Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

บูรพาภิวัตน์ เอเชียคืออนาคต

พิมพ์ PDF

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ :

“บูรพาภิวัตน์ เอเชียคืออนาคต”

เสาร์ที่ผ่านมาผมบรรยายให้ครูแนะแนวจากทั่วประเทศกว่าร้อยคน จัดที่โรงแรมดุสิตพัทยา โดยมหาวิทยาลัยรังสิต

ครูอาจารย์ทั้งหลายก้มหน้าทุ่มเททำงานในหน้าที่จนไม่มีเวลาติดตามความคืบหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงของโลก ของภูมิภาคและของประเทศไปบ้าง จึงถือโอกาสนี้เล่าอะไรให้บูรพคณาจารย์เหล่านั้นฟัง

สถานการณ์โลก

1. จีนมี OBOR (One Belt One Road) เพื่อเชื่อมโลก รถไฟความเร็วสูงจากปักกิ่งสู่ลอนดอน จีนและสหรัฐมีบทบาทในประเทศไทยและอาเซียนสูงกว่าญี่ปุ่นและยุโรป

มหานโยบายต่างประเทศของจีน “One Belt One Road หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หมายถึง เส้นทางสายไหมทางบก และทางทะเล เชื่อมยุโรปกับเอเชียเข้าด้วยกัน เป็นแนวคิดที่ทะเยอทะยานในทางบวก ถือเป็นยุทธศาสตร์ระดับโลก

ทางบก ใช้รถไฟความเร็วสูงเชื่อมจากปักกิ่ง ผ่านเอเชียกลาง ยุโรปตะวันออก ตะวันตก ไปถึงอังกฤษ และสเปน ส่วนทางทะเล ก็จะเชื่อมลงทางทะเลจีนใต้ มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งต้องผ่านทางใต้ของประเทศไทย

2. สหรัฐเริ่มปรับสมดุลด้านการต่างประเทศ (Rebalancing) นโยบายกลับมาซบเอเชีย

จากเดิมให้ความสำคัญและไปวุ่นวายกับสงครามตะวันออกกลาง ทุบกำแพงเบอร์ลิน เหตุการณ์ 911 สงครามอิรัก อัฟกานิสถาน แล้วยังมี ISIS และสงครามในซีเรียอีก

ตอนนี้ สหรัฐอเมริกาพยายามกลับมาสู่เอเชีย Balancing to Asia โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก และอาเซียน สหรัฐทิ้งเราไปตั้งแต่สงครามเวียดนาม ตอนนี้ต้องกลับมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับจีน จีนเติบโตขึ้นทุกวันในแบบก้าวกระโดด กล่าวคือ โตแบบจี้ก้นอเมริกา ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐเท่านั้นเอง

3. ข้อขัดแย้งในทะเลจีนใต้ - ไทยเป็นตัวกลาง

จีนมีข้อพิพาทเกี่ยวกับพื้นที่ทางทะเล หมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้หลายจุด อาทิ ขัดแย้งกับไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไน ฉะนั้น จีนจึงพยายามให้อาเซียน (กัมพูชา และลาว) วางตัวเป็นกลาง เพื่อให้เกิดการเจรจาทวิภาคีกับประเทศคู่ขัดแย้ง ด้านสหรัฐอเมริกาก็พยายามใช้เวียดนามและฟิลิปปินส์มาคานอำนาจจีน

ส่วนไทยอยู่ตรงกลาง...

