื่อเสนอต่อรัฐบาลและใช้ประโยชน์ต่อไป

 

 

 

 

แบบตอบรับการเข้าร่วมการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ

เรื่อง ธุรกิจบริการ... ยุทธศาสตร์แห่งชาติสู่ AEC and Beyond”

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2555 เวลา 08.30-16.30 น.

ณ ศูนย์ประชุมพีช โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล กรุ๊ป พัทยา

จัดโดย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ชื่อหน่วยงาน.............................................................................................................................................

ที่อยู่....................................ถนน...........................................แขวง/ตำบล.................................................

เขต/อำเภอ.......................................จังหวัด........................................รหัสไปรษณีย์.................................

ขอส่งผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวน ................ ดังนี้

1.ชื่อ ............................................................. นามสกุล ...........................................................................

ตำแหน่ง ..................................................... สังกัด ................................................................................

หมายเลขโทรศัพท์ ............................................... โทรสาร ....................................................................

e-mail ………………………………………………ช่วงบ่ายโปรดระบุห้อง..…………………………………

2.ชื่อ ............................................................. นามสกุล ...........................................................................

ตำแหน่ง ..................................................... สังกัด ................................................................................

หมายเลขโทรศัพท์ ............................................... โทรสาร ....................................................................

e-mail ………………………………………………ช่วงบ่ายโปรดระบุห้อง..…………………………………

3.ชื่อ ............................................................. นามสกุล ...........................................................................

ตำแหน่ง ..................................................... สังกัด ................................................................................

หมายเลขโทรศัพท์ ............................................... โทรสาร ....................................................................

e-mail ………………………………………………ช่วงบ่ายโปรดระบุห้อง..…………………………………

ลงชื่อ .............................................. ผู้แจ้ง

( .............................................. )

ตำแหน่ง ...............................................

สอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ : ฝ่าย AEC และกฏระเบียบการค้าระหว่างประเทศ

โทรศัพท์ 02-622-1860-70 ต่อ 451-452 โทรสาร 0-2622-1883

หมายเหตุ : ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่พักและค่าใช้จ่ายการเดินทางเอง

 

แนวทางการวิเคราะห์ปัญหาการบริหารคนในองค์กร

พิมพ์ PDF

แนวทางการวิเคราะห์ปัญหาการบริหารคนในองค์กร

หัวใจสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในองค์กรต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ประสิทธิภาพของเครื่องมือหรือวิธีการที่นำมาใช้ในการพัฒนาเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่าองค์กรได้พัฒนาบุคลากรถูกที่ถูกจุดหรือไม่ ถ้าจะพูดง่ายๆแบบภาษาชาวบ้านก็คือ เกาถูกที่คัน หรือไม่ หลายองค์กรได้นำเอาเครื่องมือการบริหารจัดการที่ทันสมัยจากต่างประเทศเข้ามาใช้ แต่สุดท้ายปัญหาการบริหารคนก็ยังคงมีอยู่เหมือนกัน เพราะจัดยาไม่ตรงกับโรค หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของโรคคืออะไร

มีหลายองค์กรสอบถามผมว่าเราจะมีแนวทางหรือวิธีการอย่างไรบ้างที่จะสำรวจ ค้นหาและประเมินปัญหาในการบริหารคนขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับวิธีการที่หลายองค์กรนิยมใช้ในการประเมินปัญหาคือ การพูดคุยสอบถาม การสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม การใช้กล่องรับความคิดเห็น ฯลฯ แต่สุดท้ายผู้บริหารองค์กรก็ยังรู้สึกว่าปัญหาที่ได้มามันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง เพราะมันไม่ตรงกับความรู้สึกของตัวผู้บริหารเอง หรือไม่ก็พอนำไปแก้ไขปัญหาแล้ว ปัญหาเรื่องคนก็ยังไม่จางหายไป

ผมคิดว่าการที่หลายองค์กรเริ่มหันกลับมามองที่การค้นหาปัญหามากกว่าการหาเครื่องมือมาแก้ไขปัญหาน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ดีขององค์กรในบ้านเราในปัจจุบันและอนาคต เพราะถ้าตราบใดที่เรายังไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงในการบริหารคนของเราคืออะไร ต่อให้ใช้เงินลงทุนไปมากเท่าไหร่ ต่อให้ใช้เครื่องมือการบริการจัดการคนสมัยใหม่อย่างไรก็คงจะไม่ได้ผล แถมยังเสียเงินเสียเวลาไปแบบไม่คุ้มค่าอีกต่างหาก

