Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

พิมพ์ PDF

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ระบบทุนนิยมได้เข้ามามีอิทธิพลกับการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนชาวไทยเป็นเวลานาน ทำให้วัฒนะธรรมและอารยะธรรมที่ดีงามของคนไทยขาดหายไป จากการดำรงชีวิตแบบเรียบง่ายรู้จักความพอเพียง มีความรักและโอบอ้อมอารีต่อกัน รู้จักให้และช่วยเหลือแบ่งบัน กลายมาเป็นการดำรงชีวิตแบบตัวใครตัวมัน เกิดการแข่งขันและ ชิงดีชิงเด่น เพื่อให้ตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น

นายทุนผู้มีอิทธิพลในการควบคุมนโยบายและบริหารประเทศ ได้นำระบบทุนนิยมมาใช้ในการบริหาร นำหลักการและทฤษฎีในการบริหารธุรกิจมาใช้ในการบริหารประเทศ จึงทำให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่เป็นอยู่ เริ่มตั้งแต่การศึกษา ต้องแข่งขันกันสอบเข้าโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าดีที่สุด เด็กที่ทำคะแนนสอบได้สูงกว่าก็จะมีโอกาสได้เข้าโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าดีที่สุด  เด็กที่ผู้ปกครองร่ำรวย จะได้รับการสอนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อการสอบแข่งขัน ทำให้ได้เปรียบเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถได้รับการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกัน

เยาวชนรุ่นใหม่ต่างแย่งกันเรียนเพื่อให้ได้รับปริญญาตรีเป็นอย่างน้อย สถานบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน เห็นโอกาสในการทำธุรกิจด้านการศึกษาเพราะมีความต้องการสูง ต่างแข่งขันกันทำธุรกิจ โดยมิได้คำนึงถึงคุณภาพของนักศึกษามากกว่าผลกำไรของธุรกิจ ประชาชนต้องลงทุนให้กับการเรียนในสถาบันการศึกษาเพื่อให้ได้รับปริญญาตรี เพื่อแข่งขันในการหางานทำ

นิสิตส่วนมากที่จบปริญญาตรีไม่สามารถเข้าทำงานได้เพราะ เรียนมาไม่ตรงกับคุณสมบัติของแรงงานที่ต้องการ เลือกงานเพราะคิดว่าตัวเองจบปริญญาตรีแล้วควรจะได้งานที่ดี และมีรายได้มากว่านี้ ทำให้นิสิตที่จบออกมาไม่มีงานทำเป็นจำนวนมาก

บริษัทใหญ่ๆที่มีทุนมากมีความได้เปรียบกว่าบริษัทเล็กๆ สามารถเลือกจ้างนิสิตจบใหม่ในระดับหัวกระทิได้ก่อน  บริษัทเล็กๆไม่ค่อยมีโอกาสได้รับนิสิตจบใหม่ในระดับหัวกระทิ ต้องรับผู้ที่มีคุณสมบัติด้อยลงมา นำมาฝึกฝน เมื่อได้คุณภาพที่ดี ก็จะถูกดึงตัวไปอยู่บริษัทที่ใหญ่กว่า

นิสิตที่ตกงานเป็นจำนวนมากต้องหันไปทำธุรกิจส่วนตัว ขอเงินผู้ปกครองมาลงทุน ผู้ปกครองต้องเป็นหนี้เป็นสิน หรือขายสมบัติเก่ามาให้ แต่ในที่สุดก็ไปไม่รอดเพราะขาดประสบการณ์ หรือสายป่านสั้นไป มีจำนวนไม่น้อยที่เรียนต่อปริญญาโท และ ปริญญาเอก ถ้ามีผู้ปกครองที่ร่ำรวยก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าผู้ปกครองไม่ร่ำรวย แต่เพื่ออนาคตของบุตรหลาน ก็ต้องขายสมบัติเก่า หรือไม่ก็ต้องเป็นหนี้

ผู้ที่มีอิทธิพลในการบริหารประเทศชาติส่วนใหญ่ มาจากประชาชน สองกลุ่ม คือ กลุ่มนายทุน และกลุ่มนักวิชาการที่จบการศึกษา ระดับ ปริญญาเอก และ ปริญญาโท จากต่างประเทศ ท่านเหล่านี้ส่วนมากประสบผลสำเร็จเพราะท่านเป็นลูกหลานของผู้มีเงิน หรือ ผู้มีอำนาจ  ท่านมีโอกาสมากกว่าคนอื่นๆได้ไปศึกษาเล่าเรียนต่างประเทศ ได้จดจำทฤษฎีต่างๆของต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นทฤษฎีระบบทุนนิยม ท่านคิดว่าดี และได้นำมาใช้กับประเทศไทย โดยมิได้นำความรู้ที่ท่านได้เล่าเรียนมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย สังคมไทยจึงกลายเป็นสังคมของทุนนิยม มีแต่การแข่งขัน ความไม่รู้จักพอ การทำอะไรที่ได้เปรียบถึงเป็นสิ่งที่ถูกต้อง สังคมจึงสับสนและแตกแยกกันอยู่ในปัจจุบัน เป็นอันตราต่อประเทศชาติอย่างมาก

เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญา ในการดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยมาแต่อดีต รัฐบาลปัจจุบันได้มองเห็นความสำคัญของปรัชญานี้  และได้นำขึ้นใช้เป็นแผนในการบริหารประเทศชาติ พวกเราชาวไทยควรจะยินดีที่ผู้นำรัฐบาลมีความเข้าใจ และตัดสินใจยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการบริหารประเทศ แต่ก็น่าเสียดายที่ยังมีคนไทยเป็นจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าใจความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง และได้พยายามทำให้เกิดการสับสน

