ผมเพิ่งรู้จัก โรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ เมื่อ ผศ. ดร. พิเชษฐ์ พินิจ แห่ง มจธ. ส่งร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ ของโครงการวิจัยเรื่อง การจัดการเรียนการสอนในแนว Project-Based Learning สำหรับโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ความยาว ๓๓๕ หน้า มาให้ผมให้ความเห็น ซึ่งเมื่ออ่านแล้วก็ทำให้ผมได้ความรู้มาก ขอขอบคุณ ดร. พิเชษฐ์ ไว้ ณ ที่นี้
นี่คือนวัตกรรมหลายชั้นในวงการศึกษาไทย ได้แก่ (๑) การเรียนควบสายอาชีพกับสายสามัญ คือ ปวช. ควบ ม. ปลาย (๒) เพื่อผลิตนวัตกร นักเทคโนโลยี หรือนักประดิษฐ์ (๓) เรียนฟรี รวมทั้งกินอยู่ฟรีในหอพักด้วย (บังคับให้ต้องอยู่หอพัก) เพื่อดึงดูดเด็กที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (๔) เรียนแบบ Project-Based Learning (PjBL)
โครงการ โรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ ในขณะนี้มี ๕ แห่ง รับนักเรียนแห่งละ ๓๐ คน ได้แก่
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) ตั้งอยู่ที่อำเภอพานทอง สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรม
- วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี จ. นครราชสีมา สาขาวิชาช่างอุตสาหกรรม
- วิทยาลัยเทคนิคพังงา สาขาวิชาเทคโนโลยีการท่องเที่ยว
- วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน สาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตร
- วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร
การริเริ่มมีมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ โดยความร่วมมือของ สวทน. กับ สอศ. แต่ในรายงานไม่ได้ระบุชัดว่า เริ่มรับนักเรียนในปีใด แต่ก็เดาได้ว่าดำเนินการมาหลายปีแล้ว เพราะนักเรียนของชลบุรีจบแล้ว ๓ รุ่น และอีก ๔ แห่งจบไปแล้ว ๑ รุ่น งานวิจัยชิ้นนี้เป็นทั้งการประเมินผล (ถอดบทเรียน) การดำเนินการ และการเสนอแนะแนวทางปรับปรุง
หัวใจอยู่ที่การจัดการเรียนรู้แบบใหม่ เป็น PjBL ที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบกลับหน้ามือ เป็นหลังมือสำหรับครู ที่คุ้นเคยกับการสอนแบบถ่ายทอดความรู้ (LBT – Lecture-Based Teaching) มาเป็นเวลานาน จึงเดาได้เลย ว่าการจัดการเรียนรู้แบบใหม่นี้ปัญหาอยู่ที่ครู และอยู่ที่การจัดการ การเปลี่ยนแปลง
ทีมวิจัยทำงานทบทวนวรรณกรรมเรื่อง PjBL มาดีมาก แถมยังไปดูงานการเรียนรู้แบบนี้ที่ฝรั่งเศส และเยอรมัน
หลักการที่สำคัญของการศึกษาแห่งศตวรรษที่ ๒๑ คือการเป็นระบบเปิด หรือระบบที่ยืดหยุ่น คือเส้นแบ่งระหว่างการศึกษา ต่างสายบาง หรือจางลงไป พูดง่ายๆ คือเรียนข้ามสายได้ คนที่เรียนสายอาชีวะ เมื่อไปพบว่าตนเองมีความถนัด และชอบงานด้านวิชาการ หรือวิชาชีพ ก็เปลี่ยนสายได้ หรือเปลี่ยนกลับทาง จากสายวิชาการไปสู่สายอาชีวะ ก็ได้ โรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์น่าจะเป็นฐานของความยืดหยุ่นนี้
ความยืดหยุ่นนี้ สามารถยกระดับขึ้นได้ เมื่อผสมผสาน CBL (Competency-Based Learning) เข้ากับ PjBL ซึ่งจะทำให้นักเรียนบางคนเรียนหลักสูตร ๓ ปี จบภายใน ๒ ปี หรือ ๒ ปีครึ่ง อาจใช้เวลาที่เหลือ ทำหน้าที่ “ผู้ช่วยครู” หรือทำงาน หรือเป็นผู้ช่วยนักวิจัย หรือไปทำงานรับใช้สังคม หรืออื่นๆ ซึ่งก็คือการเรียนรู้ในมิติอื่นนั่นเอง จุดสำคัญคือ สังคมไทยมีการทำงานจริง ให้เยาวชนได้เรียนรู้ในทุกด้าน และมี การประเมินผลการเรียนรู้ เอาไปเป็นหน่วยกิตเพื่อการเรียนต่อ หรือเพื่อรับใบรับรอง เช่นประกาศนียบัตรหรือ ปริญญา ได้ โดยที่มีกระบวนการทำให้ผลการประเมินนั้น แม่นยำ เชื่อถือได้ โดยมีระบบตรวจสอบความแม่นยำของการประเมินนั้น อย่างต่อเนื่อง
วิจารณ์ พานิช
๑๖ เม.ย. ๕๗