Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

คำนิยมหนังสือ “พลิกฟื้นประเทศไทย”

พิมพ์ PDF

คำนิยม

หนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทย (Repositioning Thailand)

วิจารณ์ พานิช

..........

 

ผมได้รับต้นฉบับหนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทยเพื่อขอให้เขียนคำนิยมในเวลากระชั้นชิด   โดยที่ในตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่าจะเขียนให้ได้หรือไม่    แต่เมื่อพลิกอ่านต้นฉบับแบบผ่านๆ แล้ว ก็ละงานอื่นไว้ก่อน   เร่งอ่านและเขียนคำนิยมให้ด้วยความยินดี   และด้วยความเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยเป็นพลังปัญญาอีกส่วนหนึ่งในการปฏิรูปประเทศไทยอันเป็นที่รักและห่วงใยยิ่งของเรา

น่าชื่นชมท่านผู้เขียน คือ ดรรุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ ที่เขียนหนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทยออกมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ด้วยสาระที่ประเทืองปัญญา และด้วยท่วงทำนองของผู้มีวุฒิภาวะสูง  มีข้อมูล และมีเมตตา

ใคร่ขอเรียนท่านผู้อ่านว่า ผมเห็นด้วยกับสาระในบทนำของหนังสือเล่มนี้ที่วิเคราะห์ความไม่พอใจของประชาชนต่อระบบทักษิณทั้งหมด   และแม้ท่านผู้เขียนจะใช้คำว่า ระบบทักษิณ ไม่ยอมใช้คำว่าระบอบ” เพราะท่านยกคำว่าระบอบไว้ใช้เฉพาะต่อของสูง   ผมก็ได้เคยพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจ ระบอบทักษิณ และบันทึกไว้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมไทยที่www.gotoknow.org/posts/555001

หนังสือเล่มนี้มี ๔ บท เขียนตามหลักอริยสัจสี่ คือทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค   โดยเขียนตามหลักวิทยาศาสตร์ มีข้อมูลหลักฐานอ้างอิงที่มาจากองค์การนานาชาติเป็นหลักใหญ่ ซึ่งผมเชื่อว่า หากดำเนินการได้ตามแนวทางที่เสนอ ประเทศไทยก็จะวัฒนาถาวรสามารถก้าวพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง สู่สภาพประเทศที่พัฒนาแล้ว

เนื้อหาในบทที่ ๑ (ทุกข์)  มีรายละเอียดมากที่สุด มีข้อมูลอ้างอิงมากมาย    น่าตื่นตาตื่นใจ และมีความยาว ๒๐ หน้า จากความยาวทั้งหมดของหนังสือ ๓๙ หน้า    สรุปได้ว่าประเทศไทยล้าหลังลง และทำนายได้ว่าจะยิ่งล้าหลังเพราะคุณภาพการศึกษา ที่อ่อนด้อยอย่างยิ่ง    ประกอบกับปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ในบทที่ ๒ เหตุแห่งทุกข์ ผู้เขียนสรุปไว้ในแผนภาพ เป็นวงจรของปัจจัยหลัก ๗ ประการ ในหน้าที่ ๓๐   และสรุปได้ว่า ต้องปฏิรูปที่คุณภาพของคน บทที่ ๓ แนวทางแก้ปัญหา ผู้เขียนเสนอ ๖ ประเด็นหลัก คือ การศึกษา  การวิจัยและพัฒนา  เศรษฐกิจ  ความยากจน  ทุจริตคอรัปชั่น  และ ความสงบสุขสันติ และบทที่ ๔ การดำเนินการแก้ไขปัญหา ผู้เขียนเสนอให้ดำเนินการ ปฏิรูปประชาชน

ผมขอตั้งข้อสังเกตว่า ในส่วนของบทที่ ๓ และ ๔ มีเนื้อหาน้อย เป็นส่วนที่ผู้เขียนสังเคราะห์นำเสนอในเชิงหลักการ ผมตีความว่า ส่วนทุกข์และสมุทัย เป็นส่วนข้อเท็จจริง จึงมีความเป็นรูปธรรมมาก    แต่ส่วนนิโรธและมรรค สำหรับสังคมในยุคปัจจุบันที่มีความซับซ้อนเหลือประมาณนั้น ไม่สามารถเขียนออกมาได้ทั้งหมด  และไม่สามารถกำหนดออกมาเป็นแผนได้    ต้องทำไปเรียนรู้ไปปรับปรุงไป คือต้องดำเนินการแบบ เคออร์ดิค (http://www.gotoknow.org/posts?tag=เคออร์ดิค)

หนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทยเล่มนี้ มีความจำเพาะตรงที่นำเอาหลักพุทธศาสนามาเป็นประทีปส่องทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการสร้างคนดีสำหรับเป็นกำลังต่อบ้านเมือง(หน้า ๓๘)    และเน้นที่ระบบปัญญาของคนทั้งประเทศ