                มนุษย์ไม่ได้อยู่ลำพัง เราอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว และสังคม การดำรงชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงถือเป็นรากฐานของการดำรงชีวิต เริ่มที่ตัวเราเองก่อน เราต้องทำความเข้าใจ สถานะของตัวเองว่าเราอยู่ในสถานะใด เราต้องรับผิดชอบใครบ้าง อันดับแรกก็ต้องคิดถึงการดูแลตัวเองก่อน ทำอย่างไรที่จะไม่ให้เราเป็นภาระของผู้อื่น หรือถ้าเรายังอยู่ในการดูแลของพ่อแม่ เรายังไม่สามารถดูแลตัวเองได้เต็มที่ เราก็ต้องรู้จักสถานะของตัวเราว่าเราเป็นผู้ได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ทำอย่างไรที่เราจะแบ่งปันภาระของพ่อแม่ ต้องรู้ว่าหน้าที่หลักของเราคือการเรียนหนังสือเราก็ต้องพยายามเรียนหนังสือให้ดีที่สุด ไม่ให้เป็นภาระของพ่อแม่ และครูบาอาจารย์ ใช้จ่ายน้อยที่สุดเพราะเรายังหาเงินเองไม่ได้  หรือถ้ามีโอกาสหาเงินได้เพื่อนำมาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ในการเลี้ยงดูเรา โดยไม่ทำให้หน้าที่หลักของเราเสียหาย ก็ดำเนินการ ขณะเดียวกันก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกทุกข์ได้ยาก ทำให้ตัวเราเองมีความสุข ไม่ต้องไปคิดอยากได้ของๆคนอื่น พอใจกับสถานะที่เราเป็นอยู่และพยายามศึกษาเรียนรู้และเลือกทำในสิ่งที่มีคุณค่าต่อการดำรงชีวิตที่ยั่งยืนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

                เมื่อเราสำเร็จการศึกษาจนสามารถเข้าทำงานมีรายได้ เราก็ต้องรู้สถานะของตัวเองว่าขณะนี้เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องพึ่งพาตัวเอง และเตรียมการที่จะให้การดูแลผู้อื่นบ้าง เช่น พ่อแม่ต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเรามาจนเราสามารถพึ่งตัวเองได้ เราก็ต้องคิดที่จะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามา  เราต้องมาคิดถึงรายได้และรายจ่ายของเรา ถ้ารายได้เรามีมากพอที่จะเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ เราก็อาจให้พ่อแม่เลิกทำงาน ให้ท่านได้พักผ่อน และเราเป็นผู้เลี้ยงดูท่านเอง หรือถ้าเรายังมีรายได้ไม่เพียงพอก็ต้องพยายามให้พ่อแม่ได้ทำงานน้อยลง และเราก็ให้ค่าเลี้ยงดูท่านพอที่เราจะอยู่ได้ บริหารรายรับรายจ่ายให้เหมาะสม กับสถานะความเป็นจริงของตัวเราเองและผู้ที่อยู่ในความดูแลของเรา ถ้ารายได้ยังน้อยกว่ารายจ่าย ก็ต้องหาวิธีที่จะลดค่าใช้จ่าย หรือเพิ่มรายได้  แต่ถ้ามีรายได้มากกว่ารายจ่าย ก็ต้องวางแผนในการดำรงชีวิตในวันข้างหน้า อาจต้องมีภาระต้องให้การเลี้ยงดูผู้อื่น เช่น การแต่งงาน การมีลูก เป็นต้น ทุกอย่างต้องมีแผน และคำนวณ ราย รับรายจ่ายให้เหมาะสม

                คำว่าพอดี และเหมาะสม เป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่ปฏิบัติยาก เช่นบางครั้งเราจำเป็นต้องเป็นหนี้ เพื่อหวังผลในวันข้างหน้า เช่นการลงทุนเรื่องการศึกษาหาความรู้เพื่อที่จะทำให้เราสามารถหางานใหม่ที่มีรายได้มากกว่าปัจจุบันและคุ้มกับการลงทุน ก็ไม่ได้ถือว่าหลักการนี้ไม่ถูกต้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง  อย่างไรก็ตามแต่ละคนจะมีความพอเพียง และเหตุผลของความเหมาะสมที่แตกต่างกัน  เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่เป็นพื้นฐานของธรรมชาติ  อย่าไปคิดอะไรมากเพียง แค่ทำความเข้าใจเรื่องธรรมชาติและนำความรู้ที่เป็นธรรมชาตินำไปปฏิบัติในการดำรงชีวิตของตัวเราเองเพื่อให้เกิดความสุขกับตัวเองและผู้อยู่รอบข้างโดยไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน

                ผมอยากวิงวอนให้ประชาชนคนไทยทุกคนหันมาให้ความสนใจและศึกษาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำไปปฏิบัติในการดำรงชีวิตประจำวันของทุกคน โดยขอให้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ในทุกหมู่บ้าน และทุกชุมชน โดยขอให้สถานศึกษาเป็นศูนย์กลางของแต่ละชุมชน มีการเรียนรู้และปฏิบัติร่วมกัน  สร้างชุมชนให้เข้มแข็งโดยการ นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน จัดตั้งชมรมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงในแต่ละชุมชน ผมว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยกันทำให้วัฒนะธรรม และอารยะธรรมที่ดีๆของสังคมไทยกลับมาอยู่ในสังคมไทยอีกครั้งหนึ่ง

 

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 18:13 น.
 

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์

พิมพ์ PDF

โครงการ ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.)

