Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

บทเรียนการดำเนินชีวิตผู้สูงวัย (อายุ ๖๓ ย่าง ๖๔) ตอน ๗ : เพื่อน คู่ครอง ชีวิตครอบครัว

พิมพ์ PDF

ผู้เขียนมีเพื่อนมากเนื่องจากเข้ากับคนง่ายไม่เลือกและแบ่งชนชั้น แต่มีเพื่อนสนิทจริงๆไม่มากนัก เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนจริงใจ และไม่ปกปิด คบกันไม่กี่ครั้งก็จะทราบว่าใครจริงใจกับผู้เขียนบ้าง ผู้เขียนไม่เคยเอาเปรียบใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบผู้เขียนเช่นกัน ผู้เขียนยินดีและเต็มใจทำทุกอย่างให้กับคนทุกคนที่เห็นคุณค่า ดูเหมือนคนโง่ ปล่อยให้คนอื่นเอาเปรียบ

ผู้เขียนมีครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อรับราชการ ตำแหน่งสุดท้ายเป็นข้าราชการพลเรือนชั้นพิเศษ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน มีพี่น้องด้วยกัน ๔ คน ผู้เขียนเป็นลูกชายคนโต คุณพ่อและคุณแม่ไม่ได้รับมรดกตกทอดจากคุณปู่ คุณตา คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูก ๔ คนเป็นอย่างดี ไม่ได้น้อยหน้าใคร ถึงแม้นเงินเดือนคุณพ่อจะไม่พอกับการเลี้ยงภรรยาและลูกๆอีก ๔ คน ต้องกู้หนี้นอกระบบ เสียดอกเบี้ยง สูง บางครั้งผู้เขียนและน้องๆต้องหยุดเรียนเนื่องจากคุณพ่อไม่มีเงินให้ไปโรงเรียน โชคดีที่คุณพ่อมีน้องสาว ๒ คน และน้องชาย ๑ คน ที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เขียน ถึงแม้นจะไม่สามารถช่วยด้านเงินทองได้มากนัก แต่ก็ช่วยเรื่องสถานที่ศึกษาเล่าเรียนให้กับผู้เขียนและน้องๆอีก ๓ คน โดยเฉพาะตัวผู้เขียนเองได้รับการช่วยเหลือจากอาเขย จนสามารถได้เข้าเรียนวิชาชีพที่วิทยานุกรณ์วิทยาลัย และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ จนทำให้ผู้เขียนมีความรู้จนสามารถเข้าทำงานที่มั่นคงได้ คุณอาเป็นผู้ฝากให้ผู้เขียนเข้าทำงานครั้งแรกขณะที่ผู้เขียนยังศึกษาอยู่ในปีที่สอง

เมื่อผู้เขียนมีรายได้ ทำให้สถานะทางครอบครัวดีขึ้น รายได้ของคุณพ่อและผู้เขียนพอเพียงกับรายจ่ายของครอบครัว ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินกับใครอีก สามารถใช้หนี้สินที่คุณพ่อยืมมาได้หมดสิ้น ผู้เขียนซื้อรถยนต์ และซื้อบ้านเป็นของตัวเอง นำคุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆอีกสามคนมาอยู่รวมกันในบ้านหลังแรกของครอบครัว น้องๆทุกคนเรียนจบ และมีงานทำ

ระหว่างที่ผู้เขียนทำงานอยู่ที่บริษัททัวร์รอแยล เพื่อนรุ่นน้องของผู้เขียนได้ให้แฟนเขามาพบผู้เขียนเพื่อช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินและทำวีซ่าเพื่อเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกากับเพื่อนผู้เขียน ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้ผู้เขียนรักกับแฟนเพื่อน ถือว่าเป็นคู่รักคนแรกของผู้เขียน (ไม่ใช่แฟนในช่วยเด็กๆ) เรารักกันมาก ผู้เขียนรู้สึกผิดที่ไปแย่งแฟนเพื่อน แต่ก็ห้ามใจไม่ได้  ผู้เขียนให้ผู้หญิงเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกใครแน่ ผู้หญิงยืนยันว่าเลือกผู้เขียน แต่จะขอเดินทางไปเรียนต่อตามที่ได้วางแผนไว้ แต่ผู้เขียนไม่เห็นด้วยเพราะถ้าให้ไปอยู่กับแฟนเก่า ผู้เขียนคงรอเก้อแน่ๆ จึงขอให้ผู้หญิงยกเลิกการเดินทางถ้าเลือกผู้เขียน แต่ถ้าจะเดินทางไปตามที่ตั้งใจไว้ก็ถือว่าเลือกแฟนเก่า ผู้หญิงตัดสินใจเดินทาง เราจึงขาดการติดต่อกัน ผู้เขียนเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงคนนั้น โดยเฉพาะได้ทราบภายหลังว่าผู้หญิงตัดสินใจยกเลิกการเดินทางที่สนามบิน และไม่ได้แจ้งให้ผู้เขียนทราบ (ไม่ใช่เนื้อคู่)

ผู้เขียนมีความพอใจผู้หญิงอีกสองคน คนแรกเป็นลูกสาวพ่อค้าระดับประเทศ ยังเป็นนักศึกษาและเข้ามาพบผู้เขียนเพื่อสอบถามเรื่องตั๋วเครื่องบิน และได้มีการนัดให้ไปพบคุณพ่อของนักศึกษาที่บ้านเพื่อจัดทำรายละเอียดการเดินทาง ในที่สุดกลายเป็นลูกค้าที่สำคัญของผู้เขียน ผู้เขียนสนิทสนมกับครอบครัวลูกค้ารายนี้มาก คุณพ่อคุณแม่ของนักศึกษา ได้มอบหมายให้ผู้เขียนพาลูกสาวและลูกชายคนเล็กไปเที่ยวในที่ต่างๆ วันลอยกระทง ผู้เขียนได้พานักศึกษาและน้องชายของนักศึกษาไปลงเรือเที่ยวลอยกระทง  จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แทนที่ผู้เขียนจะลอยกระทงพร้อมกับนักศึกษาที่ไปกับผู้เขียน แต่ผู้เขียนกับไปลอยกระทงพร้อมกับผู้หญิงต่างชาติ (ผู้หญิงต่างชาติคนนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อชีวิตผู้เขียนในอนาคต) ผู้เขียนมีความพอใจกับนักศึกษาคนนี้ และเชื่อว่านักศึกษาคนนี้และครอบครัวมีความพอใจผู้เขียน และคิดไปถึงแผนแต่งงานในอนาคต

ระยะเวลาไล่เรี่ยกันผู้เขียนก็มีความสนิทสนมกับลูกสาวคนมีเงินอีกคนหนึ่ง รายนี้เป็นลูกทัวร์ไปต่างประเทศโดยผู้เขียนเป็นหัวหน้าทัวร์ หลังจากนั้นก็มีความสนิทสนมกันมาก รายนี้แทบไม่ปล่อยให้ผุ้เขียนไปสังสรรค์กับใครเลย แม่ลูกมา รับผู้เขียนไปทานข้าวกลางวันทุกวัน มื้อเย็นเลิกงานก็ไปทานข้าวที่บ้านของแม่ลูกคู่นี้ เป็นเหตุให้ผู้เขียนเริ่มห่างเหินกับนักศึกษา  เมื่อผู้เขียนเดินทางไปต่างประเทศแม่ลูกคู่นี้ก็ตามผู้เขียนไปเกือยทุกครั้ง ได้มีการพาไปพบกับนายธนาคาร และไปไหนๆด้วยกัน จนคนรู้จักต่างคิดกันว่าผู้เขียนเป็นว่าที่ลูกเขย อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