ข้อสังเกตคือ ตอนสหรัฐรบกับโซเวียต เรียกว่า ตัดสัมพันธ์ เป็นสงครามเย็นเต็มรูปแบบ แต่กับจีน ยังค้าขายกันอยู่ มีสัมพันธ์กันอยู่ แต่ก็แข่งขันกันรุนแรง ต่อสู้ผ่านการแผ่อิทธิพลเหนือประเทศในเอเชีย

4. บูรพาภิวัตน์ - เอเชียคืออนาคต

"บูรพาภิวัตน์" คือจีนกับอินเดียผงาด เอเชียกำลังจะรวยขึ้น ทั้งจีนและอินเดีย อินเดียใกล้ไทยทางทะเล จีนใกล้ไทยทางเหนือ เพราะฉะนั้น "บ้านเราคือทำเลทอง"

นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย 3 ล้าน แต่นักท่องเที่ยวจีน 10 ล้าน ไปไหนเจอแต่พี่จีน นักท่องเที่ยวจีนเป็นนักจ่ายเงินมือฉมัง คนจีนสนใจเครื่องสำอาง 2 ชาติ คือเกาหลีและไทย ประชากรหญิงจีนมี 700 ล้านคน ถ้าคนจีนอยากสวย หมายถึง โอกาสทางธุรกิจขนาดยักษ์

มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจอื่นๆ อีก แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจนี้มีข้อจำกัดคือ จีนเคยออกนโยบายคุมกำเนิด เพราะฉะนั้น ในอนาคตจะกลายเป็นสังคมสูงอายุ ไม่มีวัยหนุ่มสาวใช้แรงงาน เศรษฐกิจจะชะงัก ในขณะที่ อินเดียไม่มีการคุมกำเนิด ยังเติบโตได้อีกยาว
.................................

แล้วประเทศไทย... เรามีอะไร?

หนึ่ง เราเป็นประเทศรวยทรัพยากร ไม่ได้มีแค่ข้าวหรือยางพารา เนชันแนลจีโอกราฟิกบอกว่า ป่าประเทศไทยเป็นป่าชั้นดีไม่แพ้แอมะซอน มีพื้นที่สงวนชีวมณฑลถึง 4 แห่ง หรืออย่างห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร หรือป่าทางระนองเป็นที่ที่มีสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์อันดับหนึ่งของโลก สัตว์เดินข้ามประเทศมาจากพม่า อินเดีย ส่วนเขาใหญ่หรือก็มีสัตว์ข้ามมาจากกัมพูชา

ป่าเหล่านี้ สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวระดับ high-end ราคาแพง นักท่องเที่ยวสีเขียวมีกำลังจ่ายมาก ถ้าทำได้จะเป็นตลาดขนาดใหญ่ แล้วรายได้เหล่านี้ จะถูกนำกลับมาพัฒนาและอนุรักษ์ป่าให้เป็นป่าชั้นหนึ่งของโลกได้

สอง เรามีสองมหาสมุทร ซ้ายมหาสมุทรอินเดีย ขวามหาสมุทรแปซิฟิก (อเมริกาก็มี 2 มหาสมุทร แอตแลนติกและแปซิฟิก)

สาม เรามีจังหวัดติดทะเล 23 จังหวัด

สี่ เรามีจังหวัดติดชายแดน 31 จังหวัด

เพราะฉะนั้น ด้านการศึกษา เด็กของเราควรรู้เรื่องเอเชียมากขึ้น เช่น เด็กทางเหนือควรรู้ภาษาจีนและพม่าจนถึงอ่านเขียนได้แตกฉาน เด็กอีสานควรพูดอ่านเขียนลาวและเวียดนามได้ ทางอีสานใต้ควรพูดเขมรได้ ส่วนทางใต้ควรพูดมลายูให้ได้ เป็นต้น เราต้องเตรียมเด็กของเราให้ข้ามไปทำงานในลาว พม่า เขมร เวียดนาม จีน

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสำคัญ แต่... ภาษาเพื่อนบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ได้บูมอยู่ที่ยุโรปและสหรัฐอีกต่อไป แต่บูมอยู่แถวบ้านเรา คือ ทั้งเอเชียและอาเซียน

สถานการณ์โลกสมัยใหม่ เป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน... ตอนสงครามเวียดนาม และยุคล่าอาณานิคม เราเป็นด่านหน้ารับสงคราม แต่ยุคนี้ เราเป็นด่านหน้าเช่นกัน แต่เป็นด่านหน้ารับเงิน