 

หลักการและเหตุผล

 ภาคธุรกิจบริการของประเทศไทยเป็นสาขาเศรษฐกิจที่ทวีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน ตามระดับการเพิ่มขึ้นของการพัฒนา ความทันสมัย และการเชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจโลก กระแสโลกาภิวัฒน์ทำให้เกิดการไหลและแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศทั้งในเรื่องของธุรกิจ ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมการค้าและบริการ การแข่งขันในยุคของการค้าแบบไร้พรมแดนนอกจากเน้นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้วก็ยังให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการที่จะเสนอให้กับลูกค้า

 หัวใจของธุรกิจบริการอยู่ที่ทรัพยากรมนุษย์ เพราะปัจจัยมนุษย์มีความสำคัญสูงในการให้บริการ ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องการความรู้และความเชี่ยวชาญเท่านั้น หากยังต้องการความรับผิดชอบ ความสามารถในการบริการ การเอาใจใส่กับความต้องการของลูกค้า และการมีคุณธรรมและจริยธรรม ผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการหรือบุคลากรในภาคบริการจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาและพัฒนาเพื่อสร้างทัศนคติที่ดี เพิ่มความรู้ และทักษะให้ตนเอง โดยมีเป้าหมายที่การสร้างให้เกิด จิตใจและคุณธรรมในการให้บริการ(Service mind) และความเป็นเลิศของบุคลากรในทุกระดับเพื่อเป็นปัจจัยนำไปสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการ และการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจของตนเองอย่างยั่งยืน โดยมีผลลัพธ์สุดท้ายที่การสร้างรายได้และความก้าวหน้าในอาชีพอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีให้กับบุคลากรทุกระดับในภาคบริการ

 ปัจจุบันแม้ว่าจะมีการจัดตั้งองค์กรขึ้นมากมายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ แต่ส่วนใหญ่มักดำเนินการในเชิงการค้าและมุ่งเน้นไปที่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและมีการให้บริการอบรมพัฒนาแบบเฉพาะด้านมากกว่าพัฒนามนุษย์แบบองค์รวม เนื่องจากงานบริการเป็นงานที่ต้องมีปฎิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างใกล้ชิดจึงต้องการการพัฒนาแบบบูรณาการ ภายใต้เงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นจึงไม่เป็นที่น่าปลาดใจว่าทำไมยังมีบุคลากรในภาคบริการอีกมากยังไม่ได้รับการพัฒนา

 ดังนั้น ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) ซึ่งประกอบด้วยคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การท่องเที่ยว ธุรกิจบริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งการบริหารจัดการด้านอื่น ซึ่งมีอุดมการณ์และเป้าหมายในแนวทางเดียวกัน ได้ตระหนักถึงช่องว่างดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกันจัดตั้งศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) ขึ้นเพื่อผลักดันและดำเนินการให้เกิดการพัฒนามนุษย์ในภาคบริการอย่างเป็นองค์รวม

 

พันธกิจของศูนย์

1. ส่งเสริม สนับสนุน และผลักดัน ให้มีการสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการของประเทศไทยโดยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคบริการแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง

2. เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคบริการ

3. ดำเนินการและจัดให้มีบริการอบรมบุคลากร หรือให้คำปรึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แก่สถานประกอบการ บุคลากรในองค์กรต่างๆ และบุคคลทั่วไปที่อยู่ในภาคบริการ

4. ดำเนินการศึกษา วิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้สำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาคบริการ

 

กรอบการดำเนินงานและการจัดองค์กร

 

 

 


 

แผนการดำเนินงานเบื้องต้น

 

1

ก่อตั้ง และจัดโครงสร้างองค์กร

§ จัดตั้งทีมทำงานโครงการ และแต่งตั้งคณะทำงาน

§ กำหนดโครงสร้างองค์กร

2

พัฒนา และจัดหาทรัพยากร

§ รับสมาชิก

§ จัดหาวิทยากร และพัฒนาหลักสูตร

§ จัดหาเงินทุนและผู้สนับสนุนทางการเงิน

3

พัฒนาฐานความรู้ และเผยแพร่

§ พัฒนาฐานความรู้เกี่ยวกับ ความต้องการพัฒนากำลังคนภาคบริการ ของประเทศ

§ จัดทำเอกสารแนะนำศูนย์ฯ

§ ดำเนินการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์

§ สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับ HRD ของภาคบริการ และนำเสนอต่อองค์กร สถาบัน ต่างๆในวาระโอกาสที่เหมาะสม

4

พัฒนา และขยายเครือข่าย

§ Roundtable Discussion เรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภาคบริการในอีก 10 ปีข้างหน้า

§ จัดการประชุมนานาชาติ

§ มีกิจกรรมร่วมกับ บุคคลากรภาคธุรกิจบริการ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการ ตัวแทนสมาคมภาคธุรกิจ ตัวแทนสภาหอการค้า ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่นตัวแทนหน่วยงานที่ให้ทุน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถานศึกษา นักวิชาการ

5

จัดให้มีบริการด้านการอบรม และให้คำปรึกษา

§ จัดอบรมนำร่อง อย่างต่อเนื่อง

 

 

 

 

 

 

 

กิจกรรมของศูนย์ฯ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว 

1. จัดสัมมนาให้ผู้ประกอบการ เรื่อง คน ทางรอดของธุรกิจโรงแรม SMEs”

2. จัดสัมมนา เจาะลึกกลยุทธ์การทำตลาดแนวใหม่สำหรับโรงแรม SMEs”

3. ประสานงานผู้เชี่ยวชาญเพื่อร่วม โครงการพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ส่งสัญญาณดาวเทียมเพื่อติดตามสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์

4. ประสานงานผู้เชี่ยวชาญเพื่อพัฒนา ระบบฐานข้อมูลศูนย์ศิลป์ให้ภัทราวดีเธียร์เตอร์

 

