Thaiihdc.org

  • เพิ่มขนาดตัวอักษร
  • ขนาดตัวอักษรปกติ
  • สดขนาดตัวอักษร
Thaiihdc.org

การศึกษาแนวสวนกระแส

พิมพ์ PDF

ในการประชุมสภาสถาบันอาศรมศิลป์ เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ มีวาระเรื่อง “มาตรฐานการจัดการเรียนการสอนและการวัดประเมินผล ของหลักสูฏตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาผู้ประกอบการสังคมเพื่อพัฒนาคุณภาพของบัณฑิต”

หลักสูตรนี้มีลักษณะพิเศษตรงที่เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติเป็นหลักแล้วเขียน “ปัญญานิพนธ์” เพื่อยืนยันการเรียนรู้ของตน

ผู้รับผิดชอบหลักสูตร บอกว่า เนื่องจากเป็นหลักสูตร “ผู้ประกอบการสังคม”จึงต้องมีหลักฐานการ เป็นผู้ประกอบการ คือทำธุรกิจได้สำเร็จมีการนำหมี่โคราชตราหมูน้อยอารมณ์ดี มาให้ดูและแจกกรรมการสภาคนละ ๑ ซองด้วย และต้องมีหลักฐานการทำประโยชน์แก่สังคมด้วยโดยที่นักศึกษาต้องเสนอ “บันทึกความดี” ประกอบการสมัครเป็นนักศึกษา

กรรมการสภาฯ ซักถาม และออกความเห็นกันมากว่าจะวัดคุณภาพการศึกษาแบบนี้อย่างไร

ผมจึงเสนอว่า การศึกษาตามหลักสูตรนี้เป็นการศึกษาแนวทวนกระแสโดยที่การศึกษาตามปกติ จะเรียนทฤษฎีก่อนเมื่อมีความรู้ทฤษฎีดีพอแล้ว จึงนำความรู้นั้นไปฝึกปฏิบัติแต่หลักสูตรผู้ประกอบการสังคม ตรงกันข้ามเน้นที่การเรียนภาคปฏิบัติเลย โดยไม่ต้องเรียนทฤษฎีก่อนและทดสอบหรือวัดความรู้ปฏิบัติ จากผลงานที่เกิดขึ้นจึงมีคำถามว่า การเรียนจากการปฏิบัติ และวัดที่ผลงานพอไหม สำหรับให้ปริญญาตรี

คำตอบของผม (ซึ่งไม่ทราบว่าถูกหรือผิด) คือไม่พอเพราะเรียนแค่ปฏิบัติได้และเขียนรายงานเพื่อ อธิบาย What และ How ได้ ไม่เพียงพอต่อการที่จะเไปเรียนรู้ต่อเนื่องในภายหน้าจะให้พอ นักศึกษาต้องอธิบาย Why ได้ด้วยซึ่งหมายความว่า ตอนเรียนรู้จากการปฏิบัติต้องมีการทำ Reflection / AAR เป็นระยะๆเพื่อทำความเข้าใจว่า ทำไม (Why) การปฏิบัติเช่นนั้นจึงก่อผลอย่างที่เห็นอธิบายได้ด้วยทฤษฎีอะไรบ้างอธิบายได้ครบถ้วนไหมเชื่อมโยงกับทฤษฎีอื่นอย่างไรจากการปฏิบัติ จะอธิบายทฤษฎี X ในภาษาภาคปฏิบัติ ตามประสบการณ์ตรงของเราอย่างไร

นั่นหมายความว่า ศิลปาจารย์ (อาจารย์ในหลักสูตรนี้เป็นอาสาสมัคร เรียกชื่อว่า ศิลปาจารย์) จะต้องมีทักษะในการชวนนักศึกษาตั้งเป้าการเรียนรู้ว่าในกิจกรรมภาคปฏิบัตินั้นๆเป้าหมายมี ๒ เป้าคือหาทางบรรลุผลงานกับเรียนรู้ทฤษฎี ก, ข, ค, ...แล้วหลังจากนักศึกษาเรียนรู้จากการปฏิบัติ คอยทำหน้าที่“คุณอำนวย” (facilitator) ชวนนักศึกษา ทำ AAR การเรียนรู้ทฤษฎีเป็นระยะๆ

การฝึกฝนศิลปาจารย์ให้เข้าใจ ทฤษฎี และให้มีทักษะในการทำหน้าที่ “คุณอำนวย”เพื่อช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้จากการปฏิบัติได้ลึกนำประสบการณ์จากการปฏิบัติไปอธิบายความรู้ เชิงทฤษฎีได้ด้วยภาษาของตนเอง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

หากปฏิบัติได้เช่นนี้ ก็จะมั่นใจได้ว่าการศึกษาแนวสวนกระแสสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพจริง

การเรียนรู้ที่ลึกต้องตั้งคำถาม Whyและหาความรู้เดิม มาตอบคำถามนั้นได้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดหากค้นหาความรู้เดิมจนทั่วแล้ว ก็ยังตอบคำถามไม่ได้ทั้งหมดก็เท่ากับมีการค้นพบความรู้ใหม่จากการปฏิบัติซึ่งก็จะยิ่งทำให้การเรียนรู้ยิ่งลึกขึ้น

วิจารณ์ พานิช

๑ ส.ค. ๕๗

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 09:25 น.
 