ผู้เขียนได้พบกันผู้หญิงต่างชาติที่บังเอิญผู้เขียนได้เคยลอยกระทงพร้อมกับเธอเมื่อ ๑-๒ ปีก่อนหน้านี้ เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากการผิดหวังเรื่องคู่รัก และมีปัญหากับครอบครัว  แต่มีคนช่วยไว้ได้  เมื่อพบผู้เขียน ผู้เขียนได้พยายามให้ความช่วยเหลือและปลอบใจ ให้คิดถึงอนาคต และรับปากว่ามีสิ่งไหนที่ผู้เขียนช่วยได้ขอให้บอกผู้เขียนยินดีให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน หางาน หรือเรื่องอื่นๆ ระหว่างนั้นผู้เขียนจะต้องไปพบคุณพ่อที่ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดอุดร เธอขอไปด้วย เมื่อไปถึงอุดร ผู้เขียนให้เธอพักที่โรงแรม ส่วนผู้เขียนไปพักที่บ้านคุณพ่อ ระหว่างที่จะไปบ้านคุณพ่อเธอร้องไห้ และถามว่าที่สัญญาจะช่วยเหลือเธอนั้นเป็นความจริงแค่ไหน ผู้เขียนได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงขอให้บอกมา เธอจึงบอกว่าให้แต่งงานกับเธอ

ผู้เขียนเป็นคนที่รักษาคำมั่นสัญญามาก  เมื่อสัญญาอะไรกับใครจะต้องทำตามสัญญา เคยโกรธคุณแม่ที่ไม่ทำตามสัญญาจึงได้กระโดดรถจนเกือบเสียชีวิต เมื่อเจอเช่นนี้ได้คิดทบทวน และเปรียบเทียบระหว่างผู้หญิงสองคน คนหนึ่งเป็นคนมีเงิน มีการศึกษา มีความพร้อมทุกอย่างสามารถหาผู้ชายดีๆที่มีความพร้อมมากกว่าผู้เขียน ส่วนอีกคนหนึ่งหมดหวังทุกอย่าง ต้องการความช่วยเหลือ ถ้าผู้เขียนปฎิเสธ ก็เท่ากับผู้เขียนได้แต่พูดเมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือจริงๆก็ไม่ได้ เธอก็จะผิดหวังเหมือนเดิม และอาจคิดฆ่าตัวตายอีก ผู้เขียนจึงตอบตกลง และเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนต้องโกหกคุณพ่อคุณแม่สร้างเรื่องว่ารู้จักกันมานานและจะแต่งงานกัน แต่ผู้ใหญ่ไม่เต็มใจเท่าไหร่แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร ในที่สุดจึงได้จดทะเบียน แต่ไม่ได้ทำพิธีแต่งงานเพราะฝ่ายหญิงตัวคนเดียวไม่มีญาติ พี่น้องในประเทศไทย ส่วนพ่อแม่ก็อยู่ต่างประเทศ และรู้สึกว่าจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกัน

ครอบครัวเริ่มมีปัญหาเงินที่ผู้เขียนให้กับคุณแม่เริ่มให้น้อยลง เพราะต้องไปให้ภรรยา และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ภรรยาเป็นผู้ที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบนักการฑูต ทราบภายหลังว่า พ่อเคยเป็นเจ้าหน้าที่สถานฑูตไต้หวันในประเทศไทย  ใช้จ่ายเงินฟุ้มเฟือย เที่ยวกลางคืน มีปัญหากับคุณแม่และน้องๆ ผู้เขียนกลายเป็นลูกที่ทำร้ายจิตใจคุณแม่ เนื่องจากความเป็นคนตรง ระหว่างภรรยา และแม่ ใครผิดผู้เขียนก็ว่ากล่าวคนนั้น โดยไม่ทันคิดว่าผู้เขียนไม่มีสิทธิ์ว่ากล่าวคุณแม่ เป็นบาปอย่างมาก ครอบครัวที่มีความสุขเริ่มมีแต่ปัญหา ทะเลาะและโต้เถียงกันตลอดเวลา ความเป็นคนตรงและพูดโดยไม่คิดยิ่งทำให้ความบาดหมางระหว่าคุณแม่และภรรยาเลวร้ายเพิ่มขึ้นทุกวัน ในที่สุดก็มีลูกสาว หลังจากมีลูกภรรยาได้ทำงานโรงแรม โดยคุณแม่และน้องสาวช่วยเลี้ยงลูกให้ เมื่อลูกสาวอายุได้สอง-สามปี ผู้เขียนเริ่มคิดถึงอนาคต ผู้เขียนคิดว่าจะช่วยฉุดและดึงภรรยาขึ้นมาได้ แต่ความจริงภรรยาเป็นผู้ฉุดผู้เขียนให้ตกต่ำลง จึงยอมรับความจริงและตัดสินใจเลิกกับภรรยาอย่างเด็ดขาด หลังจากที่เคยเลิกกันและกลับมาคืนดีกันมาแล้ว ๓-๔ ครั้ง เมื่อเลิกกันจริงๆลูกสาวอยู่ในความดูแลของผู้เขียน โดยมีคุณแม่และน้องสาวเป็นผู้เลี้ยงดู ส่วนอดีตภรรยาไปมีสามีใหม่ มีลูกอีก ๒-๓ คน และก็ได้เลิกลากับสามีใหม่อีกเช่นกัน หลังจากเลิกกับผู้เขียน อดีตภรรยามีชีวิตที่ตกต่ำกว่าเดิมมาก และไม่น่าเชื่อว่าคุณแม่ที่เคยเกลียดกลับ เป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลืออและเป็นห่วงเป็นใย เนื่องจากเธอไม่มีที่พึ่ง และผู้เขียนเองไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเพราะกลัวจะพัวพันกันอีก สุดท้ายเธอได้คืนดีกับพ่อที่ไต้หวันและกลับไปอยู่ไต้หวัน สุดท้ายทราบข่าวจากลูกสาวว่าได้เสียชีวิตไปแล้ว

หลังจากหย่าล้างกับภรรยา แม่ของลูกสาวที่ผู้เขียนคิดว่าจะได้แต่งงานด้วย ได้พูดกับผู้เขียนว่าเขาพร้อมที่จะให้ผู้เขียนอยู่กับลูกสาวเขา แต่ขอให้ผู้เขียนอย่านำลูกสาวมาด้วย ไม่ใช่ว่ารังเกียจลูกสาว แต่เขาทำใจไม่ได้ และลูกสาวก็มีคุณแม่และน้องสาวผู้เขียนช่วยดูแลอยู่ ผู้เขียนปฎิเสธทันที เพราะลูกสาวขาดแม่ไปคนหนึ่งแล้วจะให้ขาดพ่ออีกคน คงเป็นไปไม่ได้ ผู้เขียนไม่สามารถเลือกหาความสุขของตัวเองโดยไม่คิดถึงความสุขของลูกสาวได้ หลังจากนั้นผู้เขียนก็ไม่ได้ติดต่อสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖

 