กิจกรรมของศูนย์ฯ ที่กำลังจะดำเนินการ

1. จัดเสวนาโต๊ะกลม คลินิกผู้ประกอบการ SME” 

2. รับปรึกษาการบริหารงานธุรกิจ โรงแรม SME

3. จัดทำระบบ ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ (Expert Database)

4. จัดประชุมสัมมนาระดับประเทศ และนานาชาติ

แหล่งเงินทุนสนับสนุน

 ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) ไม่ใช่องค์กรที่จะแสวงหากำไร เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ แต่โครงการจะดำเนินการได้ต้องมีรายได้ แหล่งรายได้ ศบม. ประกอบด้วย

1. จากการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์การ NGOs อื่น ในรูปเงินสนับสนุนหรือเงินให้ยืม

2. จากผู้ประกอบการเป็นรายนิตุคคลหรือองค์กรร่วมของผู้ประกอบการให้การสนับสนุนโครงการในรูปเงินสนับสนุนหรือเงินให้ยืม

3. จากค่าสมาชิก

4. จากการรับบริจาค

5. จากการสนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

สำนักงานและสถานที่ตั้ง 

 ในเบื้องต้น ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) ได้รับความร่วมมือ และการอนุเคราะห์จาก ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ให้ใช้สถานที่ของมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ เป็นสำนักงานชั่วคราวเพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งตั้งอยู่

เลขที่ 388 ชั้น 7 เอส พี อาคารบี ถนนพหลโยธิน

แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ 10400

โทรศัพท์. 0-2619-0512-3, 0-2273-0180 โทรสาร. 0-2273-0181

 

ประธานกรรมการศูนย์ฯ

ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ (เลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ) 

 

เลขาธิการและผู้ประสานงานศูนย์ฯ

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) กำหนดให้มีผู้ประสานงานเพื่อให้การดำเนินการก่อตั้ง และกิจกรรมต่าง ๆ ของศูนย์ฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

เลขาธิการศูนย์ฯ

โทรศัพท์ 02-9548250 , 02-9546029, 089-1381950

 E-mail : อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน

 

 

 

 

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 22:14 น.
 

กรณีศึกษาโรงแรมแม่น้ำ

พิมพ์ PDF

กรณีศึกษาโรงแรมแม่น้ำ

            เจ้าของโรงแรมแม่น้ำเป็นคนจีน อาชีพเดิมขายท่อประปา แต่ภรรยามีที่ดินมากเป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ทำเลทองย่านเพลินจิต ก่อนสร้างโรงแรมแม่น้ำ เป็นเจ้าของโรงแรม RS Hotel บนถนนหลานหลวง ( Royal Princess ในปัจจุบัน) โรงแรมแม่น้ำถือว่าเป็นโรงแรมที่ใช้ผู้จัดการเปลืองที่สุด ผู้จัดการที่คัดเลือกมาล้วนเป็นผู้บริหารคนไทยที่เป็นมือหนึ่งของประเทศไทยทุกคน มีทั้งผู้จัดการและที่ปรึกษา  อำนาจทุกอย่างอยู่ที่พ่อ ถึงแม้นจะมีลูกช่วยบริหารอยู่หลายคนด้วยกัน ผู้จัดการทั่วไปแต่ละคนไม่มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานทั้งหมด ส่วนมากจะให้มาดูแลเรื่องการตลาด

            ผมได้รับการติดต่อให้มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย แทบไม่มีอำนาจอะไร เพราะต้องขึ้นกับทีมบริหารของผู้จัดการทั่วไป เจ้าของรับผมมาเพื่อใช้ผมเป็นอาวุธต่อสู้กับผู้บริหาร ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นที่ไม่ลงลอยกัน สาเหตุที่ผมรับงานนี้เพราะ ผู้จัดการทั่วไปในขณะนั้นเป็นผู้ที่เก่งมาก มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ ผมชอบที่จะเป็นลูกน้องคนเก่งๆจะได้เรียนรู้ ส่วนเหตุผลที่สองเนื่องจากผมเป็นคนของเจ้าของ จึงคิดว่าผมจะสามารถเป็นตัวเชื่อมและทำให้ผู้บริหารและเจ้าของมีความเข้าใจกันมากขึ้น

            ผมเข้าไปรายงานตัวกับผู้จัดการทั่วไปแต่ผู้จัดการทั่วไปไม่รับผม พูดกับผมอย่างไม่ใยดีว่า เจ้าของรับคุณมาโดยไม่ได้ผ่านผม คุณก็ไปรายงานตัวกับเจ้าของ การทำงานของผมอึดอัดมาก เพราะ ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรได้เลย เพราะถูกทีมงานของผู้จัดการทั่วไปกันไว้หมด เมื่อรายงานเจ้าของ เจ้าของก็ให้ทำตามเขาไปและให้รายงาน  ผมถูกกำหนดให้ทำงานในสิ่งที่ผมไม่ชอบ  มีหน้าที่คอยหาความผิดของคนอื่นและมารายงาน ผมไม่กลัวที่จะต้องรบหรือสู้กับทีมงานของผู้จัดการทั่วไป แต่ผมไม่ชอบที่จะต้องลอบแทงคนจากด้านหลัง ทั้งสองฝ่ายต่างเล่มเกมกันตลอดเวลา ผู้จัดการเป็นคนแข็งไม่ยอมเจ้าของ ส่วนเจ้าของก็พยายามดึงมือขวาของผู้จัดการทั่วไปให้มาเป็นพวกของตัว มือขวาของผู้จัดการทั่วไปก็สบายไป เพราะเป็นผู้ที่ได้ลูกเดียว พูดยกยอตัวเอง มีผลประโยชน์แอบแฝง ส่วนผมเมื่อผู้จัดการทั่วไปไม่พูดกับผม ผมก็ต้องไปทำงานอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมือขวาผู้จัดการทั่วไป  ผมสามารถอยู่อย่างสบายได้ เล่นบทสบายๆเออออไปกับเขาไม่ต้องไปสนใจอะไร ผมรู้ทันเจ้าของและรู้ทันมือขวาของผู้จัดการทั่วไป  ผมไม่นับถือเจ้าของ และก็ไม่นับถือมือขวาผู้จัดการทั่วไป แต่ผมนับถือผู้จัดการทั่วไป เป็นคนที่มีจุดยืน และเป็นคนตรง ผมชอบทำงานกับคนแบบนี้มากกว่า แต่เสียดายที่ผู้จัดการทั่วไปไม่รับผมเป็นลูกน้องจึงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้จากท่าน

