Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

กัญชาถูกกฎหมาย

พิมพ์ PDF

ที่ผมเห็นด้วยกับการใช้กัญชานั้น เห็นด้วยอย่างจำกัด ใช้ในผู้ป่วยใกล้ตายหรือทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เพื่อเสพสภาพประสาทหลอน ผมมีความเห็นว่า คนเราควรแสวงความสุขที่มั่นคงยั่งยืน และไม่ต้องพึ่งพามากกว่าการพึ่งพายา ไม่ว่ายาชนิดใด

 

กัญชาถูกกฎหมาย

นสพ. บางกอกโพสต์ ฉบับวันที่ ๒๕ พ.ค. ๕๖ ลงบทความ เรื่อง It is now just a question of 'how' pot will be legalised เขียนโดย Bill Keller นักเขียนของ New York Times  ซึ่งเมื่อค้นด้วย Google ก็พบบทความเดียวกันในชื่อ How to legalize pot เป็นบทความที่เขียนดีมาก  บอกว่า ๒ รัฐที่มีกฎหมายให้ใช้กัญชาเพื่อ “การหย่อนใจ” (recreational drug) คือ โคโลราโด กับ วอชิงตัน  โดยจำกัดให้ใช้ได้ในคนที่อายุ ๒๑ ปีขึ้นไป

และมีอีก ๑๘ รัฐ ที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเป็นยาได้ (medical use)  โดยในประเทศเนเธอร์แลนด์อนุญาตให้ใช้ เป็นการส่วนตัวได้ (personal use)

จะเห็นว่า ในปัจจุบัน มีกฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาอย่างจำกัด (limited use)  เพราะมันมีทั้งประโยชน์และโทษ   ที่จริงเรื่องโทษนั้น บุหรี่ เหล้า และการพนันดูจะมีโทษมากกว่า

เขาบอกว่า ในรัฐที่ยอมให้ใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย  ไม่มีหลักฐานว่าวัยรุ่นมีการเสพกัญชาเพิ่มขึ้น   แต่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งใช้กฎหมายอนุญาตให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย   ก็มีร้านขายกัญชาขึ้นทั่วทุกหัวระแหง ในนคร ลอส แอนเจลีส  มากกว่าร้าน สตาร์บัค

การออกกฎหมายอย่างเดียวไม่พอ ต้องคิดเรื่องการบังคับใช้กฎหมายด้วย  ประเด็นที่ต้องคิดให้รอบคอบคือ บริษัทธุรกิจสิ่งเสพติด ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำจากคนที่เสพมากเกินพอดี (เสพติด)   และหากธุรกิจนั้นมีขนาดใหญ่ มีอิทธิพลมาก ก็จะมีพลังทางธุรกิจเพื่อทำกำไรจากการดึงดูดให้คนเข้าไปเสพติดจำนวนมาก  แบบเดียวกับบริษัทบุหรี่และเหล้า  บทความจึงบอกว่า น่าจะหาทางทำให้ธุรกิจกัญชาเป็นรายย่อยๆ แบบธุรกิจ ไวน์  ไม่มีการรวมกันเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แบบบุหรี่และเหล้า  จะกำกับควบคุมอย่างไร

จะกำกับควบคุมการโฆษณาอย่างไร  ห้ามวางจำหน่ายแบบห้ามบุหรี่ไหม  จะมีกฎหมายห้ามคนเมากัญชาขับรถ หรือยานพาหนะอื่นๆ อย่างไร  เราคงไม่อยากให้นักบินที่ขับเครื่องบินเสพกัญชาระหว่างทำหน้าที่

จะเห็นว่า แม้สังคมและกฎหมายจะยอมรับการเสพกัญชา  ก็ต้องมีกฎเกณฑ์กติกา เพื่อรับเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์  ป้องกันส่วนที่เป็นโทษ  ป้องกันการมอมเมาคนที่จิตใจอ่อนแอ