บทเรียนการดำเนินชีวิตผู้สูงวัย (อายุ ๖๓ ย่าง ๖๔) ตอน ๖ : งานโรงแรม

พิมพ์ PDF

หลังจากผ่านประสบการณ์ด้านการขายตั๋วเครื่องบิน และงานด้านการท่องเที่ยว มาหลายบริษัท สุดท้ายจบลงที่บริษัททรูทัวร์ (ตามที่ได้เขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้) เป็นเหตุให้ผู้เขียนเปลี่ยนอาชีพจากการบริหารบริษัทท่องเที่ยว ไปเป็นบริหารโรงแรม คุณณรงค์ เสาวลักษณ์ ลูกค้าซื้อตั๋วเครื่องบินของผู้เขียน ได้เสนองานผู้จัดการฝ่ายขายที่โรงแรมสยามเบย์วิว โรงแรมใหม่ที่กำลังจะเปิด ที่พัทยา ผู้เขียนยังไม่เคยทำงานโรงแรมมาก่อน การที่คุณณรงค์เสนองานนี้ให้กับผู้เขียนถือว่าเป็นโชคและโอกาสของผู้เขียน เนื่องจากผู้เขียนเข้ารับงานในตำแหน่งนี้ก่อนที่โรงแรมจะเปิด ทำให้ผู้เขียนมีโอกาสเรียนรู้งานโรงแรม โดยมีคุณณรงค์เป็นทั้งโค้ช และผู้สอนงานโรงแรมให้กับผู้เขียน ผู้เขียนทำงานด้วยใจ และมีความขยัน คิดถึงผลประโยชน์ของโรงแรมเป็นหลัก  ทำให้ผู้เขียนสามารถทำงานในหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากเจ้านาย และเพื่อนร่วมงาน จากการเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมสยามเบย์วิวเพียงโรงแรมเดียว ก็ได้เพิ่มความรับผิดชอบให้เป็นผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมสยามเบย์ชอร์อีกโรงแรมหนึ่ง ผู้เขียนทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด จันทร์-ศุกร์ ทำงานที่สำนักงานกรุงเทพ เสาร์-อาทิตย์ ประชุม และไปรับรองลูกค้า ที่โรงแรม หลังจากคุณณรงค์ เจ้านายโดยตรงของผู้เขียนหมดสัญญาการบริหารโรงแรมกับเจ้าของโรงแรม และไม่มีการต่อสัญญา ผู้เขียนก็ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแต่มีความรับผิดชอบสูงขึ้น และขึ้นตรงต่อเจ้าของโรงแรมโดยตรง (หลังจากหมดสัญญากับคุณณรงค์ เจ้าของลงมาบริหารเองโดยไม่จ้างคนใหม่มาแทนคุณณรงค์)   ผู้เขียนได้ลาออกจากโรงแรมสยามเบย์วิว และโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายขาย ไปรับตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารที่โรงแรมปอยหลวง ถือว่าเป็นการกระโดด ข้ามตำแหน่งอย่างมาก  ผู้เขียนสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ผู้เขียนถูกเพื่อนหักหลัง และจากการหูเบาของเจ้านายใหม่ ทำให้ผู้เขียนตัดสินใจลาออกจากโรงแรมปอยหลวง โดยที่ยังไม่ได้ติดต่อหางานใหม่ เมื่อออกมาโดยไม่มีแผน จึงทำให้รีบหางานและได้ไปทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมแม่น้ำ ที่นี่ไม่มีผลงานใดๆ เนื่องจากผู้เขียนไม่มีโอกาสได้แสดงผลงาน ผู้เขียนถูกรับเข้าไปทำงานด้วยเหตุผลทางการเมืองระหว่างเจ้าของและผู้บริหาร หลังจากทำงานได้ประมาณ หนึ่งปี จึงได้ลาออกไป ทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Golden Tour South ที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนที่จะกลับไปเป็นผู้อำนวยการฝ่านขายและการตลาดโรงแรมใบหยกสวีท หลังจากบริหารงานที่โรงแรมใบหยกสวีท ผู้เขียนได้รับการติดต่อจากอดีตผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่งที่ออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง ให้ไปเริ่มเป็นผู้ช่วย CEO เพื่อเป็น CEO  บริษัทที่ซื้อลิขสิทธิ์ แฟนชายส์ จากประเทศอเมริกา ระหว่างการศึกษางาน ได้รับความกดดันสูงมาก เมื่อเริ่มเข้าใจธุรกิจและจับทางได้ เจ้าของมีปัญหาเรื่องเงิน จึงจะขอเปลี่ยนสัญญากับผู้เขียน จะขอให้ลดเงินเดือน และให้ไปบริหารสำนักงานสาขา โดยมีเงินแบ่งปันจากผลกำไรให้ แต่ผู้เขียนไม่ยินยอมเพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก ผู้เขียนจึงหันกลับไปทำงานเป็นผู้จัดการทั่วไปบริษัทโกลเด้นทัวร์ แผนกทัวร์ต่างประเทศ แต่อยู่ได้ไม่นานเจ้าของมีปัญหาด้านการเงิน จึงได้ออกไปเป็นผู้บริหารบริษัทเฟอรีไลน์มหาชน ซึ่งภายหลังมีปัญหาเรื่องเรื่อล่ม และฟองสบู่แตก เจ้าของปล่อยให้บริษัทล้มละลาย แต่ยังสามารถทำธุรกิจต่อได้โดยใช้วิธีการเปิดบริษัทใหม่ขึ้นมา เป็นบริษัทย่อยๆ และสามารถดำเนินกิจการต่อมาได้ด้วยดี ระหว่างที่รื้อโครงสร้างบริษัท ผู้เขียนก็เจอปัญหามากมาย เกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน แต่โชคก็ยังช่วยทำให้เอาตัวรอดมาได้ และในที่สุดได้รับมอบหมายให้ไปบริหารโรงแรม พี พี เนเจอรัลรีสอร์ท จากขาดทุน ผู้เขียนสามารถทำให้บริษัทมีกำไรได้ในปีเดียว ปรับแผนนิดหน่อย และก็สามารถบริหารงานทำกำไรเพิ่มทุกปี ยกเว้นปีหลังจากที่เกิด    สึนามิเพียงปีเดียว ผู้เขียนบริหารงานที่โรงแรม พี พี เนเจอรัลรีสอร์ท ควบคู่กับ โรงแรม พี พี เอราวัณ ที่เกาะ พี พี จังหวัดกระบี่  เป็นเวลานานกว่า ๑๕ ปี มีความสุขกับการทำงานมาก ทำงานเหมือนเป็นเจ้าของเอง ฝ่ายเจ้าของก็พยายามพูดว่าผู้เขียนเหมือนเป็นคนในครอบครัวของเขา และผู้เขียนได้รับการแบ่งหุ้นของบริษัทด้วย แต่ไม่เคยทราบว่าจำนวนกี่หุ้นและมีมูลค่าเท่าใด ช่วงที่ผู้เขียนอายุ ๕๘- ๕๙ ปี เริ่มมีปัญหาเรื่องการบริหารงานภายใน เป็นปัญหาภายในของเจ้าของ ทำให้ผู้เขียนเริ่มไม่สนุกกับการทำงาน ขณะเดียวกันได้เริ่มทำงานให้สังคม ช่วงที่กำลังเบื่อ มีคนรู้จักแนะนำให้ไปทำงานกับสามีของเขา มีการคุยและตกลงกันตามเงื่อนไขที่ต่อรองจนลงตัว แต่เมื่อผู้เขียนเข้าไปทำงานด้วย ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ผู้เขียนจึงตัดสินใจลาออก และไม่คิดจะทำงานประจำให้กับใครอีกแล้ว โดยคิดแบบเข้าข้างตัวเอง และเชื่อมั่นตัวเองมากว่า ถ้าผู้เขียนรับงานเป็นที่ปรึกษา ให้กับโรงแรมหรือบริษัททัวร์ สัก ๓ ราย คิดค่าที่ปรึกษา รายละ ๒ หมื่นบาท ผู้เขียนก็สามารถอยู่ได้ และสามารถทำงานให้กับสังคมได้ด้วย แต่เรื่องไม่ง่ายและเป็นอย่างที่คิด (โปรดติดตามตอนต่อไป)

