Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ฝรั่งตกใจ การชุมนุมไล่รัฐบาลโกงกิน ไม่นึกว่าคนจะมากันมากมายขนาดนี้

พิมพ์ PDF
คนเตรียมมาชุมนุม 3-5 วัน เพื่อไล่รัฐบาลที่โกงกินบ้านเมือง

ฝรั่งตกใจ การชุมนุมไล่รัฐบาลโกงกิน

Just back from a few hours at the protests and I’ll admit it-  I’m surprised. I thought the protest would be a few thousand, the bored, the instagram/fakebook crowd and the paid. Its packed… photos attached. The crowd at the main stage at the Ratchaprasong intersection is as big (and perhaps bigger) than any of the Red Shirt groups that were same place as 2010. The crowd goes down the road, past the police station and past Siam Paragon on to the Patumwan intersection. It’s the same at the Asoke intersection. Speaking to people, the ones who look like they are planning to stay long term because they have tents; they plan for 3 to 5 days. The junctions at Victory Monument are almost as crowded (looks like I’m walking home tonight). The commentary from the sage is what you would expect- corruption, anti constitutional behavior, abuse of power and also an attack on the DSI - our equivalent of the FBI.

Mass transit continues to run and was also packed as it the only way to navigate the city at the moment.

With the Government hoping that there would be a small turnout, it would be an unpleasant surprise to find so many on the streets- it’s almost like Carnival in Brazil, just more clothes. My biggest takeaway is that this is not like the Red Shirt rallies; which were a largely paid group (the final photo to highlight it). With this level of support, the protest leaders get a new lifeline.

Whats next?

There remains no clear exit strategy or  possibility for a negotiated solution. The Democrat party (yes- they need to change the name) won’t come to the table, there is no real reason for the Government to negotiate. Like it or not they are the elected government. The chance of a coup is remote as the military know that would be chaos as the upcountry red shirts would fight back. Already Red Shirt radio are portraying this as an ‘attack’ on our hero Thaksin’s little sister- who happens to be the PM. We have more court decisions due this week and that’s frankly more relevant to the Government’s ability to operate than the protests.

ฝรั่งสมัยนี้ไม่รู้ว่า รัฐบาลฮิตเล่อร์ก็เป็น elected government

วิจารณ์ พานิช

๑๓ ม.ค. ๕๗

 

 

 

Angus Kent CFA | Managing Director

Macquarie Securities Thailand Limited | Macquarie Group Limited

28th Floor, CRC Tower, All Seasons Place 87/2 Wireless Rd,  by Plus-HD-1.5" style="color: #0022cc; text-decoration: underline !important; background-color: transparent !important; border: none !important; display: inline !important; float: none !important; height: auto !important; margin: 0px !important; min-height: 0px !important; min-width: 0px !important; padding: 0px !important; vertical-align: baseline !important; width: auto !important;">Bangkok

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 14 มกราคม 2014 เวลา 09:06 น.
 

เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์เร็วขึ้น

พิมพ์ PDF
หัวใจอยู่ที่ความสามารถของครูในการจัดการเรียนการสอนแบบ inquiry-based. ซึ่งหมายความว่าต้องฝึกครูด้านวิธีจัดการเรียนรู้แบบนี้. การเพิ่มความรู้ด้านเนื้อหาจะไม่ช่วย

ริ่มเรียนวิทยาศาสตร์เร็วขึ้น

บทความเรื่อง Start Science Sooner เขียนโดย กองบรรณาธิการ  ตีพิมพ์ในนิตยสาร Scientific American ในปี ค.ศ. 2010    และพิมพ์ซ้ำในหนังสือ The Science of Education ในปี 2012  บอกว่า การเริ่มเรียนวิทยาศาสตร์เร็ว โดยที่เป็นวิธีเรียนที่ถูกต้อง สำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้

ผลงานวิจัยบอกว่า เด็กเริ่มมีทัศนคติเชิงลบต่อวิชาวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เรียนชั้นอนุบาล   ดังนั้นทางแก้คือให้เด็กได้เรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ช่วงนั้น   โดยที่ต้องได้เรียนอย่างถูกต้อง

ที่น่าตกใจคือ เด็กจำนวนมากบอกว่าตนเองไม่เก่งวิทยาศาสตร์    นี่เป็นผลการวิจัยในอเมริกา    ในประเทศไทยเป็นอย่างไรไม่ทราบ    เด็กคนไหนมีทัศนคติว่าตนไม่เก่งเรื่องอะไร แล้วหาทางหลีกเลี่ยง การเรียนสิ่งนั้น   เป็นเสมือนการฆ่าตัวตายด้านการเรียนรู้นะครับ   มันทำให้เป็นคนไม่สู้สิ่งยาก ไม่มีความมานะพยายาม เป็นนิสัยไม่ดีติดตัวไปตลอดชีวิต