ห้า เรามีหลายเมืองที่เรียกว่าเป็นมหานครสำคัญของโลก (อันดับ 1 กรุงเทพฯ, อันดับ 9 ภูเก็ต, อันดับ 13 เชียงใหม่, อันดับ 26 พัทยา) กรุงเทพฯ ที่เรารังเกียจ คิดว่าสกปรก จำได้แต่ว่าน้ำท่วม อากาศแย่ พอสำรวจออกมา ชนะปารีส โตเกียว สิงคโปร์ ฮ่องกง เพราะฉะนั้น เราไม่ธรรมดา!

ด้านการศึกษา เราต้องทำให้สอดคล้องเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการ ยอมรับก่อนเลยว่า คนไทยไม่ได้เก่งเรื่องศาสตร์แข็ง แต่เก่งศาสตร์อ่อน เช่น ศิลปะ บริการ ร้องเพลง

เราต้องสร้าง “ลัลล้า... อีโคโนมี” ชิวๆ สนุกๆ ไม่ทุกข์ไม่โศก เราต้องใช้เรื่อง “ลัลล้า” ให้เป็นเงิน

เราต้องจัดการศึกษาด้านลัลล้าให้มากขึ้น เด็กไทยขนาดสอนแต่วิชาการ ความลัลล้ายังโดดเด่นออกมาจากเด็กไทย

“ปลาต้องอยู่ในน้ำ... มันถึงจะเป็นอัจฉริยะ อย่าเอามันมาปีนต้นไม้” - การศึกษาไทยก็เช่นกัน เรายัดเยียดในสิ่งที่ไม่ใช่เราให้เด็กเราหรือเปล่า?

โลกเข้าไปสู่ Experience Economy แล้ว ไม่ได้ซื้อแค่สินค้า แต่ซื้อประสบการณ์ อาชีพเต้นกินรำกิน เอาแต่เล่น ลัลล้า พวกนี้แหละ จะกลายเป็นเงิน

เราต้องมองให้เห็นโอกาส ต่อยอดจากโอกาส ไม่ใช่เห็นแต่ปัญหา ถ้าเห็นโอกาส ไปไกลกว่า จะเห็นโอกาสได้ต้องมองโลก มองประเทศในทางบวก ครูอาจารย์ต้องเห็นก่อน ลูกศิษย์จะได้มองเห็นด้วย

ถ้าเห็นแต่ปัญหา ก็จะถูกพันธนาการด้วยปัญหา เป็นการมองโลกในแง่ร้าย

มันขึ้นอยู่กับวิธีคิด อย่างเรื่องนักท่องเที่ยวจีนก็คิดได้หลายแบบ คิดว่า “เขาเสียงดัง แย่งกันกิน” หรือ “เขามาช่วยเรา เอาเงินมาให้ประเทศเรา”

อย่ามองจีนและสหรัฐ ว่าเขายิ่งใหญ่ น่ากลัว แล้วเอาแต่หนี แต่ให้มองว่าเขาเป็นยักษ์ใหญ่ เราจะขี่หลังยักษ์และหากินหาเงินจากเขายังไง

เราต้องใจใหญ่ ต้องกล้า เราต้องฝึกให้คนรุ่นใหม่กล้า เพราะคนรุ่นเก่าใจฝ่อ ถูกสอนมาให้กลัว

พึงระลึกไว้ว่า กระแสบูรพาภิวัตน์ “เป็นคุณ” ต่อประเทศไทย

ป.ล. เรียบเรียงโดย ผศ. สมเกียรติ รุ่งเรืองวิทยะ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ขอบคุณ ดร.อนุชา เล็กสกุลดิลก ที่นำมาเผยแพร่ผ่านทางไลน์กลุ่ม iHDC

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 12 กรกฏาคม 2016 เวลา 18:29 น.
 