 

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

8 กรกฎาคม 2556

เพื่อให้สามารถติดตามและทราบรายละเอียดในการทำงานของผู้เขียนในแต่ละสถานประกอบการ ขอให้อ่านบทความที่ผู้เขียนเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้  ได้แก่

บทความกรณีศึกษาโรงแรมสยามเบย์วิว โรงแรมสยามเบย์ชอร์

บทความกรณีศึกษา โรงแรมปอยหลวง

บทความกรณีศึกษา โรงแรมแม่น้ำ

ทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรม

เรียนรู้เรื่องการเงิน ในธุรกิจโรงแรม

เรียนรู้เรื่องการเงิน กรณีศึกษา Golden Tour

 

กรณีศึกษาโรงแรมสยามเบย์วิว โรงแรมสยามเบย์ชอร์

พิมพ์ PDF

กรณีศึกษา สำหรับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ

กรณีศึกษา โรงแรมสยามเบย์วิว และ โรงแรมสยสมเบย์ชอร์

คุณณรงค์ เสาวลักษณ์ (อดีตลูกค้าซื้อตั๋วเครื่องบิน) ชวนผมทำงานตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายโรงแรมสยามเบย์วิว พัทยา  คุณณรงค์ เป็นผู้อำนวยการบริหาร และคุณกมลา สุโกศล เป็นเจ้าของโรงแรม เป็นโอกาสและโชคของผมที่ได้รับการเสนองานในตำแหน่งนี้  ทั้งๆที่ผมยังไม่เคยทำงานโรงแรมมาก่อน  ผมมีความชำนาญด้านการขายตั๋วเครื่องบิน ลูกค้าส่วนมากที่ซื้อตั๋วเครื่องบินกับผมเป็นนักธุรกิจ เดินทางหลายประเทศ และมีกำหนดช่วงเวลาการเดินทางที่จำกัด จึงต้องมีผู้เชียวชาญจัดตารางการเดินทางให้ ผมเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญในข่วงนั้น ลูกค้าของผมจะเรียกใช้บริการกับผมทุกครั้งที่มีการเดินทาง  และผมไม่เคยทำให้ลูกค้าคนใดผิดหวัง  ทำให้คุณณรงค์ ไว้ใจและเสนอตำแหน่งนี้ให้ผม

ผมเข้าทำงานที่โรงแรมสยามเบย์วิวตั้งแต่โรงแรมยังสร้างไม่เสร็จ  ทำให้ผมมีเวลาเรียนรู้งานด้านโรงแรมอย่างเต็มที่ มีโอกาสร่วมเปิดโรงแรม ถือว่าเป็นงานที่ยากที่สุดของการบริหารโรงแรม คุณณรงค์ ให้โอกาสผมได้เรียนรู้  ให้คำปรึกษาและแนะนำสั่งสอนผมอย่างใกล้ชิด ประกอบกับผมเป็นคนขยันและเรียนรู้ตลอดเวลา ทำให้ผมไปได้เร็ว สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงเกินเป้าหมาย  ผมทำงานโดยไม่มีวันหยุด วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ผมทำงานที่กรุงเทพ สำนักงานอยู่ที่สยามสแควร์ วันเสาร์เช้า จะเดินทางไปพัทยา เพื่อประชุมร่วมกับหัวหน้าแผนกต่างๆโดยมีคุณณรงค์ เป็นประธานการประชุม (การเข้าร่วมประชุมทำให้ผมได้เรียนรู้เร็วขึ้น) นอกจากการประชุม ผมยังเข้าไปศึกษางานของแต่ละแผนก  ทำให้ทราบปัญหา และความพร้อมของแต่ละส่วน ทำให้รู้จุดอ่อนจุดแข็ง เพื่อนำไปใช้ในการพิจารณาเลือกลูกค้าที่เหมาะสมกับการบริการของเรา ผมใช้เวลาในคืนวันเสาร์ เลี้ยงรับรองลูกค้า และจะเดินทางกลับกรุงเทพบ่ายวันอาทิตย์

หลังจากทำงานได้ไม่นานก็ได้รับมอบหมายให้ดูแลโรงแรมสยามเบย์ชอร์ อีกโรงแรมหนึ่ง ต้องทำงานหนักขึ้นแต่ก็สนุกกับงาน และโชคดีที่ ผู้จัดการสำนักงานที่กรุงเทพของทั้งสองโรงแรม เก่งมาก จบจากประเทศอังกฤษทั้งคู่ ช่วยเหลืองานเอกสาร และดูแลควบคุมการรับจองห้องพักได้ดีเยี่ยม  ทำให้แบ่งเบาภาระผมได้อย่างมาก คุณณรงค์ เจ้านายของผมเก่งมาก เป็น 1ใน 5 ของผู้บริหารโรงแรมที่เป็นคนไทยที่เก่งและมีค่าตัวมากที่สุดในเวลานั้น ผมขึ้นตรงกับคุณณรงค์ ทั้งๆที่ตามตำแหน่งแล้วผมต้องขึ้นกับ Room Division หรือ General Manager ผมทำงานได้ 2 ปี คุณณรงค์ไม่ต่อสัญญาบริหารโรงแรมสยามเบย์วิวและสยามเบย์ชอร์ คุณกมลา ไม่หาคนมาแทน และเข้ามาบริหารเองเต็มตัว ว่าจ้างผู้จัดการฝรั่งเข้ามาเป็นผู้จัดการทั่วไป แทนผู้จัดการชุดเก่าของคุณณรงค์

ผมยังอยู่ในตำแหน่งเดิมแต่เพิ่มงานส่วนตลาดต่างประเทศที่เดิมคุณณรงค์ทำอยู่มาทำแทน มีอำนาจในการอนุมุติหลายๆอย่างที่เดิมต้องขออนุมัติจากคุณณรงค์ คุณกมลาได้เฝ้ามองการทำงานของผมมาตลอด และพอใจผมค่อนข้างมาก ให้ผมขึ้นตรงกับคุณกมลา แทนที่จะขึ้นกับผู้จัดการทั่วไป  ไม่มีใครกล้าโต้แย้งคุณกมลา มีผมเพียงผู้เดียวที่กล้าขัดและให้เหตุผล  คุณกมลาเคยต่อว่าผมในสิ่งที่ผมอนุมัติ และเรียกคืนอำนาจที่ผมสามารถอนุมัติได้เป็นต้องขออนุมัติจากคุณกมลาแทน แต่ไม่เกิน 2 อาทิตย์ก็ต้องคืนอำนาจให้ผมเป็นผู้ดำเนินการอนุมัติได้เอง คุณณรงค์ที่ว่าเก่งเรื่องการตลาด แต่คุณกมลาเก่งกว่า ผมเรียนรู้เรื่องการตลาดและการเป็นนักธุรกิจจากคุณกมลา ทำให้เข้าใจมุมมองของนักธุรกิจ ผมรักและเคารพคุณกมลามาก (เหมือนญาติผู้ใหญ่)