เขายกตัวอย่าง การทดลองสอนวิทยาศาสตร์ควบกับการสอนภาษา ในเด็กอนุบาล   ทดลองที่ มหาวิทยาลัย Purdue (Purdue Scientific Literacy Project)    เขาบอกว่า จะช่วยทำให้ ถ้อยคำที่เรียนมีความหมาย ทำให้เรียนภาษาได้ดีขึ้น   วิธีการที่ทดลองสอน คือให้เด็กได้เข้าใจว่าวิทยาศาสตร์คือการตั้งข้อสงสัย เพื่อเรียนรู้ ธรรมชาติในโลก   และทุกคนสามารถทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้   ถึงตรงนี้ผมคิดว่า เป็นการปลูกฝัง วิธีคิดเชิงวิทยาศาสตร์ (scientific thinking)    ตั้งแต่ชั้นอนุบาลนั่นเอง    ไม่ใช่การสอนวิชาโดยตรง

การสอนเพื่อเป้าหมายนี้ ไม่ต้องการเทคโนโลยีหรูหราราคาแพง (ไม่จำเป็นต้องมี แท็บเล็ต)   ผมเคยไปเห็นที่โรงเรียนบ้านขาแหย่งพัฒนา ที่เชียงราย    ซึ่งสอนแบบมอนเตสซอรี่    เขาให้เด็กอนุบาล ทดลองเอาเกลือใส่ลงไปในน้ำ เพื่อเรียนรู้ว่าเกลือละลายน้ำ    ซึ่งตรงกับในบทความนี้พอดี   เขาแนะนำว่า การอ่านหนังสือที่ไม่ใช่นิยายให้เด็กฟัง ก็ช่วยสร้างความคิดเชิงวิทยาศาสตร์   ทำให้ผมนึกถึงสมัยลูกยังเล็ก ผมจะไปซื้อหนังสือภาพเรื่องสัตว์ มาอ่านกับลูก

เขาแนะนำว่า เด็กอนุบาลก็เรียนโดยทำโครงงาน (PBL) เป็นทีมได้   ทำให้เกิดทักษะหลายด้าน รวมทั้งฝึกตั้งคำถาม และหาคำตอบด้วยตนเอง   ผลการเรียนแบบ PBL ทำให้เกิดการเรียนรู้ดีกว่าการสอน โดยทั่วๆ ไป

หัวใจอยู่ที่ความสามารถของครูในการจัดการเรียนการสอนแบบ inquiry-based    ซึ่งหมายความว่าต้องฝึกครูด้านวิธีจัดการเรียนรู้แบบนี้   การเพิ่มความรู้ด้านเนื้อหาจะไม่ช่วย

เขาบอกว่า เด็กอนุบาลเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่แล้วโดยธรรมชาติ   และจะลองโน่นลองนี่อยู่แล้ว   เพียงแต่เปิดโอกาสให้เท่านั้น เขาก็จะเรียนรู้    บทบาทของการศึกษาวิทยาศาสตร์ในระดับอนุบาลคือ   ส่งเสริมสัญชาตญาณรักการทดลอง เพื่อทำความรู้จักโลกโดยรอบตัว    ให้พฤติกรรมกระตือรือร้น ต่อการเรียนรู้นั้น นำไปสู่การเรียนวิชาวิทยาศาสตร์จริงๆ เมื่อโตขึ้น

ผมขอเสริมว่า ครูต้องรู้วิธีชวนศิษย์ชั้นอนุบาลทำกระบวนการ reflection หรือ AAR หลังการทดลอง   กระบวนการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

และขอเสริมว่า การเรียนแบบ inquiry-based PBL ของเด็กชั้นอนุบาล ก็คือการเล่นนั่นเอง

วิจารณ์ พานิช

๕ ม.ค. ๕๗

 

 

 

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2014 เวลา 22:25 น.
 

ธ.สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์ เสวนาสด รายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน คืนนี้ พุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 19.00-20.00 น

พิมพ์ PDF

“ธ.สถิตในดวงใจ ตราบนิจนิรันดร์”  เสวนาสด

รายการ เปลี่ยน เป็น เปลี่ยน พุธที่ 14 สิงหาคม 2562 เวลา 19.00-20.00

 ทางสถานีโทรทัศน์โลกพระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ  (WBTV) วัดยานนาวา

 แขกรับเชิญ :  อาจารย์ เด่น กาญบุตร

ดำเนินรายการโดย หม่อมหลวงชาญโชติ ชมพูนุท  

 สามารถรับชมได้ทาง ทีวี ผ่านจานดาวเทียม ตามช่องต่างๆดังนี้

·      กล่องดาวเทียมค่าย GMM ช่อง 175

·      กล่องดาวเทียมค่าย PSI ช่อง 239

·      กล่องดาวเทียวค่าย CTH  ช่อง 870

·      กล่องดาวเทียวค่าย  Infosat ;Thaisat; Indeasat ; Leotech ช่อง 189

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

14 สิงหาคม 2562


 

สันติภาพ แสดงความคิดเห็นโดย ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

พิมพ์ PDF

 


หน้า 403 จาก 559
Home

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5614
Content : 3057
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8654970

facebook

Twitter


บทความเก่า