Kimberly ' I can't stay long

พิมพ์ PDF

Hi Chanchot,


Kimberly here…

I can’t stay long because I’m about to take my son Evan, to the playground to burn off some of that 4 year old energy… 

But before I load him up in the swing (Evan's fave of course) I wanted to drop by and see if you’d want to work with me personally…

What will we work on? 

Helping you to find a career you can use to get paid to travel the world, do work you love and live a global lifestyle…

And we’ll do it all in just 8 weeks. 

But let me rub off some of the razzle dazzle first…

* You have to hustle. To get this stuff under your belt in 8 weeks there’s no lollygagging around. I’ll tell you what to do, but YOU have do it. 

* You won’t actually start working at your dream job in 8 weeks, but the goal is you’ll have EVERYTHING you need to start applying and an easy chance to actually making it happen. 

* You have to be a professional woman (sorry fellas - don't worry I have something coming soon just for you ;-). 

* This is a serious and legitimate process I’m sharing and there IS a serious investment involved…

BUT…

The price of actually making this happen is FAR less than the cost of remaining in a cubicle for the next 20 years!

Now…

If you’re still here. 

Here’s the spoils…

* In a matter of a few months you can be working in a job you LOVE and can be proud to tell your friends and family about while traveling abroad. 

* You can work in a job that’s custom tailored for you and be able to wander the world at your leisure.

* You can treat life like a permanent vacation while doing work you’re passionate about.

* And you can do ALL of this without giving up a stable salary. **BONUS**

Traveling to exotic places while doing work that fulfills you is more easily attainable when you have an exact blueprint…

In 8 Weeks you will:

* Have figured out your unique skill set and strengths that businesses are willing to pay you for.

* Figure which options & paths those skills are best applied to and will make you the most income with the most flexibility.

* Know how to design your ideal resume that goes to the top of the pile.

* Know how to NAIL your ideal dream job interview…

And I’m sure I’m leaving a ton of good stuff out. 

Plus, I’m sure you’ve got a ton of questions..

So let’s do this…

Let’s see if we can work together.

I’m about to roll out this new advanced training to the public but I wanted to give you a chance to grab one of the 10 spots before I did…

But I’ve got a short application for you to fill out first. 

Fill it out here.

If it looks like a possible match, then I’ll give you a call to get to know you a little better, ask you a few questions, answer any questions you may have and see if you’d like to join the class. 

Just so you know…

This is NOT some hard pitched sales call. 

Here’s why…

There are PLENTY of people for me to coach. 

The problem is not getting coaching clients, the problem for me is making sure I’m coaching the right people and that I’m the right coach for them too. 

This is a casual interview. 

If I feel we’re a good match…I’ll simply ask if you want to join us. 

If not, no worries. 

Here’s the application again.

Fill it out today and I’ll give you a call tomorrow or the next day to set up a time to get to know you. 

To your success, 

Kimberly

1748 Gordon Lane
Tobyhanna PA 18466
USA

Unsubscribe | Change Subscriber Options

แก้ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2016 เวลา 20:17 น.
 

ที่มาของคลิป "นายกกลายพันธ์"

พิมพ์ PDF

ที่มาของคลิป “นายกกลายพันธ์"