เนื่องจากสังคมในปัจจุบันมีความซับซ้อนมาก    นอกจากอ่านหนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทยเล่มน้อยนี้แล้ว    ผู้ที่สนใจเรื่องการปฏิรูปสังคมไทยอย่างจริงจังควรได้อ่านหนังสือ แนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ข้อเสนอต่อพรรคการเมืองและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่จัดพิมพ์เผยแพร่โดยคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.)    หนังสือเล่มนี้หนา ๕๐๖ หน้า มีรายละเอียดแง่มุมต่างๆ มากมาย    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเหลื่อมล้ำ หรือความอยุติธรรม ในสังคม สามารถอ่านฉบับย่อหนา ๔๕ หน้าทาง อินเทอร์เน็ตได้ที่ http://pkc.ac.th/ckfinder/userfiles/files/aenwthaangkaarptiruuppraethsaithy_khesntphrrkhkaaremuuengaelaphuumiisiththeluuektang.pdf หนังสือ แนวทางปฏิรูปประเทศไทย ของ คปรจะช่วยเติมเต็มประเด็นเชิงสังคม    ส่วนที่หนังสือ พลิกฟื้นประเทศไทย กล่าวถึงน้อย

สาระสำคัญที่สุดที่เสนอตรงกันโดยหนังสือทั้งสองเล่มนี้คือ การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นจริง เป็นภารกิจร่วมกันของคนทั้งสังคม ต้องดำเนินการระยะยาว เป็นขั้นเป็นตอน และเป็นระบบ

ผมขอขอบคุณ ดรรุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์แทนสังคมไทย ที่มีกุศลเจตนาต่อบ้านเมือง    เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น เพื่อร่วมกัน พลิกฟื้นประเทศไทย

 

 

 

วิจารณ์ พานิช

๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๖

……………………

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2014 เวลา 18:21 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๐๘๑. เรียนรู้จากสี่ดรุณีนักถักทอ

พิมพ์ PDF

วันที่ ๒๐ ธ.ค. ๕๖ ผมไปร่วมประชุมคณะกรรมการกำกับทิศทาง โครงการถักทอเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อยกระดับการเรียนรู้ของจังหวัด ครั้งที่ ๓/๒๕๕๖ ของ สสค.

เหมือนไปเข้าโรงเรียน ทำความเข้าใจสังคมไทย ในระดับจังหวัด    ว่าเราเป็นสังคมแนวดิ่ง สังคมแยกส่วนที่มีหน่วยงานราชการในกรุงเทพ หรือส่วนกลาง เป็นผู้กำหนดและสั่งการ    รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมเรียกว่า เป็นสังคม ไซโล   หรือสังคมแยกส่วน    ส่วนใครส่วนมัน ไม่คุยหรือปรึกษาหารือกัน

โครงการถักทอเครือข่ายในพื้นที่เพื่อยกระดับการเรียนรู้ของจังหวัด ชื่อก็บอกแล้วว่า ต้องการยกระดับการเรียนรู้ของจังหวัด    เน้นการสร้างสรรค์แบบ area-based

สี่ดรุณีไปพบว่า พื้นที่จังหวัดไม่ได้ประสานเป็นหนึ่งเดียว    หน่วยงานในจังหวัดไม่ได้เอาความเจริญก้าวหน้าของจังหวัด เป็นที่ตั้ง    แต่มุ่งทำงานตามคำสั่งของหน่วยเหนือที่กรุงเทพเป็นหลัก

ทำให้ผมได้เรียนรู้และตระหนักว่า ผมเป็นกบฏมาตั้งแต่ยังหนุ่ม และไปทำงานต่างจังหวัดที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์    ผมทำตัวเป็นกบฏต่อหน่วยเหนือที่งี่เง่ามาตลอด    หากเขาสั่งหรือขอข้อมูลแบบงี่เง่า ผมก็จะไม่ส่งหรือไม่ทำตาม    และหากผมมีตำแหน่งสั่งการได้ ผมก็จะสั่งห้ามให้ข้อมูล    เป็นที่เอือมระอาของผู้บริหารที่อยู่เหนือผม    ตอนนี้ลูกกะโล่ของ รัฐบาลรักษาการที่ประชาชนไม่ยอมรับกำลังหาเรื่องกับคนที่เขาตราว่า กบฏ”    น่าจะมาจับผมด้วย เพราะผมเป็นเลือดกบฏแท้ แถมยังบริจาคเงินสนับสนุน กปปสอีกด้วย

เลือดกบฏในสายโลหิตผมมันแรงจริงๆ    ลูกๆ จึงกบฏต่อผมด้วย    คือเขาเป็นตัวของเขาเอง    ไม่ทำตามใจพ่อแม่

กบฏแปลว่าไม่ทำตามคำสั่งของหน่วยเหนือ หรือคนที่ถือว่ามีอำนาจสั่งการ    คนในยุคศตวรรษที่ ๒๑ ควรเป็นกบฏทั้งแผ่นดิน   คือเราทำอะไรร่วมกันเพราะเราเห็นคุณค่าและเป้าหมายร่วมกัน    ไม่ใช่ทำตามคำสั่งแบบไร้ปัญญา หรือแบบเอาใจผู้เผด็จการ