ที่ผมเห็นด้วยกับการใช้กัญชานั้น เห็นด้วยอย่างจำกัด  ใช้ในผู้ป่วยใกล้ตายหรือทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด  โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เพื่อเสพสภาพประสาทหลอน  ผมมีความเห็นว่า คนเราควรแสวงความสุขที่มั่นคงยั่งยืน และไม่ต้องพึ่งพามากกว่าการพึ่งพายา ไม่ว่ายาชนิดใด

ผมเห็นด้วยกับการปลูกไว้ใช้เอง ว่าควรอนุญาตให้ถูกกฎหมาย  โดยต้องหาทางสร้างความรู้ความเข้าใจคนในสังคม ให้รู้จักคุณและโทษของมัน

ผมเคยเขียบบันทึกเรื่องกัญชาไว้ ที่นี่

วิจารณ์ พานิช

๒๕ พ.ค. ๕๖

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/537087

 

กัญชาเป็นยา

พิมพ์ PDF

ประเทศไทยควรเป็นประเทศที่ผลิตอาหารและยาให้แก่โลกผ่านการเกษตรแผนใหม่ การเกษตรชนิดที่ให้มูลค่าเพิ่มสูง และมีคุณค่าสูงต่อมนุษยชาติ สิ่งที่มีคุณค่าสูงมักจะมีอันตรายสูงตามมา เราสามารถเพิ่มคุณค่าลดอันตรายได้โดยการวิจัยสร้างความรู้ให้สังคมรู้จักใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ลดโทษ และต้องวิจัยและสื่อสารต่อสังคมไทยและต่อโลก เพื่อเปลี่ยนกระบวนทัศน์ผู้คน ให้เห็นว่าข้อตกลงระดับโลกหลายอย่างไม่เป็นธรรม หรือไม่ถูกต้อง สมควรได้รับการแก้ไข