คลิปนี้ดีมากครับ ผมถือว่าคลิปเช่นนี้เป็นการสื่อสารแบบสร้างสรรค์  เมื่อมีคนที่มาพูดถึงเหตุการณ์ต่างๆอย่างสร้างสรรค์เช่นนี้ จะเป็นการพิสูจน์ ว่าผู้ทำหน้าที่รับผิดชอบจะแก้ไขปรับปรุ่งอย่างไร จะยังยึดถือตัวตน หรือจะยอมปรับเปลี่ยนและแก้ไขสิ่งผิดให้ดีขึ้นได้อย่างไร 
ทุกคนคิดและตัดสินใจผิดได้ แต่ถ้ามีคนมาชี้ให้เห็นถึงสิ่งผิดพลาด ยอมรับและแก้ไขให้ถูกต้อง ก็ถือว่าเป็นบุญกับสังคมและประเทศชาติ ถ้าเป็นคนดีจริงจะไม่ยึดติดตัวตนและยอมรับข้อผิดพลาดและแก้ไข แต่ถ้าไม่ใช่คนดีจริงก็จะไม่ยอมฟังใครและทำตามตัวเองก็จะเกิดผลร้ายต่อสังคมและประเทศชาติ ก็ถือว่าเป็นกรรมร่วมกันที่จะได้รับ ความจริงย่อมเป็นความจริง ดังนั้นประชาชนทุกคนต้องมีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกัน ทุกคนทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดด้วยความบริสุทธิ์ ผู้นำดีๆก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าประชาชนส่วนรวมยังเห็นแก่ตัวก็จะได้ผู้นำที่เห็นแก่ตัวเช่นกัน คนมีบาปมีกรรมก็ต้องได้รับสิ่งนั้นอย่างหนีไม่พ้น

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔

 

การเรียนรู้ร่วมกัน

พิมพ์ PDF

การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริงระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่หรือระหว่างทุกฝ่ายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง (Transformation) ในทุกมิติ

คนรุ่นใหม่กับอนาคตประเทศไทย

ประเวศ วะสี

·        คนรุ่นใหม่จะมาแทนคนรุ่นเก่า จึงเป็นอนาคตของประเทศไทย

คนรุ่นใหม่ยิ่งเก่งยิ่งดี อนาคตประเทศไทยยิ่งรุ่งโรจน์

·        คนรุ่นเก่าจึงควรถนอมรักคนรุ่นใหม่ และส่งเสริมให้เขาเก่งและดี

เขาก็คือลูกหลานของเรานั่นเอง

·        แต่ใหม่ไม่เหมือนเก่า เพราะสรรพสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง

ตามพระพุทธดำรัส ไม่มีอะไรอยู่คงที่หรืออนิจจังโดยไม่เปลี่ยนแปลง

·        ที่เปลี่ยนก็เพราะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้เปลี่ยน หรือความเป็นเหตุเป็นผล

ที่เรียกว่าอิทัปปัจจยตา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ โดยไม่มีเหตุ

·        การที่ลูกหลานไม่เชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์เหมือนเดิม ไม่ใช่เขาเป็นคนเลว

ถ้าคิดว่าลูกเลว พ่อแม่จะมีความทุกข์สูงสุด

·        ทางพุทธศาสนาถือว่าทุกข์เกิดเพราะ “อวิชชา” หรือความไม่รู้ ไม่รู้ความจริง

ผมเคยอธิบายให้แม่ที่มีความทุกข์เพราะลูก หายทุกข์ทันทีเมื่อรู้ความจริง

·        ความจริงก็คือมีเหตุให้เป็นเช่นนั้น ในสมัยโบราณผู้เยาว์ได้รับข้อมูล

เฉพาะจากพ่อแม่และครู จึงเชื่อฟังพ่อแม่และครู

·        สมัยปัจจุบันข้อมูลมาจากทุกทิศทุกทาง อย่างหลากหลาย

คนรุ่นใหม่จึงไม่เชื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ เหมือนคนรุ่นเก่า

·        ยิ่งยัดเยียดยิ่งห้ามปราม ยิ่งอยากทำ เหมือนกันทั่วโลก

มันเป็นเช่นนั้นเอง เพราะมีเหตุปัจจัยให้เป็นเช่นนั้น ตถตา

·        คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่มีจุดอ่อนจุดแข็ง ที่จะเสริมกัน

คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ยาวแต่อนาคตสั้น คนรุ่นใหม่อนาคตยาวแต่ประสบการณ์สั้น

·        มหาตมะคานธีกล่าวว่า ถ้าคุณเรียนจากตำราคุณได้ความรู้

แต่ถ้าคุณเรียนจากประสบการณ์คุณได้ปัญญา

·        คนรุ่นเก่ามีประสบการณ์ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางปัญญาอย่างวิเศษ