            ในที่สุดผมตัดสินใจลาออกจากโรงแรมแม่น้ำ  ได้เข้าไปลาและเล่าความในใจของผมให้กับผู้จัดการทั่วไปทราบ ทำให้ผู้จัดการทั่วไปเข้าใจผมดีขึ้น  ผมมีความภาคภูมิใจที่ผมไม่เคยลอบกัดใคร และยอมรับว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับคนที่ไม่มีความจริงใจได้ ผมแน่ใจว่าผมเป็นคนดี ที่ไม่ทรยศหักหลังใคร ทำงานให้ใครก็ทำอย่างเต็มที ผมเสียโอกาสถึง 2 ครั้งที่ไม่เชื่อคุณกมลา เสียใจกับการกระทำของคุณทิพย์ และการใส่ร้ายของเพื่อนและลูกน้อง แต่ผมก็มีโชคที่ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงแรมจากผู้เชียวชาญ โรงแรมแม่น้ำที่เดียวที่ผมไม่ได้อะไรติดตัวมาเลย เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้ใครได้เลย

 

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 18:09 น.
 

กรณีศึกษาโรงแรมปอยหลวง

พิมพ์ PDF

กรณีศึกษาโรงแรมปอยหลวง

            ระหว่างที่ผมทำงานให้กับโรงแรมสยามเบย์วิว และโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย คุณวิมล ผู้จัดการโรงแรมลิเบอร์ตี้ สะพานควาย (เคยไปทัวร์ต่างประเทศที่มีผมเป็นหัวหน้าทัวร์) ติดต่อให้ผมไปพบเจ้านายคุณวิมล เพื่อเชิญผมไปบริหารโรงแรมปอยหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่

            คุณทิพย์เจ้านายคุณวิมล ไม่พอใจการบริหารจัดการของผู้จัดการทั่วไปโรงแรมปอยหลวง แต่ไม่กล้าปลดผู้จัดการทั่วไป จึงต้องการจ้างผมในตำแหน่งที่สูงกว่าผู้จัดการทั่วไปเพื่อให้ไปบีบให้ผู้จัดการทั่วไปลาออกไปเอง หลังจากปรึกษาหารือในรายละเอียดต่างๆ ผมตกลงรับทำงานให้คุณทิพย์ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร

            คุณกมลา เจ้าของโรงแรมสยามเบย์วิวและโรงแรมสยามเบย์ชอร์ไม่อนุมัติการลาออกของผม แต่ผมไม่ได้ฟังการทักท้วงของท่าน และได้ไปทำงานที่โรงแรมปอยหลวง ทำให้คุณกมลาไม่พอใจตามที่ผมได้เคยกล่าวไว้ในบทความก่อนนี้

            ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารสูงสุดของโรงแรม จนบางคนเข้าใจว่าผมเป็นหุ้นส่วน ผมเข้าไปบริหารงานเพียงคนเดียวโดยไม่มีทีมเข้าไปช่วยเช่นเดียวกับผู้บริหารคนอื่นๆ คุณจิณ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมปอยหลวง เป็นผู้จัดการที่เก่งมาก เคยทำงานเป็น Front Office Manager ที่โรงแรม Hyatt Rama Hotel มาก่อน คุณจิณเป็นผู้จัดการคนไทยที่มีฝีมือระดับแนวหน้า เพียงแต่มีปัญหาเรื่องความกระล่อนและหาผลประโยชน์เข้าตัวทำให้โรงแรมเสียรายได้ที่ควรจะได้ นอกจากคุณจิณก็มีคุณหมู หลานชายของเจ้าของ ที่คุมเรื่องการจัดซื้อ และมีอิทธิพลในแผนก F&B คุณจิณและคุณหมู เป็นผู้ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการโรงแรมปอยหลวง มีการแบ่งผลประโยชน์อย่างลงตัว

            ผมไม่เคยคิดที่จะเอาคนออกและนำคนของผมเข้าไปแทนที่ ผมเสนอให้จ้างคุณจิณไว้อย่างเดิม เพราะเป็นคนเดียวที่มีความรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงแรม ถือว่าเป็นผู้จัดการที่คุ้มค่าเงินเดือนเพราะคุณทิพย์ให้เงินเดือนคุณจิณน้อมมาก น้อยกว่าความสามารถของคุณจิณ ทำให้คุณจิณหารายได้อื่นทดแทน การบริหารงานของผมทำให้คุณจิณและคุณหมูไม่สามารถทำสิ่งหลายๆอย่างที่เคยทำ   การบริหารงานของผมทำให้โรงแรมฟื้นตัว สร้างชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ มีรายได้ที่ดีขึ้น ลดช่องว่างการสูญเสีย พนักงานที่ดีๆมีขวัญและกำลังใจทำงาน ผมได้คุยกับคุณจิณอย่างลูกผู้ชาย ว่าผมไม่เอาคุณจิณ์ออก และไม่คิดที่จะแย่งตำแหน่งคุณจิณ  ผมขอเวลาแค่ 2 ปีเพื่อช่วยคุณจิณบริหารโรงแรม ขอให้เรามาร่วมมือกันบริหารโรงแรมอย่าหักหลังผมและแทงผมข้างหลัง ผมให้ความนับถือคุณจิณ และเรียกว่าพี่ทุกคำ