ท่านเป็นทั้งเจ้าของและนักบริหารโรงแรมที่ผมยกย่องที่สุด ผมเสียดายที่ไม่ฟังท่าน ผมพลาดโอกาส ไปถึง 2 ครั้ง จนทำให้ท่านโกรธในความโง่ของผม ผมเชื่อว่าช่วงที่ผมทำงานให้คุณกมลา ท่านให้ความเมตตาผมมาก ท่านเป็นเจ้านายคนเดียวที่ออกหนังสือตักเตือนผม แต่ผมก็ไม่เคยโกรธท่าน เพราะผมเป็นผู้หาเรื่องใส่ตัวเอง ท่านเข้าใจผิดคิดว่าผมโกรธท่านทำให้ผมลาออก

คุณกมลาต้องการที่จะให้ผมเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อไปติดต่อลูกค้า แต่ผมเห็นว่าลูกค้าจากสิงคโปร์ใช้เราอยู่แล้วและขึ้นอยู่กับเอเยนที่ประเทศไทย ผมจึงไม่ไปเพราะเห็นว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย บังเอิญ คุณเถกิง สวัสดิพันธ์ เจ้าของเถกิงทัวร์ (เจ้านายเก่า)  ขอให้ผมช่วยเป็นหัวหน้าทัวร์นำนักท่องเที่ยวของเถกิงทัวร์ไปเที่ยวสิงคโปร์ ผมดูโปรแกรม และเห็นว่ามีวันว่างปล่อยให้ลูกทัวร์เที่ยวกันเอง ถึง 2 วัน ผมสามารถใช้วันดังกล่าวไปพบเอเยนในสิงคโปร์ได้ตามที่คุณกมลาต้องการ เท่ากับผมได้ทำงานสองงานในเวลาเดียวกัน ได้ตอบแทนเจ้านายเก่า และได้ทำงานให้เจ้านายปัจจุบันโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมตอบตกลงกับคุณเถกิง บังเอิญช่วงนั้นคุณกมลาไปอเมริกา ผมจึงไปแจ้งให้ผู้จัดการโรงแรมสยามเบย์วิวรับทราบตามมารยาท เพราะปกติผมไม่ได้ขออนุญาตอะไรจากผู้จัดการ เมื่อผู้จัดการฝรั่งทราบเรื่องจากผม เขาได้สั่งไม่ให้ผมไป ผมจึงได้อธิบายว่า ผมทำงาน 7 วัน มากว่า 4 ปี โดยไม่มีวันหยุด สามารถใช้วันหยุดลาได้ และผมไม่ได้ขึ้นกับเขาที่มาบอกนี่ทำตามมารยาทแต่ไม่ได้มาขออนุมัติ ผู้จัดการฝรั่งทำท่ายียวนมากและพูดแต่คำว่า No  ผมจึงวิ่งเข้าไปชก แต่ไม่ทันถูกและมีคนมาแยก เมื่อคุณแม่และคุณน้าของคุณกมลาทราบเรื่องจึงเรียกผมไปสอบถามเรื่องราวและได้อนุมัติให้ผมไปได้ เรื่องน่าจะจบด้วยดี แต่ผมหาเรื่องเอง เมื่อคุณกมลากลับมาผมได้เขียนจดหมายถึงคุณกมลา และด่าผู้จัดการฝรั่งคนนั้น คุณกมลาโกรธมาก พูดกับคนใกล้ชิดว่า ผมด่าผู้จัดการก็เหมือนกับด่าคุณกมลา เพราะคุณกมลาเป็นผู้เลือกผู้จัดการ คุณกมลาไม่พูดกับผมร่วม 3 เดือน และออกหนังสือตักเตือนผม ผมไม่เคยโกรธท่านเลยและเห็นว่าท่านทำถูก เพราะการกระทำของผมทำให้เสียระบบการปกครอง

ผมได้รับการเชิญให้ไปเป็นผู้อำนวยการบริหารที่โรงแรมปอยหลวง เชียงใหม่ เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีจะได้เข้าบริหารโรงแรมเต็มตัว จึงไปขอลาออกจากคุณกมลา แต่คุณกมลาไม่ยอมให้ลาออก และไม่พิจารณาหนังสือลาออก โดยให้เหตุผลว่า ผมไม่มีความสามารถกับตำแหน่งที่เขาเสนอให้ ตำแหน่งนี้สูงเกินไป  ทำให้ผมคิดว่าดูถูกผม ควรจะปล่อยให้ผมไปทดลองดู และถ้าไม่ได้จริงๆให้กลับมา ในที่สุดคุณกมลาก็ไม่ยอมอนุมัติใบลาของผม และผมก็ไปเพราะเห็นว่าเป็นโอกาสของผม ไม่มีการเลี้ยงลา (ทราบจากคนใกล้ชิดว่าคุณกมลาเข้าใจว่าผมไม่รักท่านจริงทิ้งท่านไป ประกอบกับยังโกรธเรื่องที่ผมไปด่าผู้จัดการ และเข้าใจว่าผมโกรธท่านที่ให้ใบเตือนผม ความจริงถ้าท่านพูดว่าอย่าทิ้งท่านเหมือนกับที่พูดกับคนอื่น ผมไม่มีวันไปจากท่าน ) เป็นการเสียโอกาสครั้งที่หนึ่งของผมที่ไม่เชื่อฟังท่าน

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

15 พฤศจิกายน 2553

 

กรณีศึกษาโรงแรมปอยหลวง

พิมพ์ PDF

กรณีศึกษาเพื่อการเรียนรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม

กรณีศึกษาโรงแรมปอยหลวง

ระหว่างที่ผมทำงานให้กับโรงแรมสยามเบย์วิว และโรงแรมสยามเบย์ชอร์ ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย คุณวิมล ผู้จัดการโรงแรมลิเบอร์ตี้ สะพานควาย (เคยไปทัวร์ต่างประเทศที่มีผมเป็นหัวหน้าทัวร์) ติดต่อให้ผมไปพบเจ้านายคุณวิมล เพื่อเชิญผมไปบริหารโรงแรมปอยหลวง ที่จังหวัดเชียงใหม่

คุณทิพย์เจ้านายคุณวิมล ไม่พอใจการบริหารจัดการของผู้จัดการทั่วไปโรงแรมปอยหลวง แต่ไม่กล้าปลดผู้จัดการทั่วไป จึงต้องการจ้างผมในตำแหน่งที่สูงกว่าผู้จัดการทั่วไปเพื่อให้ไปบีบให้ผู้จัดการทั่วไปลาออกไปเอง หลังจากปรึกษาหารือในรายละเอียดต่างๆ ผมตกลงรับทำงานให้คุณทิพย์ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหาร

คุณกมลา เจ้าของโรงแรมสยามเบย์วิวและโรงแรมสยามเบย์ชอร์ไม่อนุมัติการลาออกของผม แต่ผมไม่ได้ฟังการทักท้วงของท่าน และได้ไปทำงานที่โรงแรมปอยหลวง ทำให้คุณกมลาไม่พอใจตามที่ผมได้เคยกล่าวไว้ในบทความกณณีศึกษาโรงแรมสยามเบย์วิว

ผมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารสูงสุดของโรงแรม จนบางคนเข้าใจว่าผมเป็นหุ้นส่วน ผมเข้าไปบริหารงานเพียงคนเดียวโดยไม่มีทีมเข้าไปช่วยเช่นเดียวกับผู้บริหารคนอื่นๆ คุณจิณ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมปอยหลวง เป็นผู้จัดการที่เก่งมาก เคยทำงานเป็น Front Office Manager ที่โรงแรม Hyatt Rama Hotel มาก่อน คุณจิณเป็นผู้จัดการคนไทยที่มีฝีมือระดับแนวหน้า เพียงแต่มีปัญหาเรื่องความกระล่อนและหาผลประโยชน์เข้าตัวทำให้โรงแรมเสียรายได้ที่ควรจะได้ นอกจากคุณจิณก็มีคุณหมู หลานชายของเจ้าของ ที่คุมเรื่องการจัดซื้อ และมีอิทธิพลในแผนก F&B คุณจิณและคุณหมู เป็นผู้ที่มีอำนาจในการบริหารจัดการโรงแรมปอยหลวง มีการแบ่งผลประโยชน์อย่างลงตัว

ผมไม่เคยคิดที่จะเอาคนออกและนำคนของผมเข้าไปแทนที่ ผมเสนอให้จ้างคุณจิณไว้อย่างเดิม เพราะเป็นคนเดียวที่มีความรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงแรม ถือว่าเป็นผู้จัดการที่คุ้มค่าเงินเดือนเพราะคุณทิพย์ให้เงินเดือนคุณจิณน้อมมาก น้อยกว่าความสามารถของคุณจิณ ทำให้คุณจิณหารายได้อื่นทดแทน การบริหารงานของผมทำให้คุณจิณและคุณหมูไม่สามารถทำสิ่งหลายๆอย่างที่เคยทำ   การบริหารงานของผมทำให้โรงแรมฟื้นตัว สร้างชื่อเสียงขึ้นมาใหม่ มีรายได้ที่ดีขึ้น ลดช่องว่างการสูญเสีย พนักงานที่ดีๆมีขวัญและกำลังใจทำงาน ผมได้คุยกับคุณจิณอย่างลูกผู้ชาย ว่าผมไม่เอาคุณจิณ์ออก และไม่คิดที่จะแย่งตำแหน่งคุณจิณ  ผมขอเวลาแค่ 2 ปีเพื่อช่วยคุณจิณบริหารโรงแรม ขอให้เรามาร่วมมือกันบริหารโรงแรมอย่าหักหลังผมและแทงผมข้างหลัง ผมให้ความนับถือคุณจิณ และเรียกว่าพี่ทุกคำ

ผมทำงานหนักมาก ดูแลเรื่องการตลาด (ที่ทำให้คุณจิณเสียประโยชน์) การบริหารจัดการที่ทำให้หัวหน้างานหลายๆคนไม่สบายเหมือนเดิม   ผมทำงานคนเดียวโดยไม่มีลูกน้องที่สนิทและเชื่อใจได้ เข้าไปช่วยลูกน้องเก็บโต๊ะและเก็บจานในบางครั้งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการให้บริการลูกค้า  อยู่กับพนักงานทุกแผนกและทุกระดับ เข้าใจปัญหาและช่วยแก้ไขปัญหาให้ลูกน้อง ทำให้หัวหน้าบางคนไม่พอใจ เพราะเขาไม่เคยให้กับลูกน้องแบบที่ผมทำ บางคนดูถูกหาว่าผมทำตัวไม่เหมือนกับผู้จัดการ หัวหน้าหลายคนไม่ได้ทำตัวเป็นหัวหน้าที่ดีผมก็ต้องเข้าไปอบรมสั่งสอนหลายๆคนก็ไม่พอใจ ยอมรับว่าผมแรงมาก ยังไม่เข้าใจการบริหารจัดการคน ใช้อำนาจ และบางครั้งก็ใช้อารมณ์ แต่ความที่ผมเป็นคนทำงานและมีความจริงใจจึงทำให้งานออกมาดี เจ้าของพอใจ ลูกน้องระดับล่างพอใจ

ลูกค้าชาวฝรั่งเศส ขอพบผู้จัดการเพื่อต่อว่าการบริการของโรงแรม  ผมได้เข้าไปพบและยอมรับผิดในสิ่งที่เขาต่อว่า คุยไปคุยมาเกิดถูกคอ และทราบว่าเขาเป็นผู้เชียวชาญด้านโรงแรม ผมจึงขอให้เขาอยู่พักที่โรงแรมสักหนึ่งเดือนและช่วยสอนผมเรื่องการบริหารจัดการโรงแรม ผมได้เรียนรู้การบริหารจัดการโรงแรมตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญโรงแรมระดับสากล เราอยู่ด้วยกันตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ผมได้เรียนรู้จากการบริหารงานจริงในแต่ละวันเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็ม เราได้ร่วมการวางแผนการตลาดและการปรับปรุงโรงแรมให้เป็นสากลและยกระดับโรงแรมให้ดีขึ้น

โรงแรมปอยหลวงถูกสร้างขึ้นเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งของเชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่ดีลงทุนสูงและถูกวางให้เป็นโรงแรมสำหรับการจัดสัมมนาระดับชาติ ผู้จัดการที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือคุณฟ้าลั่น โรงแรมนี้มีประวัติไม่ค่อยจะดีนักในด้านการบริหารจัดการ ผู้บริหารเบอร์หนึ่งมักจะถูกลูกน้องโค่น เชื่อกันว่าเป็นเพราะโรงแรมสร้างค่อมคูเมือง บางกระแสก็ว่าช่วงพิธีเปิดโรงแรม ได้นิมนต์พระที่อาวุโสน้อยขึ้นเป็นประธานพิธีโรงแรมปอยหลวงไม่ประสบผลสำเร็จด้านธุรกิจ มีการขายทอดกันมาจนถึงกลุ่มของคุณทิพย์ กลุ่มคุณทิพย์เป็นนักธุรกิจคนจีนที่มีธุรกิจหลายแห่งมีทั้งโรงงาน และโรงแรมหลายแห่ง เริ่มธุรกิจโรงแรมจากโรงแรมม่านรูด การบริหารงานของผมสามารถทำให้ธุรกิจโรงแรมดีขึ้น สร้างภาพพจน์ที่ดี มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นและสร้างความพอใจให้กับเจ้าของในระดับหนึ่ง  ลูกน้องยังไม่นิ่ง มีคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลา คุณจิณไม่จริงใจกับผมตามที่ได้ตกลง เผลอเมื่อใดเป็นได้เรื่อง ผมได้ตรวจสอบและพบการสั่งชื่อเนื้ออย่างดีจากต่างประเทศและเก็บไว้ในห้องแช่แข็งโดยไม่นำออกมาขาย และมีอะไรอีกมากมาย ไม่มีระบบในการควบคุม ทำให้เกิดการรั่วไหล