ผมเคยเขียนเรื่องกัญชาไว้ที่นี่ บัดนี้นิตยสาร ไทม์ ฉบับวันที่ ๒๒ พ.ย. ๕๓ ลงบทความยาว ๑๐ หน้า เรื่อง How Marijuana Got Mainstreamed แสดงให้เห็นโอกาสที่ประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็น “แหล่งยารักษาโรคให้แก่โลก”   ไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด
เรื่องกัญชาเป็นตัวอย่างที่ดี ว่าหากเราสามารถสร้าง “การเปลี่ยนกระบวนทัศน์” ได้ด้วยตนเอง   เราจะไม่ต้องตามก้นฝรั่ง   ที่ผ่านมาฝรั่งว่าไม่ดีเราก็ว่าไม่ดีตาม ยอมกำหนดให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย   บัดนี้ฝรั่งเริ่มรู้จักคุณประโยชน์ของมัน   และรู้จักใช้ในทางที่เป็นประโยชน์   เราน่าจะไหวตัวเร็ว   เพราะนี่คือจุดได้เปรียบของเรา
ที่จริงฝิ่นก็เป็นยา ฝิ่นเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นต้นสำหรับผลิตมอร์ฟีน สำหรับใช้เป็นยาแก้ปวดที่ราคาถูกและได้ผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต  แต่เราต้องซื้อยาราคาแพงจากต่างประเทศ   ผลิตเองไม่ได้   ทั้งๆ ที่ภาคเหนือของเราเป็นแหล่งที่เหมาะสมยิ่งต่อการปลูกฝิ่น   และเราเคยปลูกมาแล้ว   ทำไมเราไม่สามารถปลูกฝิ่นเพื่อผลิตมอร์ฟีนขายให้แก่โลก ทั้งๆ ที่เทคโนโลยีง่ายมาก   แต่บริษัทฝรั่งผลิตได้
เวลานี้โลกเริ่มเปลี่ยนกระบวนทัศ์การมองกัญชา จากจากยาเสพติด สิ่งเลวร้าย เป็นยา (medicine) เป็นสิ่งดีที่ช่วยให้ชีวิตไม่ทรมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้ปวด
และสำหรับประเทศไทย แทนที่ผู้ป่วยที่ต้องการใช้กัญชาเป็นเวลานาน เพราะเป็นโรคเรื้อรัง จะต้องซื้อ ควรจะปลูกเองในสวนครัว  ทั้งประเทศน่าจะลดค่าใช้จ่ายด้านยาแก้ปวดได้เป็นพันล้านบาทต่อปี
โดยต้องมีการวิจัยครบวงจรเพื่อสร้างการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง ใช้มันเป็นทาสเรา ไม่ใช่คนตกเป็นทาสมัน
อาจต้องวิจัยเพื่อพัฒนากฎหมายขึ้นมาควบคุมการใช้ ไม่ให้มีการใช้ในทางที่ผิด ทำอันตรายแก่ตนเองและผู้อื่น   เราสามารถเริ่มต้นจากการอนุญาตให้ใช้โดยมีการคุมเข้มก่อน อนุญาตให้ใช้เฉพาะผู้ป่วยที่แพทย์สั่งยาให้ใช้กัญชา และมีคำแนะนำวิธีใช้ที่ชัดเจน รวมทั้งบอกอาการไม่พึงประสงค์ที่จะต้องหยุดยาและไปพบแพทย์   ต่อไปเมื่อสังคมรู้จักควบคุมกันเองได้ดีขึ้นก็ค่อยๆ หย่อนการควบคุมลง
เป้าหมายอย่างหนึ่งของการวิจัย คือเพื่อเปลี่ยนกระบวนทัศน์ผู้คนในสังคมเกี่ยวกับกัญชา จากเชิงลบเป็นเชิงบวก ที่มีกติกาและจริยธรรมในการใช้ โดยเราสามารถศึกษาจากประสบการณ์ในประเทศอื่นที่นำหน้าไปแล้ว
เวลานี้โลกมีความรู้เกี่ยวกับกัญชามากมาย ที่จะนำมาใช้กำหนดวิธีใช้ที่ให้ผลดี ลดผลร้าย เรารู้ว่าในกัญชามีสารออกฤทธิ์ ๑๐๘ ชนิด และมีมากน้อยต่างกันในกัญชาต่างสายพันธุ์จากต่างแหล่งผลิต  รวมทั้งออกฤทธิ์ต่างกันในต่างคน  ผู้ใข้แต่ละคนจึงต้องลองเองว่าได้ผลดีที่ต้องการหรือไม่
สารออกฤทธิ์สำคัญ ๒ ตัวคือ THC (tetrahydrocannabinol) กับ CBD (cannabidinol)
ความรู้เรื่องการออกฤทธิ์ของกัญชาต่อคนมีมากมาย   รวมทั้งรู้ว่ามันช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจมีผลช่วยต่อต้านมะเร็ง   แต่ก็มีผลการวิจัยที่บ่งชี้ว่าสารออกฤทธิ์ชนิดหนึ่งในกัญชาคือ acetaldehyde มีฤทธิ์ทำลาย ดีเอ็นเอ ทำให้เดาต่อได้ว่าอาจเป็นต้วก่อมะเร็ง
อาการป่วยที่ใช้กัญชามากที่สุดคือปวดอย่างรุนแรงและเรื้อรัง  ร้อยละ ๙๔ ของการใช้กัญชาเป็นยาในสหรัฐอเมริกา ใช้เพื่อบำบัดอาการปวดรุนแรงนี้
คนที่ใช้กัญชาอย่างต่อเนื่องจะติดเพียงร้อยละ ๑๐  ในขณะที่ตัวเลขนี้เท่ากับ ๑๕ ในสุรา และ ๓๒ ในบุหรี่
เราต้องไม่ลืมว่ากัญชา (ทุกสิ่ง) มีทั้งคุณและโทษ  กัญชามีฤทธิ์ลดความสามารถในการรับรู้ (cognitive impairment)  และมีรายงานว่ามีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคซึมเศร้า และโรคจิตเภท   อาการแทรกซ้อนทางจิตนี้พบบ่อยในผู้ใช้กัญชาที่อายุน้อย สมัยผมเด็กๆ เขาเรียกคนที่สติไม่ดีเมื่อเสพกัญชาว่า "บ้ากัญชา"
ประเทศไทยควรเป็นประเทศที่ผลิตอาหารและยาให้แก่โลกผ่านการเกษตรแผนใหม่ การเกษตรชนิดที่ให้มูลค่าเพิ่มสูง และมีคุณค่าสูงต่อมนุษยชาติ   สิ่งที่มีคุณค่าสูงมักจะมีอันตรายสูงตามมา   เราสามารถเพิ่มคุณค่าลดอันตรายได้โดยการวิจัยสร้างความรู้ให้สังคมรู้จักใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม ลดโทษ   และต้องวิจัยและสื่อสารต่อสังคมไทยและต่อโลก เพื่อเปลี่ยนกระบวนทัศน์ผู้คน   ให้เห็นว่าข้อตกลงระดับโลกหลายอย่างไม่เป็นธรรม หรือไม่ถูกต้อง สมควรได้รับการแก้ไข
ประเทศไทยควรมีสิทธิ์ผลิตยาแก้ปวดที่มีคุณค่ายิ่งออกจำหน่ายแก่โลก คือฝิ่น (มอร์ฟีน) และกัญชา
วิจารณ์ พานิช
๑๔ พ.ย. ๕๓