            ผมทำงานหนักมาก ดูแลเรื่องการตลาด (ที่ทำให้คุณจิณเสียประโยชน์) การบริหารจัดการที่ทำให้หัวหน้างานหลายๆคนไม่สบายเหมือนเดิม   ผมทำงานคนเดียวโดยไม่มีลูกน้องที่สนิทและเชื่อใจได้ เข้าไปช่วยลูกน้องเก็บโต๊ะและเก็บจานในบางครั้งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการให้บริการลูกค้า  อยู่กับพนักงานทุกแผนกและทุกระดับ เข้าใจปัญหาและช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกน้อง ทำให้หัวหน้าบางคนไม่พอใจ เพราะเขาไม่เคยให้กับลูกน้องแบบที่ผมทำ บางคนดูถูกหาว่าผมทำตัวไม่เหมือนกับผู้จัดการ หัวหน้าหลายคนไม่ได้ทำตัวเป็นหัวหน้าที่ดีผมก็ต้องเข้าไปอบรมสั่งสอนหลายๆคนก็ไม่พอใจ ยอมรับว่าผมแรงมาก ยังไม่เข้าใจการบริหารจัดการคน ใช้อำนาจ และบางครั้งก็ใช้อารมณ์ แต่ความที่ผมเป็นคนทำงานและมีความจริงใจจึงทำให้งานออกมาดี เจ้าของพอใจ ลูกน้องระดับล่างพอใจ

            ลูกค้าชาวฝรั่งเศส ขอพบผู้จัดการเพื่อต่อว่าการบริการของโรงแรม  ผมได้เข้าไปพบและยอมรับผิดในสิ่งที่เขาต่อว่า คุยไปคุยมาเกิดถูกคอ และทราบว่าเขาเป็นผู้เชียวชาญด้านโรงแรม ผมจึงขอให้เขาอยู่พักที่โรงแรมสักหนึ่งเดือนและช่วยสอนผมเรื่องการบริหารจัดการโรงแรม ผมได้เรียนรู้การบริหารจัดการโรงแรมตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญโรงแรมระดับสากล เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ผมได้เรียนรู้จากการบริหารงานจริงในแต่ละวันเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เราได้ร่วมการวางแผนการตลาดและการปรับปรุงโรงแรมให้เป็นสากลและยกระดับโรงแรมให้ดีขึ้น

            โรงแรมปอยหลวงถูกสร้างขึ้นเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งของเชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่ดีลงทุนสูงและถูกวางให้เป็นโรงแรมสำหรับการจัดสัมมนาระดับชาติ ผู้จัดการที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือคุณฟ้าลั่น โรงแรมนี้มีประวัติไม่ค่อยจะดีนักในด้านการบริหารจัดการ ผู้บริหารเบอร์หนึ่งมักจะถูกลูกน้องโค่น เชื่อกันว่าเป็นเพราะโรงแรมสร้างค่อมคูเมือง บางกระแสก็ว่าช่วงพิธีเปิดโรงแรม ได้นิมนต์พระที่อาวุโสน้อยขึ้นเป็นประธานพิธีโรงแรมปอยหลวงไม่ประสบผลสำเร็จด้านธุรกิจ มีการขายทอดกันมาจนถึงกลุ่มของคุณทิพย์ กลุ่มคุณทิพย์เป็นนักธุรกิจคนจีนที่มีธุรกิจหลายแห่งมีทั้งโรงงาน และโรงแรมหลายแห่ง เริ่มธุรกิจโรงแรมจากโรงแรมม่านรูด การบริหารงานของผมสามารถทำให้ธุรกิจโรงแรมดีขึ้น สร้างภาพพจน์ที่ดี มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นและสร้างความพอใจให้กับเจ้าของในระดับหนึ่ง  ลูกน้องยังไม่นิ่ง มีคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลา คุณจิณไม่จริงใจกับผมตามที่ได้ตกลง เผลอเมื่อใดเป็นได้เรื่อง ผมได้ตรวจสอบและพบการสั่งชื่อเนื้ออย่างดีจากต่างประเทศและเก็บไว้ในห้องแช่แข็งโดยไม่นำออกมาขาย และมีอะไรอีกมากมาย ไม่มีระบบในการควบคุม ทำให้เกิดการรั่วไหล

            ช่วงที่ผมออกจากโรงแรมสยามเบย์วิวและโรงแรมสยามเบย์ชอร์ได้ฝากเพื่อนเข้าทำงานกับคุณกมลาหนึ่งคน หลังจากนั้นเพื่อคนนี้ได้มาบ่นกับผมว่าไม่สามารถทนทำงานกับคุณกมลาได้ ขอให้ผมรับเขาไปช่วยทำงานกับผม ตอนแรกผมปฏิเสธเพราะไม่ต้องการเอาพวกของตัวเองเข้าไป ต้องการจะไปสร้างทีมขึ้นมาใหม่จากคนเก่าของโรงแรมนั้น แต่ทนการอ้อนวอนไม่ได้ จึงตกลงไปให้ไปช่วยดูแลเรื่อง F&B ที่โรงแรม เพื่อนคนนี้ขอให้ผมพาไปพบเจ้าของโรงแรม ผมพาซื่อนำไปพบคุณทิพย์ ระหว่างที่คุยกับคุณทิพย์ เพื่อนคนนี้ได้เรียนคุณทิพย์ว่าเขาอยากมาช่วยผมแต่คุณกมลาไม่ให้มา ขอให้ผมโทรไปขอคุณกมลา ด้วยความไม่รู้ประสีประสาของผมทำให้ผมโทรหาคุณกมลาต่อหน้าคุณทิพย์ คุณกมลาดีใจมากที่ผมโทรไปหา เพราะตอนที่ผมลาออกมาจากโรงแรมสยามเบย์วิว คุณกมลาไม่อนุมัติ แต่ผมหนี้มาเลยไม่มีโอกาสได้ลาคุณกมลาและไม่เคยติดต่อท่านอีกเลย หลังจากผมเอ่ยปากขอเพื่อนของผมมาทำงานกับผมที่ปอยหลวง คุณกมลาโกรธผมมากและบอกว่าผมโง่ ผมไม่มีวันทันเพื่อนผู้หญิงของผมคนนี้ แทนที่ผมจะฟังท่าน กับคิดว่าท่านหวงคน จึงพยายามอธิบายว่าคุณกมลามีคนช่วยหลายคนแต่ผมไม่มีคนช่วยขอให้ช่วยผมด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมเสียโอกาสกับคุณกมลา หลังจากนั้นท่านโกรธและไม่สนใจผมอีกเลย