เปรียบเทียบผู้นำประเทศจีน เติ้งเสี่ยวผิง กับ สี จิ้นผิง

พิมพ์ PDF

ปีนี้ครบรอบ 110 ปีของเติ้งเสี่ยวผิงทำให้คนจีนและคนในโลกได้ระลึกถึง มีการเปรียบเทียบสี จิ้นผิงผู้นำจีนคนปัจจุบันที่มีแนวทางคล้ายเติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งจะนำพาประเทศจีนไปสู่ความเป็นเลิศ และยั่งยืนได้สง่างามในเวทีโลกได้

ดังนั้นการเปรียบเทียบผู้นำของจีนจึงเป็นจุดสำคัญที่ผู้อ่านจะเรียนรู้ และนำมาคิดปรับใช้กับเมืองไทย

เติ้งเสี่ยงผิงเป็นผู้นำที่มีความลุ่มลึกมากเพราะถ้าไม่มีเติ้งเสี่ยงผิงก็จะไม่มีประเทศจีนยิ่งใหญ่แบบทุกวันนี้

จุดแข็งของ เติ้งเสี่ยงผิงเป็นคนที่

- คิดปฏิรูป ใฝ่รู้ ติดตามความรู้ตลอดเวลา

- หาจังหวะปฏิรูป

- คิดเสมอว่าอนาคตของจีนจะพัฒนาอย่างไร

- หาโอกาสก็จะทำ

- เป็นคนมีหลักการและพร้อมปรับตัวเสมอ

- นำเอาทฤษฎีการปฏิบัติมาใช้ด้วยกันอย่างพอดี

จุดสำคัญที่สุดที่เติ้งเสี่ยงผิงประสบความสำเร็จ คือ การนำเอาระบบ1 ประเทศ 2 ระบบ คือ

- ระบบการเมืองยังเป็นระบบคอมมิวนิสต์เหมือนเดิม คือมีพรรคการเมืองเดียว

- แต่ระบอบคอมมิวนิสต์ทั้งการเมือง และระบอบเศรษฐกิจในจีนจะขัดแย้งกันเพราะสร้างความยากจน จึงเปิดระบบเศรษฐกิจเสรีให้เศรษฐกิจจีนคล้ายๆทุนนิยมโดยเปิดประเทศให้มีการลงทุนจากต่างประเทศเน้นการส่งออก โดยใช้แรงงานราคาถูกในช่วงแรกๆ ทำให้เศรษฐกิจจีนโตเป็นอันดับ 2 ของโลกประเทศจีนถูกเรียกว่าว่าเป็นโรงงานของโลก อาจจะแซงหน้าสหรัฐต่อไปในเวลาไม่นาน

- ผมคิดว่าแนวคิดของเติ้งเสี่ยงผิงคล้ายกับแนวคิดของผม 2R’s

Reality -มองความจริง คนจีนจะยากจนต่อไปคงไม่ได้ เพราะนักการเมืองจีนก็อยู่ไม่ได้

Relevance – ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าใช้ระบอบคอมมิวนิสต์ด้านในเศรษฐกิจสินค้าไม่มีคุณภาพ จึงต้องกระตุ้นแบบทุนนิยม แต่ยังคงการเมืองแบบพรรคเดียวไว้ โดยพึ่งพาบริษัทข้ามชาติของโลกมาลงทุน ในประเทศและส่งออก

- จะเปรียบเทียบกับสี จิ้นผิงอย่างไร

สี จิ้นผิง เป็นนักการเมืองที่ต้องปฏิรูปทั้งการเมือง เศรษฐกิจ หากรอบใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว

- สิ่งแรกคือ เศรษฐกิจจีน จะต้องไม่พึ่งการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศเท่านั้นคงจะต้องเริ่มมองการบริโภคในประเทศมากขึ้น