ช่วงที่ผมออกจากโรงแรมสยามเบย์วิวและโรงแรมสยามเบย์ชอร์ได้ฝากเพื่อนเข้าทำงานกับคุณกมลาหนึ่งคน หลังจากนั้นเพื่อคนนี้ได้มาบ่นกับผมว่าไม่สามารถทนทำงานกับคุณกมลาได้ ขอให้ผมรับเขาไปช่วยทำงานกับผม ตอนแรกผมปฏิเสธเพราะไม่ต้องการเอาพวกของตัวเองเข้าไป ต้องการจะไปสร้างทีมขึ้นมาใหม่จากคนเก่าของโรงแรมนั้น แต่ทนการอ้อนวอนไม่ได้ จึงตกลงไปให้ไปช่วยดูแลเรื่อง F&B ที่โรงแรม เพื่อนคนนี้ขอให้ผมพาไปพบเจ้าของโรงแรม ผมพาซื่อนำไปพบคุณทิพย์ ระหว่างที่คุยกับคุณทิพย์ เพื่อนคนนี้ได้เรียนคุณทิพย์ว่าเขาอยากมาช่วยผมแต่คุณกมลาไม่ให้มา ขอให้ผมโทรไปขอคุณกมลา ด้วยความไม่รู้ประสีประสาของผมทำให้ผมโทรหาคุณกมลาต่อหน้าคุณทิพย์ คุณกมลาดีใจมากที่ผมโทรไปหา เพราะตอนที่ผมลาออกมาจากโรงแรมสยามเบย์วิว คุณกมลาไม่อนุมัติ แต่ผมหนี้มาเลยไม่มีโอกาสได้ลาคุณกมลาและไม่เคยติดต่อท่านอีกเลย หลังจากผมเอ่ยปากขอเพื่อนของผมมาทำงานกับผมที่ปอยหลวง คุณกมลาโกรธผมมากและบอกว่าผมโง่ ผมไม่มีวันทันเพื่อนผู้หญิงของผมคนนี้ แทนที่ผมจะฟังท่าน กับคิดว่าท่านหวงคน จึงพยายามอธิบายว่าคุณกมลามีคนช่วยหลายคนแต่ผมไม่มีคนช่วยขอให้ช่วยผมด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมเสียโอกาสกับคุณกมลา หลังจากนั้นท่านโกรธและไม่สนใจผมอีกเลย

ผมทำงานอยู่ที่กรุงเทพเดือนละ 7-10 วันเพื่อดูแลเรื่องการตลาด แวะเยี่ยมเอเยน และที่เหลืออยู่โรงแรม ไม่เคยมีวันหยุด ใช้รถทัวร์เที่ยวกลางคืนเป็นพาหนะเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายให้โรงแรม เพื่อนผู้หญิงของผมนั่งเครื่องบินไปรับงานจากผมที่เชียงใหม่โดยมีเจ้าของโรงแรมคุณทิพย์นั่งเครื่องบินไปส่ง  ระหว่างทานข้าว จึงทราบว่าเพื่อนของผมสามารถพูดให้คุณทิพย์เปลี่ยนแผนการปรับปรุงโรงแรมจากแผนเดิมที่ได้พิจารณาอนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ผมโกรธมากที่เพื่อนเสนอโครงการอะไรไปโดยที่ตัวเองยังไม่ได้เข้ามาสัมผัสจริง ผมจึงว่าไป แต่คุณทิพย์กับเห็นว่าผมไม่ให้เกียรติกับผู้หญิงที่เขากำลังจะมาช่วยผม เป็นครั้งแรกที่คุณทิพย์แสดงความไม่พอใจผม หลังจากนั้น เพื่อนของผมก็ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา สั่งให้ทำอะไรก็ไม่ทำอ้างคุณทิพย์ตลอดเวลา ผมจึงสั่งพนักงานให้ออกจดหมายพักงานเพื่อนของผม แต่ไม่มีใครปฏิบัติตามคำสั่งผม  ภายหลังจึงมาทราบว่า คุณจิณผู้จัดการโทรไปหาคุณทิพย์ และคุณทิพย์ให้เพื่อนของผมทำงานตามปกติและคุณทิพย์จะเดินทางมาที่โรงแรมเพื่อจัดการด้วยตัวเอง เมื่อผมทราบเรื่องจึงโทรไปหาคุณทิพย์ แต่คุณทิพย์ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากผม ผมจึงโทรหาคุณวิมล จึงทราบเรื่องทั้งหมด ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณวิมลทราบ และฝากคุณวิมลให้ช่วยเรียนคุณทิพย์ว่าไม่ต้องมาที่โรงแรมปล่อยให้ผมจัดการเอง ถ้าคุณทิพย์มาผมก็จะลาออก

คุณทิพย์มาที่โรงแรม และฟังรายงานจากหัวหน้าแผนกต่างๆ ก่อนที่จะฟังผม หลังจากนั้นจึงเรียกผมเข้าประชุมร่วมกับหัวหน้าแผนกอื่นๆ โดยไม่มีการพูดกับผมเป็นการส่วนตัวก่อน คุณทิพย์ได้กล่าวหาผมว่าบ้าอำนาจสั่งการผิดๆตามที่ได้รับฟังจากคนอื่นๆ ผมได้อธิบายและชี้แจ้งเหตุผลความเป็นมาต่างๆที่ทำให้ผมสั่งการให้ลูกน้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและถูกต้องเพื่อประโยชน์ของโรงแรมทั้งสิ้น ไม่ได้สั่งการผิดๆและไม่ได้บ้าอำนาจ  เมื่อผมชี้แจงเหตุผลจนไม่มีผู้ใดโต้แย้งได้ ผมจึงได้ประกาศลาออก  ด้วยเหตุผลว่าผมไม่มีความสามารถ คุณทิพย์ไม่ยอมและหาว่าผมน้อยใจ เมื่อทุกอย่างเป็นที่เข้าใจแล้วก็น่าจะจบกันไป ในเมื่อทุกคนหวังดีกับโรงแรมก็ขอให้ช่วยกันทำงานต่อไป แต่ผมไม่ยินยอม เพราะถือว่าผมบกพร่องที่ไม่สามารถทำให้เจ้านายไว้ใจและปล่อยให้ผมบริหารงานเองได้ จึงต้องพิจารราตัวเอง คุณทิพย์พยายามพูดให้ผมคิดให้ดี และถามว่าผมนับถือใครมากที่สุด ผมย้อนสวนไปทันทีว่าคุณวิมล (ลูกน้องคุณทิพย์ ผู้ที่แนะนำผมให้กับคุณทิพย์) คุณทิพย์ถึงกับนิ่ง และผมก็เดินออกไปทันที และออกจากโรงแรมเพื่อไปจองตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น

กรณีศึกษาในบทนี้  ผมอยากให้พิจารณา ที่ความคิดของเจ้าของ ไม่พอใจผู้จัดการทั่วไป แต่ก็ไม่กล้าปลดเขาออก คิดยืมมือคนอื่นจัดการ แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คนจริง แม้นกระทั่งลูกน้องก็ไม่กล้าพูดตรงๆ หูเบา ขาดความเป็นผู้นำ ไม่มีความรู้และความเข้าใจในการบริหารคน  เจ้าของประเภทนี้จะไม่ลงทุนเรื่องคน จ่ายเงินเดือนน้อย ที่เหลือไปหากันเอาเอง  มีเงินพิเศษให้เฉพาะบางคนที่เชื่อฟังและประจบ ไม่ให้รางวัลจากผลงาน  ใช้คนไม่เป็น บริหารลูกน้องแบบนี้ ก็จะได้ลูกน้องที่ไม่มีความสามารถ หรือมีลูกน้องที่มีความสามารถก็ไม่สามารถให้ลูกน้องได้ใช้ความสามารถได้เต็มที่ อยู่ไปวันๆ หรือไม่ก็ต้องไปอยู่ที่อื่น

การเข้าไปทำงานที่โรงแรมปอยหลวงทำให้ผมเสียโอกาสที่จะได้รับการสนับสนุนและการเจริญเติบโตอย่างเป็นขั้นตอนจากคุณกลมา นอกจากนั้นผมยังถูกเพื่อนและลูกน้องหักหลัง เจ้านายทำร้ายจิตใจ  ถือว่าเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ของผม อย่างไรก็ตาม ผมได้รับการถ่ายทอดความรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงแรมจาก Mr. Di Di แบบตัวต่อตัวซึ่งหาเรียนที่ไหนไม่ได้แม้นจะมีเงินเป็นล้านๆบาทก็ไม่มีโอกาสอย่างผม