            ผมทำงานอยู่ที่กรุงเทพ 7-10 วันเพื่อดูแลเรื่องการตลาด แวะเยี่ยมเอเยน และที่เหลืออยู่โรงแรม ไม่เคยมีวันหยุด ใช้รถทัวร์เที่ยวกลางคืนเป็นพาหนะเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้โรงแรม เพื่อนผู้หญิงของผมนั่งเครื่องบินไปรับงานจากผมที่เชียงใหม่โดยมีเจ้าของโรงแรมคุณทิพย์นั่งเครื่องบินไปส่ง  ระหว่างทานข้าว จึงทราบว่าเพื่อนของผมสามารถพูดให้คุณทิพย์เปลี่ยนแผนการปรับปรุงโรงแรมจากแผนเดิมที่ได้พิจารณาอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ผมโกรธมากที่เพื่อนเสนอโครงการอะไรไปโดยที่ตัวเองยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสจริง ผมจึงว่าไป แต่คุณทิพย์กับเห็นว่าผมไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงที่เขากำลังจะมาช่วยผม เป็นครั้งแรกที่คุณทิพย์แสดงความไม่พอใจผม หลังจากนั้น เพื่อนของผมก็ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา สั่งให้ทำอะไรก็ไม่ทำอ้างคุณทิพย์ตลอดเวลา ผมจึงสั่งพนักงานให้ออกจดหมายพักงานเพื่อนของผม แต่ไม่มีใครปฏิบัติตามคำสั่งผม  ภายหลังจึงมาทราบว่า คุณจิณผู้จัดการโทรไปหาคุณทิพย์ และคุณทิพย์ให้เพื่อนของผมทำงานตามปกติและคุณทิพย์จะเดินทางมาที่โรงแรมเพื่อจัดการด้วยตัวเอง เมื่อผมทราบเรื่องจึงโทรไปหาคุณทิพย์ แต่คุณทิพย์ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากผม ผมจึงโทรหาคุณวิมล จึงทราบเรื่องทั้งหมด ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณวิมลทราบ และฝากคุณวิมลให้ช่วยเรียนคุณทิพย์ว่าไม่ต้องมาที่โรงแรมปล่อยให้ผมจัดการเอง ถ้าคุณทิพย์มาผมก็จะลาออก

            คุณทิพย์มาที่โรงแรม และฟังรายงานจากหัวหน้าแผนกต่างๆ ก่อนที่จะฟังผม หลังจากนั้นจึงเรียกผมเข้าประชุมร่วมกับหัวหน้าแผนกอื่นๆ โดยไม่มีการพูดกับผมเป็นการส่วนตัวก่อน คุณทิพย์ได้กล่าวหาผมว่าบ้าอำนาจสั่งการผิดๆตามที่ได้รับฟังจากคนอื่นๆ ผมได้อธิบายและชี้แจ้งเหตุผลความเป็นมาต่างที่ทำให้ผมสั่งการให้ลูกน้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและถูกต้องเพื่อประโยชน์ของโรงแรมทั้งสิ้น ไม่ได้สั่งการผิดๆและไม่ได้บ้าอำนาจ  เมื่อผมชี้แจงเหตุผลจนไม่มีผู้ใดโต้แย้งได้ ผมจึงได้ประกาศลาออก  ด้วยเหตุผลว่าผมไม่มีความสามารถ คุณทิพย์ไม่ยอมและหาว่าผมน้อยใจ เมื่อทุกอย่างเป็นที่เข้าใจแล้วก็น่าจะจบกันไป ในเมื่อทุกคนหวังดีกับโรงแรมก็ขอให้ช่วยกันทำงานต่อไป แต่ผมไม่ยินยอม เพราะถือว่าผมบกพร่องที่ไม่สามารถให้เจ้านายไว้ใจและปล่อยให้ผมบริหารงานเองได้ จึงต้องพิจารราตัวเอง คุณทิพย์พยายามพูดให้ผมคิดให้ดี และถามว่าผมนับถือใครมากที่สุด ผมย้อนสวนไปทันทีว่าคุณวิมล (ลูกน้องคุณทิพย์ ผู้ที่แนะนำผมให้กับคุณทิพย์) คุณทิพย์ถึงกับนิ่ง และผมก็เดินออกไปทันที และออกจากโรงแรมเพื่อไปจองตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

27 พ.ย.2553

           

           

           

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 18:09 น.
 