- คุณภาพชีวิตของคนจีนกับการดูแลสิ่งแวดล้อมจำเป็นมากขึ้น

- ต้องดูแลพลังงานทดแทน เพราะมีปัญหาสิ่งแวดล้อม

- มีการวิจัยพัฒนา Brand ของจีนเอง

- กระจายความเจริญไม่ใช่กระจุกตัวเฉพาะชายฝั่งทะเลตะวันออก

สุดท้าย ต้องบริหารความหลากหลายคล้ายๆ Value diversity ของผม

- จะบริหารสังคม Social media อย่างไร

- จะให้เสรีภาพคนจีนรุ่นใหม่อย่างไร

บุคคล 2 ท่าน มีประวัติคล้ายๆกัน เติ้งเสี่ยวผิงโตมากับเหมาเจอตุง แต่ สี จิ้นผิง โตมากับคุณพ่อที่เคยทำงานกับเหมาเจอตุง

เติ้งเสี่ยวผิงนอกจากจะเป็นผู้นำการเมืองแล้วยังคุมทหารในประเทศจีนด้วย ขณะที่สี จิ้นผิงมีตำแหน่งทางการทหารและมีภรรยาเป็นนักร้องซึ่งเป็นทหารระดับนายพลด้วย จึงปฏิรูปได้ง่ายเพราะคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ

จีระ หงส์ลดารมภ์

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 09:46 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : ๒๒๔๐. สุขภาพของแกน HPA

พิมพ์ PDF

บ่ายวันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๗ ผมไปร่วมประชุมทีมเทคนิคของ PMAC 2015 “Global Health Post 2015 : Accellerating Equity” เมื่อหารือกันเรื่องการกล่าวปาฐกถานำ เพื่อทบทวนวิวัฒนาการของ Global Health ซึ่งจะมีการทบทวนผลของความไม่เป็นธรรมทางสังคมต่อสุขภาพของผู้คน ผมก็ชี้ให้ที่ประชุมเห็นว่า ความไม่เป็นธรรมทางสังคมนอกจากส่งผลร้ายต่อสุขภาวะโดยตรงแล้ว ยังส่งผลผ่านการศึกษาที่ด้อยลง เนื่องจากความอ่อนแอของแกน HPA ด้วย

HPA ย่อมาจาก Hypothalamus, Pituitary, และ Adrenal เป็นปฏิกิริยาควบคุมทางเคมี หรือฮอร์โมน ต่อความเครียด ผมได้ความรู้นี้จากหนังสือ “เลี้ยงให้รุ่ง - ความมุมานะ ความใฝ่รู้ และพลังแฝงของลักษณะนิสัย” ที่ผมได้อ่านต้นฉบับ และเขียนคำนิยมให้สำนักพิมพ์ openworlds คำนิยมนี้จะลงใน บล็อก Council ในวันที่ ๑๒ กันยายนนี้ โดยที่หนังสือเล่มนี้แปลมาจากหนังสือชื่อ How Children Succeed

เด็กที่เผชิญความเครียดเรื้อรัง (chronic stress) ตอนอยู่ในครรภ์มารดา และ/หรือตอนเป็นเด็กเล็ก ร่างกายจะทนความเครียดนั้นไม่ไหว เพราะความเครียดจะไปกระตุ้นแกน HPA ให้ทำงานมากอยู่ตลอดเวลา วิธีปกป้องร่างกายจากความเครียดนี้ เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยแกน HPA จะถูกปิดสวิตช์ เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ เข้าใจกลไกนี้เป็นอย่างดี ว่าเป็นการปิดสวิตช์ยีนในสมอง และเป็นการปิดสวิตช์แบบถาวรตลอดชีวิต ทำให้เด็กเหล่านี้มีแกน HPA ที่อ่อนแอ

คนที่แกน HPA อ่อนแอ ฝึก EF ยาก คือฝึกบุคลิกลักษณะ ส่วนที่เป็นการเรียนรู้ส่วน Non-cognitive ยาก เป็นคนที่ “ด้อยโอกาส” ทางสังคม ไปตลอดชีวิต

วิจารณ์ พานิช

๒๕ ส.ค. ๕๗

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 08:03 น.
 

ชีวิตที่พอเพียง : 2245. ดอกไม้งามในหมู่บ้าน

พิมพ์ PDF

หมู่บ้านสิวลีติวานนท์ที่ผมอยู่จัดเป็น Happy Home เพราะมีความสงบเงียบ ร่มรื่นและเกือบทุกบ้าน ปลูกดอกไม้สวยงามมากผมวิ่งผ่านและดื่มด่ำความสุขเหล่านี้เกือบทุกวันบางวันก็เอากล้องถ่ายรูปไปถ่าย เอามาชื่นชมต่อด้วยวันนี้จึงนำมาแบ่งปัน

เป็นดอกไม้พื้นๆ เป็นส่วนใหญ่แต่ก็มีที่น่าจะถือเป็นดอกไม้แปลก ไม่พบเห็นทั่วไปคือดอกสิรินธรวัลลี ต้นนี้มีที่บ้านผมและดอกที่ถ่ายมานี้อยู่ต่ำมาก ดอกอื่นๆ อยู่สูง