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/413497

 

วันวิสาขบูชา "คำสอนของพระพุทธเจ้า"

พิมพ์ PDF

ท่านทั้งหลาย.... “จงยังกิจทั้งปวง ..... อันเป็นประโยชน์ของตน ... และประโยชน์ของผู้อื่นให้ ..... บริบูรณ์ .... ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

 

 

.....เป็นที่ทราบของชาวพุทธว่า .... วันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ...ซึ่งปีนี้ ....วันวิสาขบูชา 2556 ตรงกับ วันที่ 24 พฤษภาคม 2556 …..มี ... หตุการณ์อัศจรรย์ 3 ประการ ได้แก่


1. วันวิสาขบูชาเป็นวันที่.....  พระพุทธเจ้าทรง .... ประสูติ




2. วันวิสาขบูชาเป็นวันที่ .... พระพุทธเจ้าทรง.... ตรัสรู้

.... อนุตตรสัมโพธิญาณ ทรงบรรลุ  "อาสวักขญาณ" คือ  รู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจ 4 ซึ่ง เป็นความจริง...อันประเสริฐ 4 ประการ


ทุกข์  = ความจริงว่า ด้วยทุกข์ ....คนทุกคนต่างก็เคยพบกับความทุกข์ หรือประสบปัญหาบางอย่างมาแล้วทั้งนั้น ... คนจนก็เป็นทุกข์ เพราะไม่มีสิ่งที่ตนต้องการ ซึ่งความทุกข์และปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นอาจ มีได้ทุกขณะ ความจริงก็คือ ว่าความทุกข์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ....เราจะต้องไม่ประมาท และพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาทุกเรื่องและ ...หน้าที่ต้องทำในทุกข์  คือ  การกำหนดรู้ในทุกข์ หรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น นะคะ

 

สมุทัย   คือ ความจริงว่าด้วยเหตุแห่งทุกข์ …. ความทุกข์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนนั้นย่อมเกิดจากสาเหตุบางอย่าง มิใช่เกิดขึ้นลอย ๆ ดังพุทธดำรัสว่า  ..“เมื่อสิ่งนี้มี  .... สิ่งนั้นจึงมี เพราะสิ่งนี้เกิด สิ่งนั้นจึงเกิดตัวอย่างเช่น เศรษฐีที่หาเงินได้ยังไม่มากพอตามที่ตนต้องการ อาจเป็น เพราะมีความโลภจนเกินไป ซึ่งสาเหตุของความทุกข์นั้น คือ .... “ความอยากที่เกินพอดี”

 

นิโรธ  คือ ความจริงว่าด้วยความดับทุกข์ .... ความทุกข์นั้นเมื่อเกิดได้ก็ดับได้ .... เมื่อความทุกข์เกิดจากสาเหตุ  .... ถ้าดับสาเหตุนั้นเสีย ...ความทุกข์นั้นก็ย่อมดับไปด้วย .... ดังพุทธดำรัสว่า  “เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นก็ไม่มี ... เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนั้นก็ดับ” .....ความทุกข์หรือปัญหาของคนเรานั้น เมื่อเกิดแล้วก็จะไม่คงอยู่อย่างนั้นเป็น....นิจนิรันดร์ แต่อยู่ในวิสัยที่เราสามารถจะแก้ไขได้ .... ไม่ช้าก็เร็ว ไม่มากก็น้อย และอยู่ที่ว่ามีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขหรือไม่

มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ หรือ หมดปัญหาต่างๆ โดยสิ้นเชิง

 

 

 

3. วันวิสาขบูชา .... เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรง... เสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน ....ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป .... เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืน .....พระพุทธองค์ก็ทรง .....ประทานปัจฉิมโอวาท ...ว่า….. "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่า .... สังขารทั้งหลาย.... ย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ..... ท่านทั้งหลาย....  “จงยังกิจทั้งปวง ..... อันเป็นประโยชน์ของตน ... และประโยชน์ของผู้อื่นให้ ..... บริบูรณ์ .... ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

 

 

 

 

 

ผู้เขียน ได้อ่านประวัติ ของ ...... วันวิสาขบูชา ….แล้วได้ทบทวน ...  แนวคิด ของ GoToKnow ….. ผู้เขียนคิดว่า ..... หลักการ (Principles)  .. แนวคิด (Concept) ....ความต้องการ (Needs)  ... รวมถึง ปรัชญา (Philosophy) .... เป็นไปในทิศทางเดียวกัน  .... อย่าง พอดี พอเหมาะ  นะคะ นั้นคือ  ...



“จงยังกิจทั้งปวง ..... อันเป็นประโยชน์ของตน.... และ...ประโยชน์ของผู้อื่น.... ให้บริบูรณ์...ด้วย...ความไม่ประมาทเถิด"

 

 

 

คัดลอกจาก  บทความของอาจารย์สมศรี นวรัตน์  http://www.gotoknow.org/posts/537044

 

กัญชา

พิมพ์ PDF

บทความเรื่องMarijuana, Not Yet Legal for Californians, Might as Well ในนสพ.The New York Times ทำให้ผมทราบว่าในรัฐวอชิงตันของสรอ.กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป คนทั่วไปสูบกัญชาบนท้องถนนได้เหมือนสูบบุหรี่

คำที่เตะตาผมคือ “recreational use” ใช้กัญชาเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เขาบอกว่ายังไม่ถูกกฎหมายแต่ก็ใช้กันทั่วไป เขาว่าในหลายส่วนของรัฐวอชิงตันที่มีการเปลี่ยนกฎหมายให้กัญชาเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมายไปแล้ว การเสพกัญชาก็เหมือนการดื่มเบียร์

ผมเดาว่าเป็นการเสพกัญชาเพื่อลดความเครียด หรือเพื่อกระตุ้นประสาทให้เกิดความสนุกสนานรื่นเริง ที่ฝรั่งเรียกว่า high  ซึ่งโดยส่วนตัวของผมคงจะไม่เอาด้วย เพราะมีวิธีการพักผ่อนหย่อนใจที่ดีกว่านั้น ราคาถูกกว่านั้นและเป็นธรรมชาติกว่านั้น

นั่นคือการออกกำลังกาย  การนั่งสมาธิภาวนา  การอ่านหนังสือ  การเขียนบล็อก เป็นต้น

สารสร้างสุขมีอยู่ในร่างกายของเราเอง คือเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารคล้ายฝิ่นที่ผลิตในร่างกายของเราเอง และเรากระตุ้นให้ร่างกายสร้างมากขึ้นได้ โดยการออกกำลังแบบแอโรบิก

นอกจากนั้น การกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะและผลไม้บางอย่าง ก็จะช่วยให้ร่างกายมีสารสุขอีกชนิดหนึ่งในระดับสมดุล หรือดี คือสารซีโรโทนินที่มีในกล้วยสัปปรดมะเขือเป็นต้น

เป็นความสุขที่พอเพียงสร้างง่ายราคาถูก

ที่ผมเห็นด้วย และอยากเห็นคือการใช้กัญชาทางด้านช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย ที่เรียกว่า medical use เพื่อช่วยลดความเจ็บป่วยและทรมานโดยเฉพาะผู้ป่วยระยะสุดท้ายของชีวิต