กรณีศึกษาบริษัทเถกิงทัวร์

พิมพ์ PDF

กรณีศึกษาบริษัทเถกิงทัวร์

คุณเถกิง สวัสดิพันธ์ เจ้าของบริษัทเถกิงทัวร์ เคยเป็นครูสอนหนังสือ และเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ทัวร์รอแยล ในยุคแรก ได้สร้างชื่อเสียงและเรียกลูกค้าให้กับทัวร์รอแยล คุณเถกิงทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ออกทัวร์เอง มีความสามารถในการฝึกลูกน้องให้เป็นคนเก่งได้เป็นจำนวนมาก ผมเองก็ได้รับการฝึกจากคุณเถกิง หลังจากลูกชายและลูกสาวของเจ้าของบริษัททัวร์รอแยล จบการศึกษาจากต่างประเทศ ได้เข้ามาบริหารบริษัททัวร์รอแยล มีการเปลี่ยนแผนธุรกิจ เปลี่ยนกลุ่มลูกค้า จากเดิมที่เน้นการจัดนำเที่ยวในประเทศและต่างประเทศให้กับลูกค้าคนไทยโดยตรง  เปลี่ยนเป็นเน้นการเป็นตัวแทนขายตั๋วเครื่องบิน Air Cargo   Inbound Tour Operator  เจ้าของลงทุนขยายบริษัท รับผู้บริหารระดับสูงจากสายการบินและโรงแรม หลายตำแหน่ง ทำให้บทบาทของคุณเถกิงลดน้อยลง คุณเถกิงจึงลาออกจากบริษัททัวร์รอแยล และไปเปิดบริษัทเถกิงทัวร์  อยู่ที่เพลินจิต

คุณเถกิงได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากลูกค้าเก่าในการเปิดบริษัท  สมัยนั้น บริษัทชั้นนำที่ทำทัวร์ให้คนไทยเที่ยว แบ่งออกเป็น 2 ตลาด ตลาดคนไทยจีน  ได้แก่บริษัท รุ่งทรัพทย์ทัวร์  และบริษัทเฮงเชียงทัวร์  สำหรับตลาดคนไทยแท้ ได้แก่ President Tour และ Tour Royale หลังจากคุณเถกิง แยกตัวไปเปิด เถกิงทัวร์ เถกิงทัวร์ก็เข้ามาแทนที่ Tour Royal  สำหรับ Tour Royale เมื่อเสียลูกค้าเดิมให้กับเถกิงทัวร์ ก็ไม่ได้ทำให้บริษัทเล็กลง แต่กลับขยายใหญ่โตมากขึ้นกว่าเดิม ได้เปลี่ยนไปจับตลาดอื่นแทน ไปแข่งขันกับ World Travel Services  Diethelm Travel  และ Siam Express ซึ่งเป็นตลาด Inter (ระดับนานาชาติ) ให้บริการด้านตั๋วเครื่องบิน Air Cargo, Inbound Tour Operator, Outbound Tour Operator

บริษัทเถกิงทัวร์เน้นการทำทัวร์คนไทยเที่ยวในประเทศ และเที่ยวต่างประเทศ รับนักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เข้าเป็นพนักงานมัคุเทศก์ ผมเองได้เข้าไปช่วยงานคุณเถกิงในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย ลูกค้าเก่าๆของผมด้านตั๋วเครื่องบินติดตามผมไปเป็นลูกค้าของเถกิงทัวร์  ผมอยู่กับเถกิงทัวร์ได้ปีกว่าๆก็ถูก Tour Royale เรียกตัวกลับ เถกิงทัวร์เจริญก้าวหน้าและขยายกิจการอย่างมั่นคง สามารถซื้อตึกของตัวเองที่ ศูนย์การค้าเมโทร และมีรถทัวร์ของตัวเองเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้พยายามทำ  Inbound Tour Operator แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ บริษัทเถกิงทัวร์สร้างมัคุเทศก์เก่งๆหลายคน มีการแต่งตั้งผู้จัดการหลายคนในแต่ละยุค หุ้นส่วนและผู้จัดการสมัยเริ่มก่อตั้ง รวมทั้งน้องชายคุณเถกิงเอง ได้แยกตัวไปเปิดบริษัทท่องเที่ยว และเปิดทำธุรกิจโรงแรมที่เกาะสมุย  ส่วนมากไม่ประสบผลสำเร็จ ต้องเลิกล้มกิจการไปหลายราย ที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ก็ไม่โดดเด่นมากนัก คุณเถกิงเองระยะหลังก็ไปทุ่มกับการซื้อขายที่ดิน และดูแลเรื่องบริษัทท่องเที่ยวน้อยลง  ได้ข่าวว่ามีปัญหาบ้าง ขณะนี้ลูกสาวเข้ามาช่วยบริหาร อย่างไรก็ตามบริษัทเถกิงทัวร์ก็ยังเป็นบริษัทท่องเที่ยวแนวหน้าของประเทศไทยอยู่จนทุกวันนี้ ผมไม่ได้ติดตามข่าวคราวของบริษัทเถกิงทัวร์เป็นเวลานานแล้ว เนื่องจากภารกิจที่ทำอยู่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ เถกิงทัวร์ ประกอบกับ เวลาว่างระหว่างผมและคุณเถกิงไม่ค่อยตรงกัน ส่วนมากจะได้รับข่าวคราวของคุณเถกิงผ่านลูกน้องเก่าๆที่ได้ดิบได้ดีเพราะคุณเถกิง เล่าให้ฟัง บริษัทท่องเที่ยวทั่วๆไปมักจะรุ่งเรื่องแค่ generation เดียว พอมาถึง generation ที่ 2 จะไม่โดดเด่นเหมือนสมัยผู้ก่อตั้ง และมักจะจบลงที่ generation ที่สอง

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

14 พฤศจิกายน

 

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 13 กันยายน 2011 เวลา 18:10 น.
 


หน้า 538 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5607
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8607144

facebook

Twitter


บทความเก่า