ผมเอาดอกไม้นอกหมู่บ้านมามอบให้หนึ่งชนิด คือปอเทือง พืชบำรุงดิน และส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงธรรมชาติถ่ายจากตำบลรำแดงอำเภอสิงหนครจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ขอขอบคุณ รศ. มุกดา สุขสวัสดิ์ รองอธิการบดี มทร. ศรีวิชัย ที่ส่งรูปนี้มาให้

วิจารณ์ พานิช

๙ ส.ค. ๕๗

ต้องการชมภาพประกอบกด link : http://www.gotoknow.org/posts/576248

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 09:15 น.
 

เปรียบเทียบผู้นำไทย พลเอกประยุทธ์ กับ จอมพลสฤษดิ์

พิมพ์ PDF

พลเอกประยุกต์ กับจอมพลสฤษดิ์ น่าจะมีอะไรคล้ายๆกัน

- จอมพลสฤษดิ์ อยู่นานถึงเกือบ 10 ปี

- สร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ดึงเอานักลงทุนจากต่างประเทศและสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวของไทย

- สร้าง BOI และจัดตั้งททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)

- สร้างมหาวิทยาลัยชั้นนำ3 แห่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

- ใช้คนเป็นคือใครเก่ง ไม่ต้องเป็นลูกน้องก็ทำงานให้ฉันได้

- ปรึกษาผู้ใหญ่ที่มี Wisdom และประสบการณ์ คือ เจ้าคุณศรีวิสารวาจา และหลวงวิจิตวาทการ

พลเอกประยุทธ์ มีศักยภาพสูง

- ใฝ่รู้ รู้จริง รอบรู้ จงรักภักดีกล้าหาญ

- ตรงประเด็น พร้อมปฏิรูป โปร่งใส

- มาในจังหวะที่ดี เพราะคนเบื่อการขัดแย้งและนักการเมืองขี้โกง จังหวะเวลาจึงสุกงอมเรื่องปฏิรูป

- ควรดึงคนอยู่นอกวงการที่ไม่ใช่ข้าราชการและทหารมาร่วมงานมากขึ้น

- ใช้ความหลากหลายมากขึ้น (Value diversity)

- ปรึกษาผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากขึ้น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ต้องรอดูต่อไป แต่ที่แน่ๆคนมองว่าคุณประยุทธ์พึ่งทหาร และ ลูกน้องมากไป ต้องมองคนกลุ่มอื่นๆด้วย และอดทนต่อคำวิจารณ์มากขึ้นใจเย็นๆ

แก้ไขล่าสุด ใน วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 09:52 น.
 


หน้า 323 จาก 558
Home

About Us

ศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ (ศบม.) เป็นองค์กรที่พัฒนาและจัดทำโครงการเพื่อทำประโยชน์ให้สังคม เป็นองค์กรสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐ ช่วยแก้ปัญหาผู้ประกอบการภาคธุรกิจบริการที่ขาดแคลนบุคลากรที่มีมาตรฐานในการให้บริการ
อ่านเพิ่มเติม

มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ์

 iHDC Profile
บัญชีรายชื่อกรรมการ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ
เอกสารประชาสัมพันธ์ โครงการ HMTC.pdf
เอกสารแนะนำโครงการ HMTC 1.pdf
เอกสารโครงการ HMTC 2 คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ.pdf
iHDC นิติบุคคล.pdf
iHDC บุคคล.pdf
iHDC บุคคลเครือข่าย.pdf
รายงานการประชุม 6 มีนาคม 2560.pdf
ข้อบังคับมูลนิธิ
ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
Ihdc-Profile and Roadmap 2016-2019 Mar 23 2560.pdf
รายงานการประชุมใหญ่คณะกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ 2559.pdf
คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สาขาวิชาชีพ.pdf
รายงานการประชุมใหญ่วันที่ 18 ธ ค 2558 v 3.pdf
รายงานการประชุม วันที่ 24 ธันวาคม 2557 updated 4 มีนาคม 2558.pdf
iHDC-invitation Letter.doc
iHDC-Member Form Thai.doc
iHDC-Member Form English.doc
รายงานการประชุมกรรมการมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ วันที่ 15 มกราคม 2556 ฉบับสมบูรณ์


thaibetter
พัฒนาประเทศไทยแบบทวีคูณ และยั่งยืน ( ททค )

Login


แบบสำรวจ

สถิติเว็บไซด์

สมาชิก : 5609
Content : 3052
เว็บลิงก์ : 26
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 8632962

facebook

Twitter


บทความเก่า