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

27 พ.ย.2553

 

 

 

กรณีศึกษาโรงแรมแม่น้ำ

พิมพ์ PDF

ศึกษาเพื่อนำไปใช้ในการทำธุรกิจ

กรณีศึกษาโรงแรมแม่น้ำ

เจ้าของโรงแรมแม่น้ำเป็นคนจีน อาชีพเดิมขายท่อประปา แต่ภรรยามีที่ดินมากเป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ทำเลทองย่านเพลินจิต ก่อนสร้างโรงแรมแม่น้ำ เป็นเจ้าของโรงแรม RS Hotel บนถนนหลานหลวง ( Royal Princess ในปัจจุบัน) โรงแรมแม่น้ำถือว่าเป็นโรงแรมที่ใช้ผู้จัดการเปลืองที่สุด ผู้จัดการที่คัดเลือกมาล้วนเป็นผู้บริหารคนไทยที่เป็นมือหนึ่งของประเทศไทยทุกคน มีทั้งผู้จัดการและที่ปรึกษา  อำนาจทุกอย่างอยู่ที่พ่อ ถึงแม้นจะมีลูกช่วยบริหารอยู่หลายคนด้วยกัน ผู้จัดการทั่วไปแต่ละคนไม่มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารงานทั้งหมด ส่วนมากจะให้มาดูแลเรื่องการตลาด

ผมได้รับการติดต่อให้มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย แทบไม่มีอำนาจอะไร เพราะต้องขึ้นกับทีมบริหารของผู้จัดการทั่วไป เจ้าของรับผมมาเพื่อใช้ผมเป็นอาวุธต่อสู้กับผู้บริหาร ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นที่ไม่ลงลอยกัน สาเหตุที่ผมรับงานนี้เพราะ ผู้จัดการทั่วไปในขณะนั้นเป็นผู้ที่เก่งมาก มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ ผมชอบที่จะเป็นลูกน้องคนเก่งๆจะได้เรียนรู้ ส่วนเหตุผลที่สองเนื่องจากผมเป็นคนของเจ้าของ จึงคิดว่าผมจะสามารถเป็นตัวเชื่อมและทำให้ผู้บริหารและเจ้าของมีความเข้าใจกันมากขึ้น

ผมเข้าไปรายงานตัวกับผู้จัดการทั่วไปแต่ผู้จัดการทั่วไปไม่รับผม พูดกับผมอย่างไม่ใยดีว่า เจ้าของรับคุณมาโดยไม่ได้ผ่านผม คุณก็ไปรายงานตัวกับเจ้าของ การทำงานของผมอึดอัดมาก เพราะ ผมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรได้เลย เพราะถูกทีมงานของผู้จัดการทั่วไปกันไว้หมด เมื่อรายงานเจ้าของ เจ้าของก็ให้ทำตามเขาไปและให้รายงาน  ผมถูกกำหนดให้ทำงานในสิ่งที่ผมไม่ชอบ  มีหน้าที่คอยหาความผิดของคนอื่นและมารายงาน ผมไม่กลัวที่จะต้องรบหรือสู้กับทีมงานของผู้จัดการทั่วไป แต่ผมไม่ชอบที่จะต้องลอบแทงคนจากด้านหลัง ทั้งสองฝ่ายต่างเล่มเกมกันตลอดเวลา ผู้จัดการเป็นคนแข็งไม่ยอมเจ้าของ ส่วนเจ้าของก็พยายามดึงมือขวาของผู้จัดการทั่วไปให้มาเป็นพวกของตัว มือขวาของผู้จัดการทั่วไปก็สบายไป เพราะเป็นผู้ที่ได้ลูกเดียว พูดยกยอตัวเอง มีผลประโยชน์แอบแฝง ส่วนผมเมื่อผู้จัดการทั่วไปไม่พูดกับผม ผมก็ต้องไปทำงานอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของมือขวาผู้จัดการทั่วไป  ผมสามารถอยู่อย่างสบายได้ เล่นบทสบายๆเออออไปกับเขาไม่ต้องไปสนใจอะไร ผมรู้ทันเจ้าของและรู้ทันมือขวาของผู้จัดการทั่วไป  ผมไม่นับถือเจ้าของ และก็ไม่นับถือมือขวาผู้จัดการทั่วไป แต่ผมนับถือผู้จัดการทั่วไป เป็นคนที่มีจุดยืน และเป็นคนตรง ผมชอบทำงานกับคนแบบนี้มากกว่า แต่เสียดายที่ผู้จัดการทั่วไปไม่รับผมเป็นลูกน้องจึงไม่มีโอกาสได้เรียนรู้จากท่าน

ในที่สุดผมตัดสินใจลาออกจากโรงแรมแม่น้ำ  ได้เข้าไปลาและเล่าความในใจของผมให้กับผู้จัดการทั่วไปทราบ ทำให้ผู้จัดการทั่วไปเข้าใจผมดีขึ้น  ผมมีความภาคภูมิใจที่ผมไม่เคยลอบกัดใคร และยอมรับว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับคนที่ไม่มีความจริงใจได้ ผมแน่ใจว่าผมเป็นคนดี ที่ไม่ทรยศหักหลังใคร ทำงานให้ใครก็ทำอย่างเต็มที ผมเสียโอกาสถึง 2 ครั้งที่ไม่เชื่อคุณกมลา เสียใจกับการกระทำของคุณทิพย์ และการใส่ร้ายของเพื่อนและลูกน้อง แต่ผมก็มีโชคที่ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการโรงแรมจากผู้เชียวชาญ โรงแรมแม่น้ำที่เดียวที่ผมไม่ได้อะไรติดตัวมาเลย เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่สามารถทำประโยชน์อะไรให้ใครได้เลย

กรณีศึกษาในบทนี้ อยากให้พิจารณาถึงการบริหารจัดการของเจ้าของ และผู้จัดการทั่วไป เจ้าของ(เสี่ย จิ้น ) บริหารงานแบบจ้างผู้บริหารเบอร์หนึ่งมาบริหารและเรียนรู้จากผู้บริหาร เสี่ยจิ้นจะเรียกผู้บริหารมาซักถามและคุยตลอดเวลาเพื่อเรียนรู้การทำงานของผู้บริหารแต่ละคน ไม่ได้สนใจผลงานของผู้บริหารนัก เพียงแต่ทำตัวให้ว่างเวลาที่เสี่ยงจิ้นเรียกมาคุย ( ช่วงที่ผมทำเรื่องเรือกับเสี่ยจิ้น วันๆแทบไม่ได้ทำอะไร จะถูกเสี่ยจิ้นเรียกไปคุยทุกวัน) เสียงจิ้นมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้ามาก เชื่อมากกว่าคน  จึงปล่อยให้เป็นไปตามที่เจ้าบอก ส่วนผู้จัดการเคยเป็นใหญ่อีกโรงแรมหนึ่งมาก่อน เจ้าของโรงแรมเก่าปล่อยให้บริหารงานเต็มที่ มีความเชื่อมั่นสูง เมื่อมาบริหารโรงแรมแม่น้ำ เป็นช่วงขาลงของผู้จัดการทั่วไป แถมเจ้าของโรงแรมแม่น้ำไม่เหมือนเจ้าของโรงแรมเดิมที่เคยบริหารอยู่  ผู้จัดการทั่วไปไม่สามารถปรับตัวได้จึงไม่ประสบผลสำเร็จ

 

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

พ.ย.2553

 


หน้า 468 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5609
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8630954

facebook

Twitter


บทความเก่า