แต่อาจขาดพลังขับเคลื่อนสู่อนาคต ที่คนรุ่นใหม่มีมากกว่า

·        ฉะนั้น การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริง ระหว่างเก่ากับใหม่

จะตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และนำไปสู่ความสุขประดุจบรรลุนิพพาน

·        คนรุ่นเก่าก็ได้ถนอมรักลูกหลาน และเรียนรู้จากคนรุ่นใหม่

คนรุ่นใหม่ก็จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของความล้มเหลวหรือสำเร็จของอดีต

·        ที่สำคัญ สมองส่วนวิจารณญาณสูงสุดที่เรียกว่า Prefrontal cortex

ของคนก่อนวัยเบญจเพส ยังพัฒนาไม่เต็มที่

·        คนรุ่นใหม่ที่ยังเยาว์วัยจึงถูกฮอร์โมนเร่งเร้าให้พุ่งทะยาน

อาจขาดความยับยั้งชั่งใจ ก่อความรุนแรงได้ง่าย

·        การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ (Interactive learning to action) ในสถานการณ์จริง”

เป็นเครื่องมืออันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ก้าวข้ามอุปสรรคและข้อจำกัดทุกเรื่อง

·        ทิศทางอนาคตประเทศไทยหลังโควิด และของโลก

จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ทิศทางเดิมที่ล้มเหลวหมดยุคลงแล้ว

·        ทิศทางใหม่ต้องเริ่มต้นด้วยการเห็นหรือทิฏฐิใหม่ ทิฏฐิแปลว่าเห็น

การเห็นใหม่คือเห็นความจริง ทิศทางเก่าของโลกเห็นผิด จึงล้มเหลว

·        ที่ว่าเห็นผิดคือเห็นเป็นส่วนๆ หรือเห็นบางส่วน หรือเห็นแบบแยกส่วน

ความจริงคือธรรมชาติทั้งหมดเชื่อมโยงเป็นองค์รวม (Wholeness) หนึ่งเดียวกัน (Oneness)

·        เมื่อเห็นแบบแยกส่วนก็ทำอะไรๆ แบบแยกส่วน ซึ่งนำไปสู่การเสียสมดุลโลกเสียสมดุลหมดทุกมิติ จึงวิกฤต และโควิดจึงมา

·        ทิศทางอนาคตคือการเห็นทั้งหมด และพัฒนาอย่างสมดุล

การจัดการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับคน และระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อมในทุกระดับ

·        ตั้งแต่ชุมชนขนาดเล็กที่คนอยู่ร่วมกันด้วยความสุขไปจนถึงชุมชนขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับตามสมรรถนะของ การจัดการให้มีความสมดุล

·        การเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติในสถานการณ์จริงระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่หรือระหว่างทุกฝ่ายจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง (Transformation) ในทุกมิติ

·        ที่ยิ่งทำยิ่งรักกันมากขึ้น ยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจกัน (Trust)  มากขึ้น

ยิ่งเสมอภาคและมีภราดรภาพมากขึ้น ยิ่งฉลาดมากขึ้น ยิ่งฉลาดร่วมกัน (Collective wisdom) มากขึ้น ยิ่งเกิดนวัตกรรมและอัจฉริยภาพกลุ่ม Group genius มากขึ้น

ยิ่งสามารถฝ่าความยากไปสู่ความสำเร็จมากขึ้น ยิ่งมีความสุขมากขึ้นประดุจบรรลุนิพพาน

แทนที่จะมีความทุกข์เพราะคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นความสุขร่วมกัน ประดุจบรรลุนิพพาน เพราะความสิ้นไปของ “อวิชา” โดยแท้

---------------------------------------------------------------

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich ใน บันทึกการเมืองไทย


 

การบริหารแบบคิดนอกกรอบ 1

พิมพ์ PDF

 


หน้า 12 จาก 559
Home

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5614
Content : 3057
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8655410

facebook

Twitter


บทความเก่า