กลับมาที่โคงการถักทอการเรียนรู้ในพื้นที่ ซึ่งในกรณีนี้คือในจังหวัด    สี่ดรุณี (เจือจันทร์ จงสถิตอยู่, ศรีวิการ์ เมฆธวัชชัยกุล, วลัยรัตน์ ศรีอรุณ, และ ปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร) เขารับคำสั่งจาก ศ. นพ. ประเวศ วะสี ให้ดำเนินการทดลองถักทอภาคีในจังหวัด เพื่อยกระดับการศึกษาในจังหวัด    เป็นโครงการของ สสค. ที่มีหนุ่มน้อย ดร. ไกรยส ภัทราวาส เป็นผู้ประสานงาน

สี่ดรุณีเลือกจังหวัดแม่ฮ่องสอน   by Plus-HD-1.5" style="color: #0022cc; text-decoration: underline !important; background-color: transparent !important; border: none !important; display: inline !important; float: none !important; height: auto !important; margin: 0px !important; min-height: 0px !important; min-width: 0px !important; padding: 0px !important; vertical-align: baseline !important; width: auto !important;">กระบี่ และกาญจนบุรี    ได้ข้อเรียนรู้สรุปประโยคเดียวคือ    การถักทองานในพื้นที่จังหวัดมันยากและซับซ้อนกว่าที่คิดมาก    ต้องไม่ดูเบาความยากและซับซ้อนนี้    และต้องมีวิธีขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพื่อถักทอให้ภาคีที่ร่วมงานกันยาก ค่อยๆ เข้ามาร่วมกัน    เพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่

หมายความว่า จะหวังให้กลไกในพื้นที่ถักทอกันเองนั้น    หวังได้บางส่วนเท่านั้น    ตัวโครงการต้องใส่กลไกของการถักทอ จากภายนอกจังหวัดเข้าไปด้วย

แต่ที่ร้ายกว่านั้น หรือสำคัญยิ่งกว่านั้น    โครงการถักทอฯ ต้องหาทางดำเนินการให้หน่วยเหนือในกรุงเทพลด หรือระงับการสั่งการ    เปิดโอกาสให้กลไกในจังหวัดเขาคิดเอง ทดลองพัฒนาเอง    เขาก็จะหันไปหาภาคีร่วมมือในพื้นที่

เป็นการเรียนรู้เรื่องการดำเนินการกระจายอำนาจ    ที่เป็นส่วนสำคัญของการปฏิรูปสังคมไทย

ผมเคยบันทึกเรื่องโครงการถักทอเครือข่ายในพื้นที่ไว้ ที่นี่ และ ที่นี่

 

 

วิจารณ์​ พานิช

๒๒ ธ.ค. ๕๖

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2014 เวลา 08:55 น.
 

นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์ เขียนเรื่องการเมือง

พิมพ์ PDF
แต่ฮันนิมูนระหว่างนักสังคมนิยมหัวรุนแรงกับ “นายทุนใหญ่ใจถึง” มีอยู่ได้ไม่กี่ปี ปัญหาที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะมิชชั่นที่แท้จริงของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” คือการสร้างอำนาจผูกขาดถาวรด้วยการกอบโกยกักตุนทุนทรัพย์ไว้สร้างอำนาจให้ตัวเองและครอบครัวต่อๆกันไปไม่สิ้นสุด

นพ. สันต์ ใจยอดศิลป์ เขียนเรื่องการเมือง

อ่าน ที่นี่

วิจารณ์ พานิช

๒๑ ม.ค. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม 2014 เวลา 00:29 น.
 

แถลงการณ์ของคณบดี ๘ โรงเรียนแพทย์

พิมพ์ PDF
เพื่อยุติความขัดแย้ง และความรุนแรงเฉพาะหน้า เห็นควรให้รัฐบาลรักษาการปัจจุบันเสียสละโดยยุติบทบาท เพื่อให้มีรัฐบาลเฉพาะกาลที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเข้ามาเพื่อแก้ไข ควบคุมสถานการณ์ และจัดการเลือกตั้ง

แถลงการณ์ของคณบดี ๘ โรงเรียนแพทย์

อ่าน ที่นี่ และ ที่นี่ เรียกร้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

วิจารณ์ พานิช

๒๑ ม.ค. ๕๗

 

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 22 มกราคม 2014 เวลา 20:25 น.
 

ปฏิรูปสภาผู้แทนราษฎร

พิมพ์ PDF

ปฏิรูปสภาผู้แทนราษฎร

เพื่อให้เป็นปากเสียงของราษฎร ไม่ใช่ปากเสียงของหัวหน้าพรรคที่เป็นนายจ้าง

อ่านที่ http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/397502   ความเห็นของ ดร. พิจิตต รัตตกุล

วิจารณ์ พานิช

๒๑ ม.ค. ๕๗

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันพุธที่ 22 มกราคม 2014 เวลา 21:06 น.
 


หน้า 395 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3049
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8606401

facebook

Twitter


บทความเก่า