จากการที่ผมได้ให้คำแนะนำองค์กรต่างๆไป รวมถึงได้มีโอกาสเห็นแนวทางการค้นหาปัญหาขององค์กรบางองค์กร จึงอยากจะนำเสนอทางเลือกในการค้นหาปัญหาด้านการบริหารคนดังนี้

กำหนดกลุ่มของปัญหาที่ต้องการศึกษาวิเคราะห์

เนื่องจากปัญหาของคนมีหลายรูปแบบ ดังนั้น ถ้าต้องการให้ได้ปัญหาที่แท้จริง จึงควรจะแบ่งกลุ่มปัญหาของคนในองค์กรออกเป็นกลุ่ม เช่น ปัญหาเกี่ยวกับบรรยากาศในการทำงาน ปัญหาเกี่ยวกับผลตอบแทน ปัญหาเกี่ยวกับความผูกพันต่องานหรือองค์กร ปัญหาด้านการทำงานร่วมกัน ปัญหาชีวิตส่วนตัวครอบครัว ฯลฯ การแบ่งกลุ่มปัญหาจะช่วยให้การศึกษาปัญหาชัดเจนมากขึ้น เพราะถ้าเราศึกษาปัญหาโดยภาพรวมทำให้ไม่สามารถแยกแยะลักษณะและสาเหตุของปัญหาได้อย่างชัดเจน

เลือกเครื่องมือในการค้นหาปัญหา

เมื่อเราแบ่งกลุ่มของปัญหาได้แล้ว ให้ลองหาเครื่องมือในการค้นหาปัญหาว่ามีเครื่องมืออะไรบ้าง แต่ละเครื่องมือมีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไรบ้าง เช่น การสำรวจอาจจะเหมาะสำหรับการค้นหาภาพรวมของปัญหา แต่อาจจะไม่สามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาได้ การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกอาจจะดีตรงที่ได้ข้อมูลละเอียด แต่ถ้าผู้สัมภาษณ์ไม่เหมาะสม ไม่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ถูกสัมภาษณ์ อาจจะไม่ได้ข้อมูลที่แท้จริง สุดท้ายวิธีการที่เหมาะสมอาจจะเป็นแบบผสมกันก็ได้ เช่น ช่วงแรกอาจจะใช้วิธีการสำรวจ เมื่อได้ปัญหาในภาพรวมมาแล้ว ก็ค่อยมาใช้วิธีการเจาะลงรายละเอียดของปัญหาแต่ละปัญหาย่อยอีกครั้งหนึ่ง

การตรวจสอบความถูกต้องของปัญหาที่ค้นหาหรือสำรวจมา

เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าปัญหาที่เราค้นหามาได้นั้นสะท้อนปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงเปลือกนอกของปัญหา จึงควรมีการตรวจสอบความถูกต้องและน่าเชื่อถือของปัญหา อาจจะใช้บุคคลภายนอกเข้ามาช่วยดำเนินการสำรวจปัญหาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าปัญหาที่เราได้มานั้นถูกต้องจริงหรือไม่ หรืออาจจะใช้วิธีการศึกษาเชิงการวิจัยที่มีการตั้งสมมติฐานของปัญหานั้นๆตามที่เราได้ศึกษามาในเบื้องต้น และทดสอบสมมติฐานคร่าวๆโดยการศึกษาเชิงการวิจัย แต่คงไม่ต้องลงลึกที่ต้องใช้ระเบียบวิธีวิจัยอะไรมากมายนักนะครับ

การประเมินระดับของปัญหา

เมื่อแน่ใจว่าปัญหาในการบริหารคนขององค์กรถูกต้องและสะท้อนความเป็นจริงแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการประเมินระดับของปัญหาว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด ปัญหานั้นเกิดขึ้นมานานหรือยัง ปัญหานั้นๆส่งผลกระทบโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อองค์กรอะไรบ้าง อย่างไร ระดับไหน นอกจากนี้อาจจะต้องมาจัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ประเมินได้ด้วยว่าปัญหาควรจะดำเนินการแก้ไขหรือพัฒนาเร่งด่วนกว่ากัน ปัญหาไหนที่ต้องแก้อีกปัญหาหนึ่งก่อนจึงจะดำเนินการแก้ไขหรือพัฒนาได้ เช่น การที่จะพัฒนาความสามารถของบุคลากรได้ จะต้องแก้ไขปัญหาชีวิตส่วนตัวของบุคลากรที่ส่งผลกระทบต่องานให้ได้ก่อน

จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาหรือแผนพัฒนาบุคลากร

เมื่อรับทราบปัญหาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องนำเอาปัญหาทั้งหมดมาจัดทำแผนการแก้ไขหรือพัฒนา แผนที่ว่านี้อาจจะจัดทำเอง หรืออาจจะลองให้ที่ปรึกษาจากภายนอกเข้ามานำเสนอแผนก็ได้ ส่วนเราจะเลือกใช้บริการหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ อย่างน้อยเราจะได้มั่นใจได้ว่าแผนที่เราจัดทำขึ้นมานั้นถูกต้อง (ตรงกับแผนที่บุคคลภายนอกนำเสนอ)

การดำเนินการแก้ไขหรือพัฒนาบุคลากร

เมื่อเราได้ปัญหาที่แท้จริงแล้ว จัดทำแผนการแก้ไขหรือพัฒนาเรียบร้อยแล้ว บางปัญหาเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดสินใจเชิงการบริหารจัดการ เช่น ปัญหาเรื่องผลตอบแทน ปัญหาเรื่องระเบียบข้อบังคับในการปฏิบัติงาน สถานที่ทำงาน ฯลฯ แต่บางปัญหาอาจจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เช่น การพัฒนาฝึกอบรมต่างๆ และถ้าจะให้ได้ผลควรจะกำหนดขอบเขตของผู้ที่จะต้องพัฒนาฝึกอบรมให้ชัดเจน กลุ่มนี้จะต้องพัฒนาเรื่องการวางแผนงาน กลุ่มนี้จะต้องเน้นเรื่องการคิดเชิงระบบ อีกกลุ่มอาจจะต้องเน้นเรื่องการประสานงาน/ทำงานเป็นทีม ไม่ควรกำหนดเป็นระดับ เช่น พนักงานระดับนี้(ทุกคน) จะต้องเข้าอบรมหลักสูตรนั้นหลักสูตรนี้ เพราะจะทำให้ปัญหาที่ควรจะได้รับการแก้ไขหรือคนที่ไม่เก่งก็ยังคงไม่เก่งต่อไป ส่วนคนที่เก่งอยู่แล้วก็เก่งมากยิ่งขึ้น

สรุป แนวทางในการสำรวจ ค้นหา
วิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาบุคลากรขององค์กรควรจะทำอย่างเป็นระบบและเริ่มให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนแรกให้มากเพราะถ้ากำหนดปัญหาผิดพลาดหรือไม่ถูกต้องแล้ว จะทำให้กระบวนการต่อๆมาไม่มีประโยชน์อะไร และการแก้ไขปัญหาอะไรก็ตามควรจะมีการกำหนดวัตถุประสงค์ ผลที่คาดหวัง ตัวชี้วัดความสำเร็จและเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนที่จะดำเนินการแก้ไขหรือพัฒนา ถ้ายังกำหนดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งดำเนินการเลยครับ เดี๋ยวจะเสียเงินเสียเวลาเหมือนในอดีตที่ผ่านมาอีกนะครับ สุดท้ายนี้หวังว่าทุกองค์กรจะมุ่งเน้นการสำรวจปัญหาการบริหารคนขององค์กรที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนะครับ

หมายเหตุ : บทความนี้เป็นบทความที่ผมคัดลอกมาจากที่ใดที่หนึ่ง ผ่านมาหลายปีแล้ว บังเอิญไปพบเข้าและเห็นว่าเป็นประโยชน์ จึงขออนุญาตนำมาลงในบทความนี้ และต้องขอโทษที่ไม่ได้นำชื่อของผู้เขียนมาลงเพราะจำไม่ได้ ถ้าเจ้าของบทความนี้อ่านพบขอให้แสดงตัวด้วยครับ ขอให้ท่านผู้เขียนได้รับบุญจากผลงานของท่านที่ให้ประโยชน์ต่อส่วนรวม


 

 


หน้า 528 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8610882

facebook

Twitter


บทความเก่า