ผมมองว่า recreational use ของกัญชาเป็นสิ่งไม่จำเป็นไม่พอเพียงและจะทำให้กัญชามีราคาแพงทำให้คนเจ็บป่วยเข้าถึงได้ยาก

ผมได้เขียนเรื่องกัญชาไว้ที่นี่

 

วิจารณ์  พานิช

๒๒ ธ.ค. ๕๕

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/516434

 

 

Gotoknow ตำนานแห่งชีวิต

พิมพ์ PDF

 

Gotoknow ตำนานแห่งชีวิต

7 ปีที่แล้ว ได้รับเชิญไปวันเกิดครบรอบปีที่ 1 ของ Gotoknow พร้อมกับการประกาศใช้ชีวิตร่วมกันของหนุ่มสาว ผู้ให้กำเนิด เครือข่ายสังคมไร้สายไร้พรมแดน และ "น้องต้นไม้" ผู้เชื่อมสายใยแห่งความผูกพันธ์ของชีวิตมิ่งมิตรผู้ร่วมสร้างสรรค์


วันเวลาผ่านไป ตำนานแห่งชีวิตเล่มใหญ่ในสังคมไร้สาย ร้อยเรียงเนียนกับทักษะที่จำเป็นของชีวิตใน ศตวรรษที่ 21 เชื่อมโยงใยความสัมพันธ์ให้ ฅ ฅน ทำงาน ได้ ถอดบทเรียน ลิขิต เล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างชุมชนนักปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน จนก้าวขึ้นปีที่ 9

จำได้ว่าตอนที่เริ่มนำ KM มาเติมเต็มงานประจำในรั้วมอดินแดง บ้านเก่าของ JJ กูรู ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช อดีตผู้อำนวยการ สถาบันจัดการความรู้ หรือ สคส ท่านแรก ที่บอกว่า "กูไม่รู้" เป็นท่านที่พูดกับ JJ ว่า "ถ้าจะใช้ KM ควรหัดถอดบทเรียนเขียนบันทึกที่เรียกว่า Diary ด้วยนะ"

จนถึงวันนี้ สมาชิกที่ติด Blog โดยเฉพาะ กลุ่ม UKM หรือ เครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย ที่ตกลงปลงใจจะเข้าร่วมเป็นเครือข่ายได้มีการลงนาม เมือวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๗ ก่อนเกิดสึนามิหนึ่งวัน

พัฒนาการของ G2K มีสมาชิกดั้งเดิม เฉกเช่น ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช อดีต นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล  อาจารย์ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด ผอ.สคส ท่านปัจจุบัน รศ.รังสรรค์ เนียมสนิท คุณเอื้อแห่ง มอดินแดง อาจารย์ ดร.โอ๋ อโณทัย แห่ง มอ ฯลฯ ที่ยังร่วม เล่าประสบการณ์มาอย่างยืนยาวนาน

หลายท่านออกจากเครือข่ายไปด้วยภาระกิจที่จบสิ้นไปพร้อมกับตำแหน่งหน้าที่การงาน

หลายท่านเข้ามาร่วมในเครือข่าย เช่น อ.ดร.วัลลภา คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ อีกหลายๆท่านที่เข้ามาร่วม ถอดบทเรียน เล่าประสบการณ์ และ แลกเปลี่ยนตำนานชีวิตลิขิตลงใน Gotoknow

ย่างปีที่ 9 Gotoknow มีการปรับเปลี่ยนโฉมหน้า ให้ทันสมัย ถูกใจ ฅ ฅน รุ่นใหญ่ และ ฅ ฅน รุ่นใหม่

ปีที่ 9 ก้าวหน้า  นำพาสร้างสรรค์ ร่วมพลัง ถอด ลิขิต เก็บ ตำนานชีวิต มิ่งมิตร Blogger ต่อไปครับ

JJ2013

คัดลอกจาก http://www.gotoknow.org/posts/536989

 


หน้า 481 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5606
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8602553

facebook

Twitter


บทความเก่า